สธ.จ่อยกระดับคัดกรองโควิด-19 "สิงคโปร์-ฮ่องกง" เฝ้าระวัง 6 จังหวัดเสี่ยง "อนุทิน" สั่งเข้มด่านทางบก-เรือ-อากาศรับผู้โดยสารจากเรือเวสเตอร์ดัม กัมพูชาตรวจเข้มพบ 20 รายมีอาการป่วย ส่งตรวจหาโคโรนา อนุญาตขึ้นฝั่งวันศุกร์
ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 19 หรือโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันสะสมยังอยู่ที่ 33 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า เข้ารักษาวันแรกที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 25 ม.ค. รวมเป็นรักษาหาย 12 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. 21 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 823 ราย กลับบ้านแล้ว 673 ราย รักษาใน รพ. 150 ราย โดยรวมผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อทุกรายอาการดีขึ้น ส่วน 2 รายที่อาการหนักเมื่อแรกรับที่สถาบันบำราศฯ ขณะนี้ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด ส่วนคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่น ขณะนี้เฝ้าระวังเป็นวันที่ 9 แล้ว ทุกคนสบายดี ไม่มีไข้ ส่วนคนที่ติดเชื้อ 1 ราย อาการปกติดี รอผลแล็บเป็นลบอีก 1 ครั้ง ก็ให้กลับบ้านได้
อธิบดีกรมควบคุมโรคยังกล่าวถึงกรณีเรือสำราญเวสเตอร์ดัมที่ไปจอดเทียบท่าที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้สั่งให้เตรียมวางแผนรองรับ โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านทุกช่องทางเข้า-ออก ทั้งบก เรือ อากาศ เตรียมการกรณีผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย ตามมาตรการคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนในการดูแลคนไทยที่อยู่บนเรือทั้ง 21 คนด้วย
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในช่วงแพร่โรควงจำกัดในประเทศ แม้จะไม่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว แต่ขยายวงเฝ้าระวังไปอีก โดยผู้ป่วยอาการหนัก จะเฝ้าระวังในผู้ป่วยปอดอักเสบจากไวรัสที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ทุกรายในจังหวัดเสี่ยง 6 จังหวัด คือ กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ และภูเก็ต เพื่อค้นเจอผู้ป่วยให้ได้เร็วที่สุด และกลุ่มคนที่มีอาการน้อยด้วย จะดัดแปลงจากการตรวจคัดกรองไข้หวัดใหญ่มาใช้ตรวจโคโรนาด้วย เพื่อให้ตรวจเจอผู้ป่วยที่หลงเหลือได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นอกจากสถานการณ์ในจีนที่จะมีผู้ป่วยแบบก้าวกระโดดแล้ว ยังมีอีก 2 พื้นที่ คือสิงคโปร์และฮ่องกง ที่จำนวนผู้ป่วยในระยะหลังเป็นการแพร่ระบาดในวงจำกัด และมีการติดเชื้อในประเทศแน่ๆ โดยที่ไม่ได้มีการเดินทางไปต่างประเทศ และไม่รู้ว่าติดจากใคร ซึ่งกำลังติดตามสถานการณ์ 2 พื้นที่นี้อย่างใกล้ชิด หากเมื่อไรมีความจำเป็นต้องคัดกรองเฝ้าระวังผู้เดินทางจาก 2 พื้นที่นี้ จะยกระดับการคัดกรองและติดตามผู้เดินทางของ 2 พื้นที่นี้ด้วย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ต้องดูตัวเลขที่เขารายงาน และคาดเดาสถานการณ์จริงว่าน่าจะมีผู้ป่วยจริงเท่าไร และตัวเลขที่น่าจะส่งออกผู้เดินทางจะสูงแค่ไหน แล้วเอามาประมวลว่าเราจะยกระดับการเฝ้าระวังหรือไม่ ซึ่งทีมที่ด่านเริ่มตระหนักแล้วและคงตัดสินใจกับผู้บัญชาเหตุการณ์เร็วๆ นี้
ซีบอร์นต่างจากเวสเตอร์ดัม
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การติดตามเรือโดยสารเวสเตอร์ดัม ซึ่งเดินทางไปยังประเทศกัมพูชานั้น กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้รายงานขั้นตอนในประเทศกัมพูชา มีดังนี้ 1.ให้เรือทิ้งสมอรอจนครบระยะเวลาเฝ้าระวัง 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2563 2.จัดทีมแพทย์ไปตรวจสุขภาพผู้โดยสารและลูกเรือก่อนจะพิจารณาอนุญาตให้ลงจากเรือ 3.จัดให้สายการบินมารับผู้โดยสารเดินทางไปยังสนามบินโดยตรงและยกเว้นวีซ่าทุกคน 4.เมื่อผู้โดยสารขึ้นหมด เรือจะทำความสะอาด ก่อนออกเดินทางไปเมืองท่าต่อไปในวันที่ 17 ก.พ.2563 ทั้งนี้ มีผู้โดยสารที่เป็นคนไทย 21 คน
น.ส.ไตรศุลียังกล่าวกรณีที่เรือสำราญ Seabourn Ovation ซึ่งเดินทางมาจากเมืองท่าลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ตว่า เป็นเรือที่มีเส้นทางการเดินเรือปกติที่กำหนดผ่านจังหวัดภูเก็ต โดยมีกำหนดแวะพักประมาณ 10 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือเป็นชาวยุโรป ที่ผ่านมาเรือลำนี้ได้รับอนุญาตให้จอดเทียบท่าที่ฮ่องกง เวียดนาม แหลมฉบัง เกาะกูด กัวลาลัมเปอร์ ลังกาวี ขณะที่แพทย์ประจำเรือได้แจ้งมาว่า ไม่มีผู้ป่วยใดเข้าเกณฑ์ตามนิยาม รวมถึงสามารถติดตามผู้โดยสารและลูกเรือทุกราย เนื่องจากเป็นเพียงจุดแวะพัก 10 ชั่วโมงเท่านั้น
"ประเทศไทยไม่ได้มีมาตรการห้ามการเดินทางหรือห้ามชาติใดชาติหนึ่งเข้าประเทศ อีกทั้งไทยยังมีมาตรการควบคุมโรค ซึ่งคำนึงถึงความมั่นใจและปลอดภัยของคนไทยเป็นลำดับแรก แต่เรือลำนี้จะต่างจากการขอเทียบท่าของเรือเวสเตอร์ดัม เพราะเรือเวสเตอร์ดัมเป็นการขอจอดเรือฉุกเฉินนอกเหนือเส้นทางเดินเรือ และได้ถูกปฏิเสธการเทียบท่าจากไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังเป็นการจอดเทียบท่าเพื่อกระจายผู้โดยสารออกเส้นทางอื่น เช่นโดยสารทางเครื่องบินกลับประเทศ" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
มีรายงานข่าวจากกองทัพเรือ ภายหลังชาวเน็ตถามหามาตรฐานและความชัดเจน กรณีให้เรือซีบอร์นเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ทำให้แฮชแท็ก #seabournovation เป็นเทรนด์อันดับหนึ่งทวิตเตอร์ ในขณะที่ไม่อนุญาตให้เรือสำราญเวสเตอร์ดัมเทียบท่าว่า เนื่องจากเรือทั้ง 2 ลำมีความแตกต่างกัน โดยเรือสำราญเวสเตอร์ดัมไม่มีแผนที่จะมาจอดในประเทศไทย แต่จะมาขอจอดฉุกเฉิน และมีคนจีนอาศัยมาด้วยจำนวน 21 คน และมีแผนจะใช้ไทยเป็นจุดหมายให้คนที่อยู่บนเรือกลับประเทศ โดยการกระจายไปสนามบินต่างๆ กองทัพเรือประเมินสถานการณ์ว่าจะมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 อีกทั้งในหลายประเทศ ทั้งไต้หวัน ญี่ปุ่น ปฏิเสธให้เทียบท่าเช่นเดียวกัน ในขณะที่เรือซีบอร์นนั้น มีแผนจะมาจอดประเทศไทย 10 ชั่วโมงอยู่แล้ว อีกทั้งผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวยุโรป ไม่มีคนเอเชีย และไม่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19
ตรวจเข้มพบป่วย 20 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เรือสำราญเวสเตอร์ดัมเข้าเทียบท่าที่จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชาแล้วในวันเดียวกันนี้ แต่ผู้โดยสารและลูกเรือยังไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือจนกว่าจะถึงวันศุกร์ เรือลำนี้มีผู้โดยสารหลากหลายสัญชาติ 1,455 คน และมีลูกเรือ 802 คน ทั้งนี้รัฐบาลกัมพูชาของนายกฯ ฮุน เซน ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับจีน ยินยอมอนุญาตให้เวสเตอร์ดัมเทียบท่าที่จังหวัดพระสีหนุโดยเรือทอดสมอนอกชายฝั่งช่วงเช้าวันพฤหัสบดีและเข้าเทียบท่าในช่วงเย็น เพื่อให้แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขขึ้นตรวจร่างกายและเก็บตัวอย่างของเหลวจากผู้โดยสารหาสัญญาณว่ามีผู้ป่วยหรือผู้ที่แสดงอาการคล้ายไข้หวัดหรือไม่ โดยพบคนบนเรือ 20 รายมีอาการป่วย
สุน จันทอล รัฐมนตรีคมนาคมของกัมพูชา กล่าวว่า ตัวอย่างของเหลวของคน 20 คนนี้ถูกส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังสถาบันปาสเตอร์ในกรุงพนมเปญ เพื่อตรวจหาไวรัสโควิด-19 แต่ "อันที่จริงพวกเขาไม่มีอาการของโควิด-19 เราแค่ต้องการให้แน่ใจว่าทุกอย่างโอเค" เขากล่าวกับเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดี
เรือสำราญลำนี้ดำเนินการโดยบริษัทฮอลแลนด์อเมริกาไลน์และบริษัทคาร์นิวัลคอร์ปจากรัฐไมอามี ผู้ดำเนินกิจการเรือเตรียมจัดเที่ยวบินเหมาลำส่งผู้โดยสารกลับประเทศของตน เดิมทีนั้นวินเซนต์ สมิต กัปตันเรือแจ้งผู้โดยสารผ่านทางจดหมายว่าบางคนจะสามารถออกจากกัมพูชาได้ในวันศุกร์ แต่ต่อมาเขาแจ้งว่าอาจมีความล่าช้ากว่านั้นเนื่องจากการลงจากเรือต้องได้รับการอนุญาตจากทางการกัมพูชาและต้องรอการสนับสนุนจากองค์กรและเจ้าหน้าที่ทางการ
เจ้าหน้าที่กัมพูชาในจังหวัดพระสีหนุบอกกับนักข่าวว่า เครื่องบินเหมาลำที่จะนำคนบนเรือจากจังหวัดเมืองท่าแห่งนี้ไปกรุงพนมเปญนั้นยังไม่พร้อม การขึ้นฝั่งจึงต้องรอเป็นวันศุกร์
การตัดสินใจของกัมพูชาได้รับคำชมเชยจากทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่ยกย่องว่ากัมพูชาเป็นตัวอย่างของความสามัคคีระหว่างประเทศตามที่ดับเบิลยูเอชโอเรียกร้อง
รายงานกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของหลายประเทศไม่อนุญาตให้เวสเตอร์ดัมขึ้นฝั่ง เนื่องจากเห็นตัวอย่างจากเรือไดมอนด์ปรินเซส ซึ่งดำเนินการโดยคาร์นิวัลคอร์ปเช่นกัน เรือสำราญที่มีผู้โดยสารและลูกเรือ 3,700 คนลำนี้ถูกกักกันไว้นอกชายฝั่งโยโกฮามา โดยในวันพฤหัสบดี ทางการญี่ปุ่นแถลงว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่บนเรือลำนี้เพิ่มอีก 44 ราย ทำให้จำนวนรวมเพิ่มเป็น 218 ราย
วันเดียวกันนี้ คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่น แถลงว่า ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตรายแรกในประเทศ เป็นหญิงชราวัย 80 ปีเศษที่ผลตรวจเชื้อยืนยันว่าติดไวรัสปอดอักเสบชนิดนี้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากไวรัสหรือไม่
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในจีนตามคำแถลงของทางการจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์นั้น เพิ่มเป็น 1,367 รายแล้ว และติดเชื้ออีกเกือบ 60,000 คน โดยเป็นยอดการเสียชีวิตและติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียว
รายงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมณฑลหูเป่ย์กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตในมณฑลนี้อีก 242 รายเมื่อวันพุธ ยอดรวมผู้เสียชีวิตเฉพาะที่หูเป่ย์อยู่ที่ 1,310 ราย ยอดเสียชีวิตภายในวันเดียวที่มากที่สุดก่อนหน้านี้คือ 103 รายเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.พ. ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่หูเป่ย์เมื่อวันพุธมี 14,840 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดเมื่อเดือนธันวาคม ภายนอกหูเป่ย์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 12 ราย แต่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันแล้ว โดยอยู่ที่ 312 ราย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |