15 ก.พ. 63 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ และยูทูบ ' เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ‘ผมเห็นด้วยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่ร่วมลงมติในพระราชบัญญัติงบประมาณรอบนี้ เพราะที่ผ่านมาฝ่ายค้านเค้าทำหน้าที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปแล้วตั้งแต่ 3 คืน 4 วัน(8-11ม.ค.63)ของการอภิปรายแล้วก็ลงมติ

ปัญหามันเกิดขึ้นจากรัฐบาลนั่นล่ะครับ ส.ส.ที่ไม่อยู่ในห้องประชุมแล้วเสียบบัตรแทนกันก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะว่าไปแล้วต้องตำหนิฝ่ายค้านด้วยซ้ำไปที่ตรวจสอบไม่รอบคอบทั่วถึง ปล่อยให้รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ออกมาตรวจสอบพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

เรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมืองล่ะครับ แต่เป็นการยืนหยัดและประกาศกับประชาชนตรงๆ ว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบงบประมาณ จะช้าจะเร็วแบบไหนอย่างไร อยู่ที่รัฐบาลแก้ปัญหาในสภาได้หรือไม่

ใครจะยื่นฟ้องใคร ใครจะไม่พอใจใคร ภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์จะอยู่กันแบบไหน ไปว่ากันเอาเองเถอะครับ

สำหรับประชาชนเค้าจับตามองอยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีปัญญาเอางบประมาณแผ่นดินไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศได้เร็วช้าแค่ไหน

เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องจับตามองล่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าหลังการอภิปรายจะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้

แต่สถานการณ์ของรัฐบาลชุดนี้ในสายตาผมเป็นมวยเป้าใหญ่เหลือเกิน เตะตรงไหนก็โดน จิ้มตรงไหนก็เจอแผลตรงนั้น

คณะรัฐประหารที่ออกกติกาเอื้อพวกตัวเองแล้วสืบทอดอำนาจ บริหารบ้านเมืองจนสถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองวิกฤตจนปัจจุบัน

ใครจะไปไว้วางใจให้ทำงานต่อไปได้ ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลหมัดเด็ดอย่างไรหรือไม่ ประชาชนต้องตามให้คะแนน

รัฐบาลชุดนี้โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายคนถามผมว่า นี่ใช่ขาลงหรือยัง ผมบอกว่าเลยขาลงมานานแล้วครับ ตอนนี้ขากำลังจะชี้ฟ้า หลังกำลังจะติดพื้น เรื่องทุจริต เรื่องความไม่ชอบมาพากลทั้งหลาย ต้องรอดูเค้าอภิปราย

แต่เรื่องที่ประชาชนมองได้ตามเนื้อผ้า การแก้ปัญหาการรับมือกับสถานการณ์วิกฤต ฝุ่นPM 2.5 ไวรัสโคโรน่า แม้กระทั่งโศกนาฏกรรมที่นครราชสีมา รัฐบาลชุดนี้บริหารเหตุการณ์อย่างไร ผู้นำแสดงท่าทีแบบไหน ประชาชนเค้ายอมรับได้หรือไม่ อย่าว่าแต่ให้ยอมรับรัฐบาลเลยครับ

แม้แต่ท่ามินิฮาร์ทที่เค้าถ่ายรูปเค้าแชร์กันมานาน วันนี้ยังกลายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับบางคนด้วยซ้ำไป

ส่วนเรื่องนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะตั้งวอร์รูมพิทักษ์นายกฯ ตั้งวอร์รูมตอบโต้ฝ่ายค้านอันนี้ก็มองเป็นสีสันล่ะครับ ผมไม่ได้ตกอกตกใจอะไรด้วยและเชื่อว่าประชาชนก็ไม่ได้ให้ราคา

เขาอภิปรายกันในสภา เป็นเรื่องฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล นายกฯ ยืนยันทุกวันว่าไม่ยี่หระ ไม่เกรงกลัว แต่ลิ่วล้อออกอาการมากกว่าตัวนายกฯ ด้วยซ้ำไป

ที่สำคัญก็คือบรรดาวอร์รูม บรรดาองครักษ์ทั้งหลาย ในวันเวลาที่ตัวเองทำหน้าที่อยู่ในสภา

ก็ไม่เห็นมีใครมีฤทธิ์เดชอะไรมาก่อน นี่ไม่ได้ปรามาสกันนะครับ แต่ท่านไปดูชื่อวอร์รูมที่ประกาศออกมา แล้วถามตัวเองให้ได้เถอะว่า ใครเคยยืนในสภาแล้วทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างองอาจกล้าหาญบ้าง

งานนี้ปั่นราคาสร้างค่ากันไป ต้มประชาชนไม่ได้ แต่ถ้าจะต้มนายกฯ ต้มคนใหญ่คนโตในรัฐบาล บอกว่านายครับ พวกผมเตรียมตัวเต็มกำลังปกป้องนายเต็มที่ อันนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมนะครับ

สิ่งที่ฝ่ายค้าน ต้องเหลียวหลังแลหน้าให้ดีก็คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้ งูเห่าจะเลื้อยกันเพ่นพ่านล่ะครับ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ย่อมต้องการเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่ออธิบายกับประชาชนว่าขนาดฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ย้งยกมือสนับสนุนกันขนาดนี้

ดังนั้นขุนพลจากซีกรัฐบาลจะต้องโชว์ฟอร์ม ในการเอากล้วยป้อนงูเห่าฝ่ายค้านให้เลื้อยตามออกมาสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี

งูเห่าเที่ยวนี้ไม่น้อยหน้ากันล่ะครับ เพื่อไทยก็มี อนาคตใหม่ก็มี ประชาชาติก็มี เพื่อชาติก็มี

ฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนประชาชนก็อย่าไปไว้วางใจส.ส.ฝ่ายค้านบางคนนะครับ

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือคดียุบพรรคอนาคตใหม่

รอบนี้ต่างจากรอบที่ผ่านมานะครับ ราคาต่อรองเรื่องยุบไม่ยุบ ไหลไปข้างยุบหลายช่วงตัว

ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ เขาคงเตรียมการรับมือ ซึ่งคงพร้อมตั้งแต่การอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคเรื่องล้มล้างการปกครองมาก่อนแล้ว 1 เดือน ผ่านไปจนถึง 21 กุมภาพันธ์นี้ ความพร้อมย่อมต้องมากขึ้น

ในฐานะคนติดตามการเมืองก็ต้องรอดูนะครับว่าพรรคอนาคตใหม่จะจัดทัพปรับขบวนออกมาหน้าตาแบบไหน ไอ้เรื่องยุบแล้วเก็บฉากไปเลย ไม่มีล่ะครับ มีแต่ยุบแล้วเขาก็จะเดินในฉากต่อไป นี่ไม่ใช่ผมมานั่งพูดในทางร้ายนะครับ เอาใจช่วยกันอยู่แต่ยืนอยู่บนโลกของความจริง ว่าสถานการณ์แบบนี้ อนาคตใหม่จะรอดไม่ใช่ง่ายๆ

แล้วจังหวะเวลามันเหมาะเจาะบังเอิญพอดี คดียุบพรรคตัดสินก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ งูเห่า ถ้ามีในอนาคตใหม่ เลื้อยเพ่นพ่านก็คราวนี้ล่ะครับ

สุดท้ายเรื่องผลกระทบจากโศกนาฏกรรมโคราช ประชาชนเจ็บปวดโศกเศร้าเสียใจกันทั้งประเทศ

รัฐบาลและกองทัพประกาศจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างถึงรากถึงแก่น เรายังรอดูอยู่นะครับ หรือถึงที่สุดแล้วผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ผู้มีอำนาจในกองทัพจะกลายเป็นปัญหาเสียเองเพราะไม่พูดความจริงกับประชาชน’นายณัฐวุฒิกล่าว