แชมป์ยุโรป ลิเวอร์พูล พร้อมเต็มสูบทำศึกยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรก รอบ 16 ทีม เตรียมส่ง ซาดิโอ มาเน่ ลงเป็นตัวจริงรัวเจ้าบ้าน แอตเลติโก มาดริด ก่อนในคืนวันอังคารนี้ โจ โกเมซ รับ มาเน่ ลงได้ เพิ่มกำลังให้ทีมได้มาก ขณะเดียวกันก็เปผ้นข่าวร้ายสำหรับคู่แข่งทุกทีม
    ลิเวอร์พูล ที่ใกล้จะได้ครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ เป็นสมัยแรกในรอบ 30 ปี อยู่ในช่วงพีคสุดขีด และมีโอกาสที่จะบุกไปพิชิตทีมของ ดิเอโก ซิเมโอเน่ ได้ เพื่องานที่ง่ายขึ้นก่อนกลับไปเตะที่แอนฟิลด์ สำหรับเกมเลกสอง ในวันที่ 11 มีนาคม
    โดยหลังจากที่ชนะได้เพียงแค่นัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุดจากทุกรายการ ก็ยากที่จะเชื่อได้ว่า แอตเลติโก จะระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาในได้ในการเจอกับทีมที่แกร่งที่สุดในเวลานี้ แม้เตะในสนามของตัวเองก็ตาม
    แอตเลติโก มาดริด เวลานี้ รั้งที่ 4 ของตาราง ในศึกลาลีกา คะแนนห่างจาก อันดับ 6 บียาร์เรอัล อยู่เพียง 2 แต้ม
    และแม้จะแพ้ไป 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ แอตเลติโก ก็ยังสามารถเข้ารอบ 16 ทีมมาได้โดยเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลัง ยูเวนตุส ทีมแชมป์จากอิตาลี
    การเผชิญหน้ากันในคืนวันอังคารนี้ จะเป็นการพบกันครั้งที่ 5 ระหว่าง แอตเลติโก กับ ลิเวอร์พูล ในฟุตบอลยุโรป โดยทีมยักษ์ใหญ่ของ สเปน เคยคว้าชัยเข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล ในผลเสมอ 2-2 ที่ทั้งสองทีมเจอกันในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลยูโรป้า ลีก ปี 2010
    แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ทีมต้องมาพบกันในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2008-09 โดยทั้ง 2 เกมตอนนั้น จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ทั้ง 2 เกม
    สำหรับ ลิเวอร์พุล จนถึงตอนนี้ ชนะในการดวล 2 เลกในฟุตบอลยุโรปมาแล้ว 11 ครั้ง และ แอตเลติโก ก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อฤดูกาลก่อนๆ เทียบฟอร์มแล้วถือว่าเป็นรอง ลิเวอร์พูล ชัดเจนแม้จะเล่นในบ้าน สิ่งที่ ซิเมโอเน่ จะหวังได้ คือจบเลกแรกแล้ว ยังพอมีความหวังในการลงเตะเลกสองที่แอนฟิลด์ในเดือนหน้า
    ข่าวดีสำหรับ ลิเวอร์พูล คือการได้ ซาดิโอ มาเน่ ฟิตกลับมาแล้ว รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ โดย ดาวยิงเซเนกัล คาดว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ในคืนวันอังคารนี้ หลังจากได้ลงเคาะสนิมและยิงประตูชัยให้ทีมได้ในเกมกับ นอริช เมื่อคืนวันเสาร์
    จอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม น่าจะได้ลงเล่นพร้อมกับ ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในแดนกลาง ขณะที่ โจ โกเมซ จะได้ยืนเป็นหัวใจในแนวรับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
    ก่อนเกมที่ ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ โจ โกเมซ ออกมายอมรับว่า การกลับมาของ มาเน่ ช่วยเพิ่มคึวามมั่นใจให้กับทีมได้อย่างมาก แต่ก็เป็นข่าวร้ายสำหรับคู่แข่งทุกทีมของ ลิเวอร์พูล
    "เขาเป็นผุ้เล่นที่สำคัญมาก เขายิงให้เราได้หลายประตูแล้วในปีนี้ นัดที่แล้วก็ทำได้อีกทั้งที่ลงสนามไปได้ไม่นาน เราโชคดีที่มีเขาอยู่ในทีม การที่เขามีชื่อเป็นสำรองในเกมก่อนหน้านี้ก็เป็นเรพาะอาการบาดเจ็บ"
    ส่วนอีกเกมในคืนวันเดียวกัน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะเปิดบ้านรับการไปเยือนของ ปารีส แซงต์ แฌร์แม็ง โดยฟอร์มของทีมเจ้าบ้านในฟุตบอลยุโรป พวกเขาเก็บไป 10 แต้มจากการลงสนาม 6 นัดในกลุ่ม เอฟ ฤดูกาลนี้ เข้ารอบมาเป็นที่สองตามหลัง บาร์เซโลน่า
    ดอร์ทุมุนด์ เข้ามาจอดเพียงแค่รอบนี้เมื่อปีที่แล้ว โดยแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เท่ากับว่า ทีมเสือเหลืองยังไม่สามารถทะลุถึงรอบควอร์เตอร์ไฟนอล รายการนี้ได้นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 ซึ่งเป็นที่ประหลาดใจของหลายๆคนเมื่อดูจะขุมกำลังและคุณภาพของนักเตะภายในทีม
    ดอร์ทมุนด์ กับ เปแอสเช เจอกันมาก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง เกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2010-11 โดยเกมจบลงด้วยผลเสมอทั้ง 2 นัด ก่อนที่พวกเขาจะผงาดถึงรอบชิงชนะเลิศ ในปี 2013
    การจะเอาชนะทีมแชมป์ลีกเอิง ที่เต็มไปด้วยสตาร์อย่าง เปแอสเช ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ทีมของ ลูเซียง ฟาฟวร์ อย่างน้อยก็ได้เปรียบจากการเป็นเจ้าบ้าน และก่อนเกมนี้ก็เพิ่งอุ่นเครื่องด้วยการไล่ถล่ม ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ตมา 4-0 เมื่อคืนวันศุกร์
    พวกเขายังมีนักเตะสุดฮ็อตที่เป็นที่ต้องการทั่วยุโรปอย่าง เจดอน ซานโช ทำเกมรุกจากริมเส้น ซึ่งเกมล่าสุดก็ยิงได้ ขณะที่หัวหอกดาวรุ่งคนใหม่ที่เพิ่งได้มาอย่าง เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ ก็ฟอร์มร้อนแรงสุดขีด ยิงไปแล้ว 9 ประตูจาก 6 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อเดือน มกราคม
    แต่แนวรุกของ เปแอสเช อาจเหนือไปอีกขั้นด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง คีลิย็อง เอ็มบัปเป้ กับ เนย์มาร์ แต่เกมล่าสุด ทำแฟนๆผิดหวังได้เหมือนกัน หลังจากทำได้แค่เสมอ อาเมียงส์ 4-4 ในเกมลีกเอิง เมื่อคืนวันเสาร์ แต่โอกาสแชมป์ลีกสมัย 9 ก็ค่อนข้างแบเบอร์หลังจากทิ้งห่างไปแล้ว 13 แต้ม
    ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมเลกแรก คืนวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ มีเตะ 2 คู่ แอตเลติโก มาดริด พบ ลิเวอร์พูล  และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบ ปารีส แซงต์ แฌร์แม็ง คิกออฟพร้อมกันเวลา ตี 3.00 น.ตามเวลาไทย