19 ก.พ.2563 - ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเวทีสภาในประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ
โดยนายธีระชัย กล่าวว่า เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นเวทีที่ประชานให้ความสนใจอย่างมาก เพราะมันร้างมานาน ซึ่งประชาชนตั้งความหวังให้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ทั้งนี้ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลมันครอบคลุมทุกด้าน จากเดิมที่มีการเรียกร้องว่า ควรต้องมีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง จนนำไปสู่การรัฐประหาร
คำถามคือ 6 ปีที่ผ่านมา เกิดการปฏิรูปในด้านต่างๆ มากพอหรือไม่ และอย่างไร นี่คือสิ่งที่ตนคิดว่าควรนำมาเป็นเรื่องถกแถลงกันในการอภิปรายครั้งนี้ ขณะที่การปฏิรูปที่คืบหน้าจริงๆ อาจเป็นแค่เรื่องการทหารเท่านั้น ทีเราเห็นข่าวที่ผบ.ทบ.ออกมาพูดเรื่องบ้านพัก และธุรกิจของทหาร ทั้งที่หลายธุรกิจ พบว่า ผู้บัญชาการทหารบกนั้นเป็นประธาน โดยตำแหน่งด้วยซ้ำ การทีท่านออกมาชี้เรื่องผลประโยชน์สีเทาที่ต้องมีการรื้อ มีการเซ็น MOU ให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนนึกไม่ถึง
“เห็น ผบ.ทบ.ผ่านมาหลายคนมาก แต่ไม่เคยมีใครหยิบประเด็นนี้มาพูดเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่กองทัพบกควรจะได้เครดิต เพราฉะนั้นเราจึงต้องกลับไปถามรัฐบาลว่ามีเรื่องอื่นนอกจากการทหารที่คืบหน้าบ้างหรือไม่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพ และชี้จุดที่ยังขาด โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสอบด้านทุจริต สำคัญมากกว่ากรตรวจสอบว่าทำงานครบถ้วนหรือไม่ แต่การทุจริตเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เป็นสิ่งที่ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้”
นายพิชัย กล่าวว่า สิ่งที่ผมกังวลคือ เศรษฐกิจไทยเสื่อมถอย และจะทุกไปเรื่อยๆ แล้วมันไม่ฟื้นจากสถานการณ์ที่กำลังเผชิญจีดีพีไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาโตเพียง 1.6 ต่ำที่สุดในรอบ 21 ปี ทำให้ทั้งปีได้ 2.4 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี นี่ขนาดยังไม่มีไวรัส โควิค -19 เนื่องจาก 5 ปีที่ผ่านเศรษฐกิจ พึ่งการท่องเที่ยวและการส่งออก พอมีไวรัสเข้ามา ก็อาจจะเกิดปัญหาเข้าไปอีก ขณะที่การลงทุนช่วงปี 2555 2556 มีงบส่งเสริมการลงทุนกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ขณะที่ช่วง 4 ปีผ่านมามีการส่งเสริมการลงทุนเพียงประมาณ 600,000 ล้านบาท แต่ประชาชนรายได้เท่าเดิม มีแต่เจ้าสัวที่รวยขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐแทนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ก็เอามาแจกเงินแบบซี้ซั้ว ขณะที่ ดร.สมคิด เคยพูดอยู่ว่าประเทศเรากระตุ้นเศรษฐกิจโดยการกระตุ้น กระตุ้นแต่ไม่พัฒนา และทุกวันนี้รัฐบาลก็ยังทำแบบนั้นอยู่
”ตอนนี้มันทรุดหนัจริงๆแล้ว แบบไม่เห็นว่าจะกลับมาอย่างไร พอไวรัสผ่านแล้ว กว่านักท่องเที่ยวจะมาก็ต้องใช้เวลา ส่งออกก็แย่ การลงทุนก็ไม่มี แบบที่บอก ขนาดตอนไม่มีไวรัสจีดีพียังเหลือ 1.6% ประเทศไทยอาจเป็นแบบพม่า ในอนาคตลูกจ้างเราต้องไปเป็นกรรมกรในประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ต้องไปรับจ้างอุ้มบุญ มันใช่หรือ”
นายพิชัยกล่าวว่า รัฐต้องเร่งเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส หากต้องการเร่งปรับอะไรในประเทศ โดยขอเสนอ 1.ดูแลเรื่องส่วนต่างดอกเบี้ย เงินฝากและเงินกู้ 2.การปรับลดราคาพลังงาน 3.การปรับปรุงโครงสร้างภาษี ที่ทุกวันนี้คนจนก็ยิ่งจน คนรวยก็ยิ่งรวยกว่าเดิม 4.การลดงบทางการทหารของกองทัพออกมาใช้ทางเศรษฐกิจ 5.รัฐบาลต้องตั้งหน่วยงาน กรณีการยิงกราดที่อาจเกิดการเลียนแบบขึ้น เพราะตอนนี้เศรษฐกิจแย่ คนก็เครียดขึ้นเรื่อยๆ 6.ให้ผู้นำเจรจาของภาคการผลิตที่กำลังจะออกนอกประเทศ 7.แก้ปัญหาฝุ่นควัน 8.แก้ปัญหาเงินบาทอ่อนตัว 9.หารายได้โดยการพิจารณาพื้นที่ดินแดนไทย-กัมพูชา มาใช้ ซึ่งการเจรจากับกัมพูชาแล้วเอาแก๊สมาแบ่งกัน แต่ไม่ได้หมายถึงการแบ่งแยกดินแดน 10.สนับสนุนและปรับปรุงสิทธิประโยชน์ขงบริษัทเทคโนโลยีของประเทศไทย 11.สังคายนาปัญหาการใช้อำนาจรัฐและที่ดินของรัฐ และ 12.การกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ไม่ใช่การเอาเงินไปแจกฟรี
ด้านนายศรีสุววรณ กล่าวว่า ผมผิดหวังฝ่ายค้านชุดนี้กล้าเปิดอภิปรายฯ เพราะเห็นว่าฝ่ายค้านคิดว่าตัวเองเป็นเทวดา และไม่สนใจการเชื่อมโยงข้อมูลกับภาคประชาชน คิดว่า ส.ส.มีข้อมูลที่จะเอาไปอภิปรายผู้มีอำนาจ ที่สำคัญคือ ข้อมูลเหล่านี้มีเยอะ แต่ว่ามันไม่ได้อยู่ในมือของฝ่ายค้านทั้งหมด รวมทั้งหน่วยงานราชการกันเอง อย่าลืมว่าบวกก็มีลบ ที่พร้อมจะสนอบตอบข้อมูลให้ ตนก็ยังเงียบรอฟังว่า เมื่อไรจะมีฝ่ายค้านเปิดตู้ ปณ.รับเรื่อง ซึ่งก็เห็นแต่เขานั่งแถลงโวว่า จะล้มอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะล้มอย่างไร
นายศรีสุวรณกล่าวอีกว่า การบริหารของรัฐบาลประยุทธ์ ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวมากมายไปหมด อย่างเรื่องเมเกะโปรเจกต์ ก็เป็นเรื่องที่ควรถูกนำมาตีแผ่ให้สังคมรับทราบ ล่าสุดเห็นว่ามี ส.ส.ท่านหนึ่งเปิดเผยเรื่องการให้เช่าศูนย์ประชมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยากเห็นและคิดว่าเป็นข้อมูลที่น็อครัฐบาลได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |