ไล่บี้ไม่หยุด 'ศรีสุวรรณ'จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ส.เสียบบัตรแทนกันเพิ่มอีก 3 ราย


เพิ่มเพื่อน    

 

วันที่ 16 ก.พ. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา กรณีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. โดยวินิจฉัยว่าการกระทำโดยไม่สุจริต ใช้สิทธิ์ออกเสียงลงมติแทนผู้ที่ไม่ได้อยู่ร่วมประชุม เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่อยู่ในอาณัติมอบหมายของผู้ใด แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ทั้งสมาชิกคนหนึ่งย่อมมีเสียงหนึ่งเสียงในการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 120 วรรคสาม และการออกเสียงลงคะแนนจะทำแทนกันไม่ได้ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 80 วรรคสามนั้น

กรณีดังกล่าว ศาลยังได้ระบุด้วยว่า บุคคลใดจะต้องรับผิด รับโทษอย่างไรหรือไม่เป็นเรื่องที่ต้องไปดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งกรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องไว้แล้วต่อ ป.ป.ช.เพื่อไต่สวน สอบสวน ส.ส.ที่อาจกระทำการดังกล่าวไว้จำนวน 4 คน เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1)นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย 2)นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย 3)นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย และ 4)น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ

แต่ปรากฏว่ายังมี ส.ส.อีกหลายคนที่อาจมีพฤติกรรมดังกล่าวอีก 3 ราย อาทิ 1)น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ 2)นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท และ 3)นายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย 

พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.185 อันถือได้ว่าเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือของผู้อื่น และอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 และเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในข้อ 7 และข้อ 8 ในประเด็นที่ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตําแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ฯลฯ ซึ่งหาก ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีความผิดตามข้อห้ามข้างต้น ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง สส. ตามมาตรา 101(7) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำรายชื่อ ส.ส.ดังกล่าวไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด สส.ดังกล่าวหากพบความผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.2563 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"