'บทบาท กมธ.ที่น่าทบทวน'


เพิ่มเพื่อน    

                "ทศกัณฐ์" ว่ามี ๑๐ หัว ๑๐ หน้า

                แต่สู้ "ปิยบุตร" ไม่ได้

                หัวเดียว-หน้าเดียว แสดงได้ทุกบท!

                ในมหา'ลัย แสดงบทอาจารย์กฎหมาย, ในพรรค แสดงบทเลขาฯ, ในสภา แสดงบทนักอภิปราย, ในศาล แสดงบททะแนะ

                เละทุกเรื่อง!

                และในคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร........

                ยังสวมบท "ประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน"

                อีกเยอะแยะ

                รวมทั้งนักปลุกปั่น ให้นักศึกษา-ประชาชน เกิดทัศนคติปฏิปักษ์ ต่อระบบ-สถาบันพระมหากษัตริย์

                จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นแบบฝรั่งเศส หลังโค่นล้มระบบกษัตริย์ท่าเดียว!

                เมื่อวาน (๑๙ ก.พ.๖๓) เห็นแล้วขำในใจ ปิยบุตรใช้อำนาจในหัวโขน ประธาน กมธ.การกฎหมายฯ

                เรียก ผบ.ตร. "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" ไปชี้แจง ในหัวข้อ ว่า

                "สืบหาข้อเท็จจริงการใช้อำนาจแทรกแซงการจัดงานวิ่งไล่ลุง"

                เอาล่ะ...ในเมื่อมึงกล้าเรียก

                กูก็จะไป

                เมื่อวาน พล.ต.อ.จักรทิพย์, พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข จึงยกคณะตำรวจไปนั่งเป็นแผง

                ให้ กมธ.คณะปิยบุตร เลือกซัก เลือกถาม พอใจ-ไม่พอใจคนไหน กระชากคอถามได้เลย

                พรรณิการ์ ถามถึงแนวทางการปฏิบัติของตำรวจที่ใช้ควบคุมการวิ่งไล่ลุง เมื่อเดือนมกรา

                ถามถึงแนวทางการปรับเปลี่ยนแผนการสืบสวนหาข่าวชุมนุมของตำรวจ

                คุณเธออ้าง ที่ผ่านมาเป็นวิธีที่กระทบเสรีภาพประชาชน ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมแก่ประชาชน

                และใครต่อใคร รวมทั้งนายปิยบุตร นายโรม ก็ซักกันใหญ่ ผบ.ตร.จักรทิพย์, รองฯ สุวัฒน์ ก็ตอบไปตามเนื้อผ้า ปกติท่าน "เจ็บคอเรื้อรัง" อยู่แล้ว จึงหนักเนื้อ เบาน้ำ

                ที่ผมขำ คือ........

                วันนี้ ปิยบุตร พรรณิการ์ โรม แสดงเหมือนอยู่ในบทตำรวจ "เจ้าพนักงานสอบสวน"

                ส่วน พล.ต.อ.จักรทิพย์, พล.ต.อ.สุวัฒน์ ถูกกดเป็นผู้ต้องหา ในสภาพถูกตำรวจสอบปากคำและกำลังให้การ

                ดูมาดประธานปิยบุตรและคณะสานต่อประชาธิปไตยคณะราษฎร ๒๔๗๕

                ประกอบด้วย พรรณิการ์ และท่านโรม เวียนกันจิก "จำเลยในเครื่องแบบ" วันนี้แล้ว

                หลับตานึกไปหลังวันที่ ๒๑ กุมภา

                สมมุติ อนาคตใหม่ถูกยุบพรรค นายปิยบุตร นางสาวพรรณิการ์ ในฐานะ กก.บห.ต้องสิ้นสภาพ ส.ส.(ยกเว้นนายโรม)

                "สิ้นบารมีสภา" คุ้มกะลาหัว

                หลวงรู้รอบกฎหมายอย่างปิยบุตร เข้าใจว่ายังไม่เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีใดๆ

                แต่นางสาวพรรณิการ์นี่ซี มีหมายเรียกจ่อรอคาอยู่

                อ้างสิทธิ "ระหว่างสมัยประชุม" มาเรื่อยๆ

                ตานี้แหละ "หมดสิทธิ-หมดสภาพ"

                ก็เตรียมตัวเหอะ หัวโขน ส.ส.-หัวโขน กมธ.หลุดหมด

                เหลือแต่หัวโขน "ผู้ต้องหา" ไม่รู้กี่หมาย-ต่อกี่หมาย

                ตานี้แหละ จากบท กมธ.จ้องตาจิกเขา ไปอยู่ในบทผู้ต้องหาให้ตำรวจเขาจ้องตาบ้าง

                ก็อย่าไปทำตาขวางถามหาสิทธิมนุษยชนตอนนั้นให้มากนัก

                เพราะจะถ่ายหนัก-ถ่ายเบา กินน้ำ กินท่า พบทนาย ทำ ๓ เหลี่ยมรูปกางเกงในถ่ายรูป ยื่นประกันที่ศาล ไม่มีใครว่า ได้ทั้งนั้น

                ยกเว้น จัดอีเวนต์ชังชาติ อย่างที่ถนัด!

                พูดก็พูดเถอะ วงรอบชีวิตผม ก็เห็นบทบาท ส.ส.ในระบบรัฐสภามาก็หลายชุด

                มีชุดนี้แหละ ส.ส.ซีกค้าน ๒-๓ พรรค ทำให้ภาพลักษณ์สภาผู้แทน "ต่ำสุด"

                โดยเฉพาะการใช้อำนาจในฐานะ "กรรมาธิการฯ" เรียกคนนั้น-นี้ มาซักถาม

                จะอ้างว่า กฎหมายให้อำนาจ จะเรียกใครในประเทศไทยมาซักถามได้ทั้งนั้น

                นั่นก็ไม่ผิด

                แต่ควรเข้าใจ ไม่มีกฎหมายที่ไหนในโลก จะเขียนจาระไนครอบคลุมได้หมดทุกเรื่อง

                ดังนั้น การใช้กฎหมาย จึงต้องใช้ "สำนึกมนุษย์" ควบคู่ไปด้วย จึงจะยังประโยชน์ตามเจตนารมณ์กฎหมาย

                แต่ กมธ.บางคณะของสภาผู้แทนชุดนี้ ใช้อำนาจ กมธ.ส่อไม่สุจริตในเจตนา

                เปลืองสถานที่ เปลืองแอร์ เปลืองไฟ โดยใช่เหตุ ส่อไปทางว่า

                -ฉกฉวยเพื่อใช้ล้างแค้นแทนพวกบ้าง

                -เป็นไปเพื่อเฉพาะตน-เฉพาะฝ่ายบ้าง

                -เพื่อแสดงอำนาจ เรียกคนมากดข่มบ้าง

                เช่น เรียกนายกฯ บ้าง ผบ.เหล่าทัพต่างๆ บ้าง อย่างเมื่อวาน เรียก ผบ.ตร.มาชี้แจง

                เรียกน่ะ...เรียกได้ ถามว่า เรียกมาด้วยเรื่องอะไร?

                เรื่อง "จัดงานวิ่งไล่ลุงว่ามีอำนาจแทรกแซงการจัดงาน"?

                แค่นี้น่ะหรือ

                เป็นเรื่องระดับชาติ ถึงขั้น กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ต้องเรียกระดับ "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ไปชี้แจง?

                ถามกันตรงๆ.........

                ถ้าไอ้คนจัดงาน กับ กมธ.ชุดนี้ ไม่ได้สุมหัวจัดด้วยกัน

                เรื่องแทรกแซงที่ว่านี้ จะสำคัญเป็นประเด็นถึงขั้น กมธ.ต้องเชิญระดับ ผบ.ตร.มาชี้แจงมั้ย?

                และ "วิ่งไล่ลุง" น่ะ ถามตรงๆ ประธาน กมธ.เอาจิตสำนึกคนตอบซิ

                ที่จัดน่ะ บริสุทธิ์หรือแอบแฝงในเจตนา?

                ความจริงน่ะนะ......

                ตำรวจ ต้องจิกกระบาลไอ้ตัวการไปชี้แจง ไม่ใช่ให้พวกตัวการใช้อำนาจในคราบ กมธ.เรียกตำรวจมาชี้แจงอย่างนี้

                จะว่าไปแล้ว แก๊งนี้ เหมาะที่เป็น กมธ.กฎหมาย เพราะเข้าถึง "ระบบกล่าวหา"

                ตีหัวเขา แต่รีบไปแจ้งความก่อน ได้เปรียบเป็นโจทก์ ส่วนคนถูกตีหัว มัวไปเย็บแผล เลยตกเป็นผู้ต้องหา!

                กมธ.กฎหมายก็ทำนองนี้ งานวิ่งไล่ลุง ทั้ง กมธ.และคนจัด แก๊งเดียวกัน เสร็จแล้ว.......

                ไม่รู้แหละ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง

                กูรีบเข้าสภา สวมหมวก กมธ.กฎหมาย เป็นโจทก์เรียกตำรวจมาชี้แจง ได้ภาพเป็นฝ่ายโจทก์ไว้ก่อน

                มันก็เท่านี้ ส.ด.แปลว่า สันดาน!

                เห็นอ้างสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม ก็ดีแล้ว จะถามบ้างว่า "สวนรถไฟ" หรือสวน "วชิรเบญจทัศ" นั้น

                ปิยบุตร พรรณิการ์ ในฐานะ กมธ.การกฎหมายฯ ทราบหรือไม่ว่า ที่เขาแปลงสนามกอล์ฟรถไฟมาเป็นสวนวชิรเบญจทัศนี้

                มีกรอบ-ขอบเขตเพื่อการใดบ้าง?

                ไม่ทราบก็จะบอก..........

                สวนนี้ เขาออกแบบด้วยเป้าหมายให้มีสิ่งต่างๆ ดังนี้

                -เลนสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ รอบๆ สวน

                -อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ   

                -สวนนันทนาการชุมชนรถไฟ มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก

                -ใช้ตั้งค่ายพักแรมของเด็กนักเรียนเยาวชน

                -สวนป่าใหญ่ในเมือง จำลองระบบนิเวศวิทยาของป่าเพื่อทำกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติ เพื่อการเรียนรู้

                -เมืองจราจรจำลอง จำลองสิ่งก่อสร้างและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทยมารวมกันไว้

                -ศูนย์รวมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายครบวงจร

                -สวนปิกนิก ฟ้าใส ไม้สวย ด้วยแรงใจ ปตท.สผ.

                และ.......

                -หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ สวนโมกข์กรุงเทพฯ

                ก็จะเห็นว่า สวนรถไฟ ไม่ใช่สถานที่ใครจะเข้าไปจัดงานระดมคนเป็นพัน-เป็นหมื่นไปวิ่ง

                เขาออกแบบมาเพื่อสาธารณประโยชน์เหล่านั้น ซึ่งไม่มีตรงไหนระบุหรือเอื้ออำนวยให้เข้าไปวิ่งกันในลักษณะนั้นได้

                ปิยบุตรก็ดี พรรณิการ์ก็ดี เห็นหยิบยกเรื่องเสรีภาพมารุกไล่ ผบ.ตร.ก็ลองตอบซิ

                ที่ยกฝูงกันเข้าไปวิ่งอย่างนั้น........

                ทำลายสิทธิเสรีภาพคนอื่นมั้ย ยุติธรรมกับคนอื่นมั้ย และเป็นไปตามเจตนารมณ์กฎหมายมั้ย?

                ตำรวจต้องเชิญพวกนี้ไปตอบคำถามบ้าง แล้วส่งไปให้ประธานรัฐสภาชวนดู

                ว่าเนี่ย...ลูกสภาเหมือน "โจรเริงเมือง" หรือไม่? 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"