20 ก.พ.63-นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่าในที่ประชุมได้รายงานมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่เห็นชอบยุติข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM โดยให้มีการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน ข้อพิพาทและถอนฟ้องทั้งหมด 17 คดี โดยสัญญาระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A ช่วงรัชดาฯ-พระราม 9 ส่วน B ช่วงพญาไท-บางโคล่ และส่วน C ช่วงแจ้งวัฒนะ-รัชดาฯ จะสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563
นายสุรงค์ กล่าวว่าขณะนี้ทั้ง BEM-กทพ.อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญญาในส่วนของรายละเอียดกระบวนการ เพื่อความรอบคอบและครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การจราจร ความปลอดภัย ด้านวิศวกรรม การบำรุงรักษาต่างๆ โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาแก้ไข ได้ภายในสัปดาห์นี้ ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด จะช้าไม่ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญา ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ กทพ.และ BEM จะต้องไปดำเนินการถอนฟ้องทั้งหมด 17 คดีโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากยังถอนฟ้องไม่เรียบร้อยอาจจะมีการใช้วิธียึดรายได้จาการเก็บค่าผ่านทางไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกัน และจะคืนให้ภายหลังเมื่อได้มีการดำเนินการถอนฟ้องเรียบร้อยครบทุกคดีแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากก่อนที่จะถอนฟ้องต้องลงนามในสัญญาสัมปทานใหม่ก่อนเพื่อแสดงให้เห็นว่าข้อพิพาททั้งหมดได้ยุติลงแล้ว
สำหรับสิทธิต่อสัญญานั้นในสัญญาดังกล่าวได้มีการระบุชัดเจนว่าการขยายสัญญาสัมปทานครั้งนี้เป็นการต่อสัญญาตามสิทธิของสัญญาเดิมที่ทาง BEM สามารถเจรจาต่อสัญญาได้ครั้งละ10 ปี 2 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่ทาง ครม.มีมติให้ขยายสูงสุด 15 ปี 8 เดือน เท่ากับว่า BEM จะมีสิทธิต่สัญญาแค่ 4 ปี 4 เดือนเท่านั้น
"คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้วันไหน เพราะจะต้องดูรายละเอียดและทาง กทพ.และBEM จะต้องเตรียมหนังสือไปเพื่อขอถอดถอนคดีทั้งหมด 17 คดี ที่จะต้องทำคู่กัน รวมถึงทางอัยยการสูงสุดได้เตรียมบุคลากรเพื่อเข้ามาช่วยดำเนินการพิจารณาดังกล่าวด้วย" นายสุรงค์กล่าว
นายสุรงค์ กล่าวต่อว่าที่ประชุม บอร์ดได้มีมติยับยั้งใบลาออกของนายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน ที่ได้มีการยื่นทำหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งใน กทพ. โดยก่อนหน้านี้ได่รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้วว่าฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะมีผลในวันที่ 3 มี.ค.2563 แต่ในที่ประชุมคณะกรรมการฯได้ลงความเห็นว่ายังเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นประโยชน์กับ กทพ. ได้ และที่ประชุมได้แต่งตั้งนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้ว่าการ กทพ.ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป
“ยืนยันว่าคุณวิชาญมีปัญหาด้านสุขภาพจริง จึงต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวแต่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เพียงแต่ไม่พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการผู้ว่า กทพ.ก็เท่านั้น”นายสุรงค์ กล่าว
นายสุรงค์ กล่าวว่าในส่วนของกระบวนการสรรหาผู้ว่า กทพ.คนใหม่ ที่มี นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จะได้เร่งการสรรหา โดยนายวิชาญ ได้บอกว่ามีความหมายสมัครใจที่จะรับตำแหน่งนี้ในช่วงที่มีรอยต่อขณะนี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |