นานๆ ที...ถึงจะได้มีโอกาส จงจะระเที่ยว-เทียวบะทะไป-พงพะนะไพร-ไศละลำเนา เหมือนอย่างใครต่อใครเขามั่ง และการที่ต้องแวบหาย หายหน้า-หายตาไปร่วมๆ สัปดาห์ เลยทำให้แทบไม่มีโอกาสได้รับรู้ข่าวสาร ความเป็นไปของบ้าน-ของเมือง ซึ่งต้องถือว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ช่วยให้เกิดความเจริญ เติบโต ต่อสติ-ปัญญา-และสมาธิ เป็นอันมาก...
--------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...แม้ต้องหวนกลับมาเปิด เล้าไก่ หรือต้องมุดเข้าไปใน เข่งไก่ ต่อไปกันตามสภาพ ฉากสถานการณ์ความเป็นไปในเข่งไก่-เล้าไก่ หรือฉากสถานการณ์ความเป็นไปของบ้าน-ของเมืองโดยรวมๆ แล้ว ก็น่าจะไม่ได้มีอะไรผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิมๆ มากมายซักเท่าไหร่ คือยังเต็มไปด้วยบรรยากาศของการไล่จิก ไล่ตี ไล่กัด ไล่งับ แบบชนิด แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง อย่างแทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้จะผ่านตรุษฝรั่ง ตรุษไทย ตรุษจีน มานานพอสมควรแล้วก็ตาม...
---------------------------------------------
สำหรับ ไก่ประยุทธ์ ไก่ป้อม ไก่ป๊อก นั้น...โดยลักษณะอาการออกจะหนักอยู่ซักหน่อย ปีกลู่ หางตก หงอนช้ำ หอบหายใจถี่ๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้จะโปะขมิ้น โด๊ปยา ไม่ว่ายาตี ยาเร่งบิน อะดรีนาลีน ยาโด๊ปน้ำแดง ยาลดบวม ยาทน ฯลฯ ไปถึงขั้นไหน แต่ด้วยเหตุเพราะ ดวงเมือง หรือ ดวงส่วนบุคคล ก็มิอาจสรุปได้ เลยถูกรุมจิก รุมตี รุมสกรัม ชนิดเผลอๆ...อาจต้องกลายสภาพเป็น ไก่หงอย เอาง่ายๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกุมภาฯ ที่กำลังจะมาถึง หรือในช่วง ศึกวันทรงชัย ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลนั่นเอง...
--------------------------------------------
และอาจด้วยเหตุที่ ไก่ป๊อก ไก่ป้อม และ ไก่ประยุทธ์ นั้น...ถือเป็นไก่เลี้ยงในค่ายทหารมาตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที การแยกห่าง แยกขาด ระหว่าง ทหาร กับ การเมือง มันเลยไม่สามารถทำได้ถนัดถนี่มากมายซักเท่าไหร่ ดังนั้น...เมื่อไก่เหล่านี้เกิดอาการหางตก หัวตก หงอนบวม หงอนช้ำ มันก็เลยย่อมส่งผลต่อ กองทัพ มากบ้าง น้อยบ้าง ไปตามสภาพ ชนิดเล่นเอาไก่ชนพันธุ์ดีไม่น้อยไปกว่าไก่ชนระดับป่าก๋อย เขียวเลาหางขาว หรือเขียวหางดำ ฯลฯ อย่าง ไก่บิ๊กแดง ถึงขั้นน้ำตาร่วง น้ำตาไหล น้ำตาลูกผู้ชายต้องไหลรด รินหลั่ง ต่อหน้าสาธารณชน หน้าจอทีวีกันซะดื้อๆ...
-----------------------------------------------
ส่วนบรรดาไก่ที่ร่วมๆ อยู่ในคณะรัฐบาล...ซึ่งออกจะหนักไปทางไก่แจ้ ไก่อู ไก่ตอน ฯลฯ หรือเหมาะที่จะนำไปทำเป็น ข้าวมันไก่ มากกว่าจะเอาไปตี ไปชน กะใครต่อใครได้แบบถนัดถนี่ นอกจากไม่ได้มีส่วนช่วยให้อะไรต่อมิอะไรมันดูดีขึ้นมามั่ง เผลอๆ อาจเป็นอะไรที่เกะกะมือ เกะกะตีน กลายเป็นตัวถ่วง ตัวฉุดรั้ง ไม่ให้สามารถออกอาวุธได้แบบจะจะ จังจัง อย่างเท่าที่ควรจะเป็น เรียกว่า...ขนาดรู้ทั้งรู้ว่าเสียง ปริ่มน้ำ แต่แค่การออกเรี่ยว ออกแรง เล็กๆ น้อยๆ เช่นการ เสียบบัตร ก็ยังออกอาการ ขี้เกียจสันหลังยาว กันคราวแล้ว คราวเล่า ชนิดไม่เพียงส่งผลให้เม็ดเงินงบประมาณติดๆ ขัดๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย รำคาญ ในอีกไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง...
---------------------------------------------------
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภัยแล้ง ฝุ่นพิษ ไปจนถึง ไวรัสโคโรนา ฯลฯ ก็ตามแต่ อะไรต่อมิอะไรมันดูจะไม่ไหลลื่นไปด้วยกันทั้งสิ้น แค่เฉพาะการตามหาซื้อ หน้ากากอนามัย กล่องละ 40-50 บาท ในราคาปกติ แต่ดันต้องมาเจอกับราคากล่องละ 650 บาทเป็นอย่างน้อย แค่นี้...ก็หมดแล้ว!!! ชนิดน่าจะเอารัฐมนตรีผู้มีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาล ไปทำเป็น ข้าวมันไก่ ให้มันรู้แล้ว รู้แรด ไปเลยน่าจะดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปพูดถึงการสั่ง การบังคับบัญชา ให้ไปชน ให้ไปตีกับใคร และนั่นยิ่งเท่ากับเป็นการเปิดช่อง เปิดทาง ให้ไก่ชน หรือไก่เลี้ยงในค่ายทหาร ยิ่งต้องถูกรุมจิก รุมตี รุมสกรัม ยิ่งๆ ขึ้นไป...
------------------------------------------------------
ส่วนไก่ฝ่ายค้านนั้น...ก็ออกจะเก่ง ออกจะฉลาด ในเรื่อง ร้ายๆ อย่างชนิดติดเป็นนิสัย เป็นวาสนา มาแต่อ้อนแต่ออก คือแทนที่จะหันไปไล่จิก ไล่ตี บรรดาไก่แจ้ ไก่อู ไก่ตอน ที่อยู่ร่วมในคณะรัฐบาลให้สิ้นชีพิตักษัย หรือให้ต้องเอาไปทำ ข้าวมันไก่ กันเป็นรายๆ ตัวๆ กลับหันมาเล็งเป้าเอาที่ ไก่ประยุทธ์ ไก่ป๊อก ไก่ป้อม หรือบรรดาไก่ในค่ายทหาร รวมไปถึงไก่ทหารแท้ๆ อย่าง ไก่บิ๊กแดง เรียกว่า...ออกอาการคล้ายๆ กะจะชนกันแบบ ยกเล้า ยกกระบิ หรือระดับ พลิกฟ้า-คว่ำดิน เอาเลยถึงขั้นนั้น...
------------------------------------------------------
ฉากสถานการณ์ความเป็นไปในเล้าไก่ หรือความเป็นไปของบ้าน-ของเมือง...มันจึงเป็นไปในแบบเดิมๆ นั่นแหละทั่น คือเป็นการไล่จิก ไล่ตี ไล่กัด ไล่งับ กันในระดับ โครงสร้าง ที่โอกาสจะหาข้อยุติ ข้อสรุป หรือ จุดลงตัว แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย นอกเสียจากต้องหาทางปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เปลี่ยนเล้า เปลี่ยนเข่ง กันซะใหม่ หรือถ้าหากปรับไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ ก็หนีไม่พ้นต้องหาทาง ทำใจ กันไปตามสภาพ คิดซะว่า...การจิก การตี การกัด การงับไป-งับมา ถือเป็น ธรรมชาติทางการเมือง ชนิดหนึ่ง อาจพอช่วยให้เบาใจ สบายใจ ขึ้นมาได้บ้าง แบบประเภทการไล่เตะ ไล่ถีบ ระหว่าง ผีแดง-แมนยูฯ กับ หงส์แดง-ลิเวอร์พรุน อะไรประมาณนั้น ส่วนใครที่รักสมัครใจจะเป็น สาวก ทีมไหน ก็คงต้องหันไปเชียร์กันเองก็แล้วกัน...
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sanskrit saying (อีกครั้ง)...“Rise and fall are properties of the big as wax and wane are the moon; stars, however, suffer no change. - ความเจริญและความเสื่อมเป็นเรื่องของคนใหญ่ คนโต อุปมาดั่งพระจันทร์ซึ่งมีขึ้น มีแรม ส่วนดวงดาวทั้งหลายหาได้มีการผันแปรไม่...”
-----------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |