15 ก.พ.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวคิดในการจัดทำโครงการป้ายทะเบียนรถพิเศษ ที่เจ้าของรถสามารถกำหนดหมวดเป็นชื่อที่ต้องการ และกำหนดตัวเลขเองได้ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจองขอใช้ชื่อและตัวเลขที่ต้องการ สำหรับป้ายพิเศษเพิ่ม จากป้ายปกติ เชื่อว่า จะมีประชาชนสนใจแน่นอน เพราะจะมีเอกลักษณ์พิเศษ ซึ่งมีหลายประเทศได้ทำป้ายทะเบียนดังกล่าวแล้ว เช่น อเมริกา,สิงคโปร์
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ไปศึกษาศึกษารูปแบบที่เหมาะสม โดยจะสรุปและเปิดดำเนินการในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับ กองทุนเพื่อความปลอดภัย การใช้รถใช้ถนน (กปถ.) มีความแข็งแรงมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีเงินสะสมในกองทุน กปถ.ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากการประมูลป้ายทะเบียนเลขสวย
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต่อไปจะให้เจ้าของรถสามารถเปิดหมวดป้ายทะเบียนใหม่ได้เอง เพื่อใช้แทนหมวดอักษรเดิม ซึ่งจะใช้เป็นชื่อห้างร้าน บริษัท หรือตัวอักษรที่ชอบ เป็นชื่อเฉพาะได้ และยังสามารถเลือกหมวดตัวเลขต่อท้ายได้เองด้วยว่าต้องการเลขอะไร สามารถเสนอจองซื้อกับกรมขนส่งฯได้เลย
นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่บนรถ ขสมก.ว่าจากการรายงานผลการทดสอบของคณะทำงานฯ ได้ผลการทดลองติดเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ บนหลังคารถโดยสารประจำทาง ของ ขสมก. มีผลเป็นที่น่าพอใจ ใกล้เคียงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ โดยจากการติดตั้งกล่องกรองฝุ่น PM2.5 ขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร การทดลองความเร็วรถเฉลี่ยที่ 20 กม./ชม. โดยจากเครื่องวัด ฝุ่น PM2.5 พบว่า ก่อนเข้าเครื่องค่าฝุ่น ที่ 45-48 ไมครอน ซึ่งมี PM2.5 หลังผ่านเครื่องกรอง อากาศที่ออกมามีค่าที่1-2 ไมครอน
“ขณะนี้ ยังถือเป็นเรื่องของการทดสอบ เพราะฉะนั้น ตัวแบบวัสดุรูปแบบที่จะนำมาทำต้องใช้เวลา และจุดที่ติดตั้งถ้าไม่ติดบนหลังคา แต่นำมาติดตรงบริเวณเหนือกันชน จะมีประสิทธิภาพในการรับอากาศได้มากน้อยแค่ไหน ความมั่นคงแข็งแรงเป็นอย่างไร ต้องรอดูผลการทดสอบต่อไป โดยรถเมล์ ขสมก.ที่มี 3,000 คันนั้น จากผลการทดสอบ หากนำมาติดนั้น จะฟอกอากาศทั้งวันได้ 30 ล้านลูกบาตรเมตร ถือเป็นการช่วยฟอกอากาศตามเส้นทางที่รถวิ่ง โดยในอนาคต คณะทำงานจะออกแบบรูปแบบให้ประชาชนนำแบบไปดำเนินการได้เอง ผู้สร้างควรเป็นผู้ซ่อม ไม่ใช่ว่าผู้สร้างไม่รับผิดชอบในการที่จะแก้ไขปัญหาแบบนี้ก็ลำบาก เราต้องช่วยกัน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงเรื่องต้นทุนในการดำเนินการว่า เบื้องต้นราคากล่องอยู่ที่ 2,000 บาทต่อกล่อง ขณะที่ไส้กรองราคาประมาณลูกละ 500 บาท ใช้ได้ประมาณระยะเวลา 400 ชม. หรือ 2 สัปดาห์ รวมประมาณ 3,000 บาท แต่ยังกำหนดชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างจัดทำต้นแบบนำร่องมาทดลอง โดยคณะทำงานได้เสนอว่า หากใช้วัสดุเป็นไฟเบอร์กลาส แล้วสามารถทำได้ จะทำให้ต้นทุนลดลง รวมถึงโดยในอนาคตมองว่า ถ้าศึกษาอย่างจริงจัง จะสามารถพัฒนาไส้กรองขึ้นมาเองได้จะช่วยให้ต้นทุนต่ำลงได้อีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |