พ.ศ. ๒๔๓๙ ร.ศ. ๑๑๕ วันที่ ๑๓ กันยายน เวลาเช้าถึงปากอ่าวเมืองนครศรีธรรมราชพระยานครศรีธรรมราชแลกรมการจัดเรือออกมารับ เข้าลำน้ำปากพระยาไปขึ้นที่วัดท่าโพ ขึ้นช้างต่อไปตามถนนหลวงจนถึงทำเนียบ ซึ่งพระยาศรีธรรมราชปลูกไว้รับที่ร่มประดู่น่ากำแพงเมือง
ราชการเมืองนครศรีธรรมราชในเวลานี้ยังไม่ได้จัดการเปลี่ยนแปลงอันใด นอกจากปราบปรามโจรผู้ร้าย ตั้งแต่พระยานครกลับออกไปจากกรุงเทพ, ได้จัดการปราบปรามโดยแขงแรง จัดเอาเปนสงบได้
นอกจากนี่มีการที่เรียกว่าจัดใหม่ แต่การเดินนาพระยานครศรีธรรมราชได้จัดให้ออกเดินหลายสาย โดยหมายจะให้การแล้วเร็วแลดีขึ้นกว่าแต่ก่อนประมาณเงินค่านาคงจะขึ้นบ้างแต่นาจะไม่ดีได้ดังเมืองสงขลา เพราะยังใช้คนเก่าโดยมาก แลไม่ได้มีการตรวจตราอันใด จะต้องหวังการดีต่อเก็บจำนวนศก ๑๑๕
อิกอย่างหนึ่ง พระยานครศรีธรรมราชได้แต่งถนนตั้งแต่ท่าโพขึ้นไปจนตลอดท้ายเมือง ได้ถางกำแพงแลเชิงเทินรอบเมืองดูสอาดสอ้านดีขึ้นกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้มีการที่แปลกตาอยู่อิก ๒ อย่าง คือ ที่มีพวกมิชชันนารีอะเมริกันออกไปตั้งสอนสาสนาคฤศเตียนอย่าง ๑ พวกมิชชันนารีนี้ได้รับพระราชทานยืมที่ริมถนนท่าโพโดยการตกลงอย่างเดียวกับเมืองราชบุรีแห่ง ๑ แต่ยังไม่ได้ปลูกสร้างอันใดนอกจากโรงจาก ๓ ห้องเปนที่พักหลังหนึ่งในที่นี้
แต่เวลาข้าพระพุทธเจ้าไปถึงพวกมิชชันนารีหาได้มีผู้ใดอยู่ไม่ สืบถามได้ความว่า มีคนเข้ารีดคฤศเตียนประมาณ ๑๐๐ เสศ แต่ที่ได้รับบัปติสม์แล้วประมาณ ๔๐ ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เห็นเอง
เมื่อเวลาผ่านไป มีผู้ชายแก่บ้างหนุ่มบ้างยืนแถวคอยรับอยู่ที่น่าบ้านมิชชันนารีประมาณ ๖ คนเท่านั้น ถ้ามีผู้คนเข้ารีดมากมายดังคำเล่าลือจริง ดูก็เปนการปลาด ด้วยมิชชันนารีพวกนี้ก็ไม่ได้ประพฤติเกี่ยวข้องแก่ราชการบ้านเมืองอย่างใด ซึ่งจะให้แลเห็นว่าพวกสานุสิสย์พากันเข้ารีดด้วยประสงค์จะพึ่งพำนักนี้ให้พ้นความไม่พอใจในการบังคับบัญชาอย่างหนึ่งอย่างใด
แม้ที่สุดโรงพยาบาลหรือโรงเรียนซึ่งเปนการแจกจ่ายให้ประโยชน์ในทางโลกย์ พวกมิชชันนารีก็ยังไม่ได้ตั้งแต่สักอย่างมีแต่การที่สั่งสอนทางธรรมแลศรัทธาของคนพวกเหล่านั้น ซึ่งได้เกิดแลศึกษามาในพระพุทธสาสนาแต่ยังเล็ก เหตุใดจึงมากลับใจไปได้
ดังนี้ เห็นด้วยเกล้า, ว่าเปนกิจซึ่งพระเถรานุเถระในสงฆ์มณฑลควรจะวินิจฉัยจงมาก
การปลาดในเมืองนครศรีธรรมราชอิกอย่างหนึ่งนั้น คือ การปฏิสังขรณ์วัดพระบรมธาตุ เปนการปลาดที่ความอุสาหะแลปัญญาของคนคนเดียวมีแต่ตัวอาจจะทำการใหญ่ได้เปนมหัศจรรย์ ข้าพระพุทธเจ้าไต่ถามได้ความ ดังจะเรียบเรียงกราบบังคมทูล, ต่อไปนี้ คือ
พระปาล ๑ รูป ๑ อายุประมาณ ๔๐ เสศ เดิมเมื่อยังเปนฆราวาศ อยู่ในเมืองนครศรีธรรมราชนี้บังเกิดสังเวศด้วยวัดพระบรมธาตุชำรุดซุดโทรมปรักหักพังเปนอันมาก ปราถนาจะปฏิสังขรณ์แต่ไม่มีกำลังสามารถจะทำการได้ จึงออกบวชเมื่อ ๗ ปีล่วงมานี้
บวชแล้วออกธุดง เที่ยวพยายามชี้แจงเกลี้ยกล่อมชาวเมืองให้ศรัทธาช่วยกันปฏิสังขรณ์ วัดพระบรมธาตุ แต่เที่ยวธุดงอยู่ดังนี้ ๔ ปี ไปได้คนศรัทธามากใน ตำบลบ้านป่าแห่งหนึ่ง พระปาลจึงชักชวนบ้านนั้นตัดไม้ผูกแพล่องมา เมืองนครศรีธรรมราช แลไปขออนุญาตต่อผู้รักษาเมืองแล้ว ก็ลงมือ ทำการปฏิสังขรณ์วัดพระบรมธาตุตามกำลังเท่าที่มีอยู่ในเวลานั้น
พอ กิติศัพท์นี้รู้แพร่หลายออกไปก็บังเกิดความปีติยินดีของราษฎรทั้งชายหญิงภากันมาช่วยตั้งแต่เมืองไทรบุรี เมืองตานี เมืองหนองจิก เมือง สงขลา เมืองพัทลุง เมืองกาญจนดิฐ ตลอดจนเมืองไชยาหลังสวน และ ในเมืองนครศรีธรรมราชเองภากันมาช่วยเปนอันมาก
ประมาณจำนวน คนที่ได้มาช่วยพระปาลทำการปฏิสังขรณ์วัดพระบรมธาตุตั้งแต่ ร.ศ. ๑๑๔ มาจนบัดนี้กว่าสองหมื่นคน มีคนทำการวันละพันบ้าง หกร้อย เจ็ดร้อยบ้าง ห้าร้อยเปนอย่างต่ำดูผู้คนทำการล้นหลามเหมือนกับการ เมรุกลางเมือง แลมีคนทุกขนาดแลชะนิดต่างคนต่างทำการปะปนกัน ไป บางคนแก่อายุถึง ๖๐ เจ็ดสิบขึ้นไปถือปูนแลมุงกระเบื้องอยู่บน หลังคา บางคนช่วยขนอิฐบ้าง ถากไม้ไสกบบ้าง ดูเต็มใจทำด้วยกัน หมดทุกคนเปนการปลาดได้แลเห็นก็ต้องเกิดปีติยินดีด้วยเปนอันมาก
ข้าพระพุทธเจ้าได้ไปตรวจตราแลไล่เลียงพระปาลถึงวิธีจัดการได้ความ ว่า คนที่มาช่วยทำการนั้นแล้วแต่คนศรัทธาที่มีทรัพย์จะให้เงินช่วยก็ได้หรือจะตัดไม้หาของป่าแม้ที่สุดเสบียงอาหารมาช่วยก็ได้ หรือถ้าจะช่วยด้วยน้ำพักน้ำแรงใครจะมาช่วยคนละกี่วันก็ตามใจ แลวิธีจัดการแบ่งน่าที่นั้น ในส่วนผู้ชายถวายตัวเปนโยมอุปะฐากรับทำการวิ่งเต้น เบ็จเสร็จอยู่นานวันมีประมาณ ๖๐ คน
พวกนี้พระปาลจ่ายเสื้อดำ กังเกงดำให้แต่งตัวแปลกกว่าพวกอื่นสำหรับใช้สอยวิ่งเต้นติดตามผู้คน หรือยกขนของเล็กน้อยต่างๆ
นอกจากคนพวกนี้ผู้ใดสันทัดในการไม้ก็จ่ายไปเข้ากองช่างไม้ ผู้ใดสันทัดในการปูนก็จ่ายไปเข้ากองช่างปูน
ที่ไม่สันทัดอย่างหนึ่งอย่างใดก็ให้ทำการกุลียกลากขนต่างๆ ส่วนผู้หญิงนั้นปันเปนเวรกันเข้าโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยงพวกคนทำการทั้งเช้าเย็น
ถ้าถึงวันพระพวกชาวบ้านยังหาขนมแลผลไม้มาทำบุญอิกส่วนหนึ่ง ตัวพระปาลเองนั้นปลูกกระท่อมเล็กอยู่ริมวัดพระบรมธาตุดูแลอำนวยการทั่วไป การที่ได้ทำแล้วในเวลานี้ทำเครื่องบนวิหาร แล้วสองหลัง ทำเครื่องบนพระระเบียงสำเร็จแล้วสองด้าน แลมีพระ ผู้ช่วยของพระปาลอยู่ที่วัดปากพนังอิกรูปหนึ่งชักชวนชาวบ้านนั้นมา ช่วยทำถานพระศรีมหาโพธิอิกส่วนหนึ่ง
การที่ทำนี้คงจะสำเร็จในต้น ศก ๑๑๖ เว้นแต่พระอุโบสถหลังหนึ่งนั้นพระปาลร้องต่อข้าพระพุทธ เจ้าว่าเปนการใหญ่อยู่ แต่คงจะคิดปฏิสังขรณ์โดยเต็มกำลังที่จะทำได้
ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้า, ว่าเงินค่านาขึ้นพระบรมธาตุในเมือง นครศรีธรรมราชอยู่ประมาณปีละ ๔๐ ชั่ง ถ้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้า, พระราชทานเงินรายนี้ให้พระปาลเปนนายงานทำการปฏิสังขรณ์พระ อุโบสถคงจะสำเร็จได้เร็วขึ้น
ข้าพระพุทธเจ้าได้ถ่ายรูปพระปาลรูปหนึ่ง รูปคนทำงานวัดพระบรมธาตุรูปหนึ่ง รูปคนเอาของมาช่วยวันพระรูป หนึ่ง มาทูลเกล้า, ถวายทอดพระเนตรด้วยแล้ว
ในเวลาพักอยู่ในเมืองนครศรีธรรมราชครั้งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้ อาราธนาพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ที่ทับกระเษตร (คือ ระเบียงรอบ พระมหาธาตุ) ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าพระอรรคราชเทวีได้พระราชทาน เงินให้พระยานครศรีธรรมราชปฏิสังขรณ์นั้น แลรุ่งขึ้นได้ถวายอาหาร บิณฑบาตรแลได้เวียนเทียนสมโพชพระบรมธาตุในเวลาบ่ายด้วยน้ำใจ ศรัทธา ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานถวายพระราชกุศล.
------------------
ที่มา : การเสด็จตรวจราชการหัวเมืองของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |