เปิดตัว "พรรคกล้า" ยื่นจดทะเบียนกับ กกต.แล้ว สลายขั้วการเมือง อดีต กปปส. อดีตเสื้อแดง อดีตประชาธิปัตย์ อดีตเพื่อไทย มากันครบ เชิญชวนช้างเผือก จอมยุทธ์ ทั่วประเทศติดต่อกลับด่วน พร้อมรับฟังไอเดีย สะอึก! "ชวน" เล่าอดีตปี 21 "สมัคร" ชวนไปอยู่พรรคใหม่ แต่ไม่ไป ถ้าวันนั้นพรรคไม่รอดก็กลับไปเป็นทนายความที่บ้านเกิด ถ้าคนเป็นผู้บริหารพรรคใจเสาะ ผู้คนก็จะหนีไป
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พร้อมด้วยนายวรวุฒิ อุ่นใจ นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย, นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร "ครูเป็ด" นักแต่งเพลง เป็นตัวแทนยื่นจดทะเบียนจดจัดตั้งพรรคกล้า ที่ได้รับการโหวตชื่อจากประชาชน 120,000 คน มายื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยมีสัญลักษณ์พรรคเป็นลายเส้นรูปกำปั้น ซึ่งสื่อการลงมือทำ
นายอรรถวิชช์เผยว่า ชื่อพรรคกล้า ไม่ได้ขัดต่อระเบียบใดๆ ที่ชื่อพรรคนี้ เพราะตั้งใจอยากจะเห็นคนที่มีความสร้างสรรค์ เป็นผู้กล้า ต้องการเปิดพื้นที่ให้คนที่เป็นผู้กล้าเข้ามาสู่การเมืองให้ได้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ต้องใช้คนที่มีความรู้จากหลากหลายอาชีพเข้ามาทำงาน โดยพรรคกล้าจะเป็นการรวมกันของคน 3 รุ่น รุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นใหม่ เพราะเราเชื่อว่าคนทั้ง 3 รุ่น จะเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศ
เขากล่าวว่า จากนี้ตนเองและนายกรณ์ จาติกวณิช ก็จะรวบรวมรายชื่อให้ได้ผู้ก่อตั้งครบ 500 คน โดยจะเดินสายเชิญบุคคลต่างๆ ในสังคมมาร่วมทำงานการเมือง ทั้งนี้ การตั้งพรรคของเราไม่ได้ผูกติดกับการเมืองเก่า เราอยากได้คนหลากหลายอาชีพ เราตั้งโจทย์ว่าพรรคเราต้องเป็นพรรคที่มีความกระชับ ชัดเจน และมีความเป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะไม่ยอมเข้ามาสู่การเมือง แต่ครั้งนี้เราจะเปิดพื้นที่ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์กล้าที่จะเข้ามาสู่การเมือง
นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ที่มาตั้งพรรคในขณะนี้ก็ไม่ใช่มารองรับการย้ายพรรคของ ส.ส.ที่อาจจะเกิดจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะเป้าหมายของเราคือการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ที่ต้องมายื่นตั้งในขณะนี้ เพราะเรามีแนวความคิดเรื่องปฏิบัตินิยม ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความทันสมัย ซึ่งคนทั้ง 3 กลุ่มต้องช่วยกันในการทำความเข้าใจ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องอาศัยเวลา ไม่ฉะนั้นจะไปติดยึดกับบริบทการเมืองเก่า
“พรรคนี้เป็นพรรคเปิดกว้างให้กับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความกล้า ถ้ากล้าก็มาเลยครับ เราไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะเข้าสู่การเมืองในยุคการเลือกตั้งนี้ เพราะยังไม่มี ส.ส. สิ่งที่คาดหวังคือการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงคิดว่าถ้าเรามีเวลาประมาณปีเศษนี้ในการรวบรวมคน และทำความเข้าใจกับสังคมเรื่องปฏิบัตินิยม ซึ่งเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลา เราจะสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ และยังไม่อยากให้สังคมแยกเราว่าเราจะอยู่ซ้ายหรืออยู่ขวา เพราะอย่างที่บอกว่ากว่าเราจะมาถึงชื่อ มาถึงดีเอ็นเอ เราขอไม่แบ่งแยก ขอเป็นพรรคในแนวปฏิบัตินิยมที่ไม่แบ่งซ้ายไม่แบ่งขวา และไม่กลางด้วย”
นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ตอนนี้เราได้เปิดเพจ “กล้า” ขึ้นมาแล้วใน Facebook เป็นช่องทางง่ายๆ ช่องทางแรก จากนั้นต้องรอกระบวนการทางกฎหมายจาก กกต.ให้มีความชัดเจน อีกไม่นานจะมีการเปิดประชุมใหญ่ และในวันนั้นจะมีการเปิดตัวระบบ sandbox ทำ crowdsourcing หรือกลุ่มคนในโลกออนไลน์ที่มีของ ที่มีไอเดีย ที่พร้อมลงมือทำในสิ่งดีๆ ให้สำเร็จ
"วันนี้ ช้างเผือก จอมยุทธ์ ทั่วประเทศท่านใดรู้ตัวว่าท่านคือคนคนนั้น! ขอให้ติดต่อมา 3 เพจหลักคือ เพจ “กล้า”- “กรณ์” หรือ “อรรถวิชช์” เราพร้อมที่จะรับฟังไอเดียจากทุกท่าน”
นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ยังได้เปิดตัวกลุ่มคนกลุ่มแรกที่พร้อมมาทำงานด้วยกันภายใต้พรรค “กล้า” คือ 1-คุณหมู-วรวุฒิ อุ่นใจ ตัวพ่อแห่งวงการ SME ไทย, 2-ครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี เจ้าของเพลงฮิตมากมาย 3-คุณเหมือน-เบญจรงค์ ธารณา สาวแฟชั่นออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และอีกหลายท่าน
ขณะที่นายมนต์ชีพ หรือครูเป็ด ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันแห่งความรัก...เป็นก้าวแรกที่ผมเข้าสู่เวทีการเมือง 1.ได้รับการติดต่อจากคุณกรณ์ จาติกวณิช ชักชวนมาร่วมก่อตั้งพรรคใหม่...เมื่อได้คุยกับคุณกรณ์แล้ว เห็นแนวคิดใกล้เคียงกัน ผมจึงตัดสินใจ...เอาด้วย 2.วันนี้ไปยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคใหม่ที่ กกต. โดยมีคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นำทีม...หลายคนอาจมีคำถามว่า เป็นพรรค กปปส.เก่าหรือ
3.ขอบอกว่า...ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนี้มีทั้งอดีต กปปส. อดีตเสื้อแดง อดีตประชาธิปัตย์ อดีตเพื่อไทย และหน้าใหม่ๆ อย่างผม...ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน 4.อดีตผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองทุกคน ต่างก็ผิดหวังและได้เรียนรู้มาเหมือนกันว่า การทำการเมืองแบบเก่าไม่ว่าจะฝั่งไหน ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาได้ 5.ผมเองก็ได้เรียนรู้ว่า...การเป็นผู้สนใจ และวิจารณ์การเมือง...เพียงเท่านั้นก็ไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน...พูดง่ายๆ คือ แค่นั่งบ่น คงไม่มีอะไรดีขึ้น
6.การนั่งบ่นอยู่วงนอก...เรามีอิสระในการนำเสนอความคิดของเรา 100?...การกระโจนลงไปทำ อาจจะไม่มีอิสระทางความคิด 100%...แต่มันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้...ผมตัดสินใจอย่างหลัง 7.แน่นอน เมื่อผมตัดสินใจทำการเมือง ย่อมจะได้รับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ...ผมน้อมรับ เพียงแต่ขอให้เป็นการวิจารณ์ด้วยเหตุด้วยผล และความสุภาพ
8.ผมและพรรคกล้า...พร้อมเปิดรับแนวคิดจากทุกคน...ใครมีอะไรที่อยากเสนอ ติดต่อผมมาได้เลยครับ อย่าลังเล 9.เราทำการเมืองระยะยาวครับ โดยมองไปที่การเลือกตั้งคราวหน้า...ช่วงนี้เป็นช่วงรวบรวมคน รวบรวมแนวคิดจากทุกคนให้ได้มากที่สุด 10.ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง...เราต้องกล้าลงมือครับ
วันเดียวกันนี้ นายกรณ์โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า กล้า.. เรามาเพื่อลงมือทำ เราแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ชื่อพรรคว่า "กล้า" ครับ #พรรคกล้า! เพราะประเทศต้องการความกล้าในการ "ลงมือทำ" ต้องการความกล้าในการ "สร้างความเปลี่ยนแปลง" ผมจึงขอเชิญชวนผู้กล้าทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเห็นศักยภาพของประเทศ กล้าที่จะมาร่วมลงมือทำ ด้วยกันกับพวกเราครับ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า 14 กุมภาพันธ์ 2563 #รวมพลคนมีของ #เรามาเพื่อลงมือทำ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า ได้แสดงความยินดีกับนายกรณ์และทีมงานแล้วว่า ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จ สำหรับการใช้ชื่อพรรคกล้า ก็น่าจะเป็นชื่อที่เจาะตลอดกลุ่มคนรุ่นใหม่มากกว่า เพราะถ้าจะให้เป็นชื่อพรรคการเมืองในเชิงสถาบัน ก็น่าจะใช้ชื่อที่บ่งบอกถึงความเป็นการเมืองมากกว่านี้ ตอนแรกนายกรณ์ยกตัวอย่าง “แอปเปิล” สามารถเป็นชื่อบริษัทที่ประสบความสำเร็จได้ ตนก็คิดว่านายกรณ์จะใช้ชื่อพรรค “พริกไทย” ตนจึงได้ส่งโลโก้รูปพริกขี้หนูไปให้ใช้เป็นโลโก้พรรค แต่นายกรณ์ปฏิเสธว่าฝรั่งจะกลัวเพราะร้อนแรงเกินไป เลยมาจบที่ชื่อพรรคกล้า ตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปเพราะชื่อพรรคเป็นเพียงตัวประกอบ เนื้อหาที่แท้จริงอยู่ที่นโยบาย และผลการกระทำมากกว่า
เขายังมองว่า พรรคกล้าน่าจะไปเจาะตลาดของพรรคอนาคตใหม่มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งประกอบกับกระแสการยุบพรรคอนาคตใหม่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ ก็ทำให้ตลาดคนรุ่นใหม่ค่อนข้างสับสน อาจจะตัดสินใจเลือกพรรคกล้าเป็นทางออกทางการเมืองก็ได้ ยืนยันไม่ได้เป็นสาขาของพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าทางพรรคกล้าสนับสนุนนโยบายเรื่องอะไรบ้าง แต่ถ้าพรรคไหนสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ เราก็พร้อมจะร่วมมือทุกพรรค ถ้าพรรคกล้าต้องการปฏิรูปกองทัพ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสวัสดิการให้ประชาชน ลดทุนผูกขาด ต้องการลบผลพวงการรัฐประหาร ถ้ามีอุดมการณ์ในทิศทางนี้ เราก็พร้อมจะร่วมมือ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การยกระดับพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมือง” ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ตอนหนึ่งว่า การเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองไม่ใช่งานที่มีความราบรื่น เพราะสายตาของคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมองพรรคการเมืองในเชิงบวก สื่อมวลชนมักมองพรรคการเมืองเป็นจำเลย มีแต่เรื่องเลวร้าย ดังนั้น การที่พรรคการเมืองจะดำรงอยู่ได้จึงต้องมีคนที่ตั้งใจจริงอยากมาทำงานการเมือง ไม่ใช่เป็นแค่มาหาอะไรทำ เพราะในยามใดที่พรรคประสบปัญหา คนที่ตั้งใจจริงเขาจะไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจหรือทิ้งพรรค ไม่หวั่นไหว แต่ถ้าคนเป็นผู้บริหารพรรคใจเสาะ ผู้คนก็จะหนีไป
"พรรคประชาธิปัตย์เคยประสบปัญหาอย่างนี้เมื่อปี 2521 มีหลายคนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรวมถึงนายสมัคร สุนทรเวช ลาออกแล้วไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็มาชวนผมให้ไปอยู่ด้วย แต่ผมไม่ไป ขออยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และเห็นว่าถ้าสุดท้ายพรรคไปไม่รอด ผมก็ยอมกลับไปเป็นทนายความที่บ้านเกิด”
นายชวนกล่าวอีกว่า สมัยนี้การเมืองได้เปลี่ยนไป โดยตนเป็นห่วงเรื่องธุรกิจการเมืองมาเป็นอุปสรรคในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต่างจากในอดีตที่มีปัญหาจากการยึดอำนาจหรือพฤติกรรมของทหาร เมื่อก่อนพวกเราเคยนึกไม่ถึงว่าเมื่ออหิวาตกโรคหมดไป โรคเรื้อนหมดไปแล้ว จะเกิดโรคเอดส์มาทำลายภูมิต้านทานของคน ฉันใดก็ฉันนั้น ตอนนี้การเมืองของเราก็เกิดโรคเอดส์ นั่นคือธุรกิจการเมืองที่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ซื้อพรรคการเมือง ซื้อนักการเมืองและองค์กรอิสระ ซื้อกระบวนการยุติธรรม ซื้อสื่อมวลชนที่ทำให้มีการเผยแพร่ข่าวเพียงบางเรื่อง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |