กรมสวัสดิการ ทบ.แจ้งทหารเกษียณ หากไม่ได้ทำประโยชน์ต่อประเทศให้ย้ายออกจากบ้านพักภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้ “บิ๊กป้อม” ปัดตอบปฏิรูปกองทัพ-ทหารเกษียณใช้บ้านหลวง "ธนาธร" ได้ทีจัดเวที “จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ" ชวนร่วมกระชากหน้ากากความมั่นคงและความรักชาติ 15 ก.พ.นี้ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา "ศรีสุวรรณ" ยื่นผู้ตรวจการฯ สอบ ผบ.ทบ.ย่อหย่อนระเบียบทหาร รองโฆษก พท.ยกเหตุปลดผู้ว่าฯ รฟท.คดีข่มขืนเด็กหญิงบนรถไฟ จี้ "ประยุทธ์" ปลด ผบ.ทบ. "โบว์-โชติศักดิ์" ยื่น กมธ.ทหารบี้จัดการผลประโยชน์ทับซ้อนในค่ายทหาร 
    เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จากกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีแนวความคิดให้นายทหารที่เกษียณราชการย้ายออกจากบ้านหลวงเพื่อเป็นการจัดระบบบ้านพักสวัสดิการของทหาร โดยจะจัดให้ทหารที่ยังไม่เกษียณอายุราชการได้เข้าไปพักอาศัยต่อนั้น มีรายงานว่า ผบ.ทบ.สั่งการไปยังกรมสวัสดิการทหารบก ให้ตรวจสอบบ้านพักของกองทัพบกว่ามีผู้เกษียณอายุราชการที่ยังพักอาศัยอยู่หรือไม่  
    โดยให้ทำหนังสือถึงผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วยังอาศัยอยู่ที่บ้านสวัสดิการ และไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศ โดยแจ้งให้ออกจากบ้านพักภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้ และในส่วนที่ผู้เกษียณราชการแล้วแต่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และได้รับอนุญาตให้พักอาศัย ยังสามารถอยู่ได้ตามปกติ เพราะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ
    ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ เตรียมปฏิรูปกองทัพว่า ต้องไปถาม ผบ.ทบ.เอง เมื่อถามย้ำว่าในฐานะที่อดีตที่เคยเป็น ผบ.ทบ. เรื่องสวัสดิการเชิงพาณิชย์นั้นเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ก็ทำมาตลอดในเรื่องของการปฏิรูปกองทัพ โดยเฉพาะในเรื่องนี้
    ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามถึงนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่จะให้ทหารที่เกษียณอายุราชการออกจากบ้านหลวง ภายหลังกระแสโซเชียลฯ ถามถึงกรณีการใช้พื้นที่ในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด
    ต่อมา ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามหลังผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.อภิรักษ์ระบุให้ข้าราชการทหารเกษียณแล้วคืนบ้านพักภายในเดือน ก.พ.63 นี้ โดย พล.อ.ประวิตรยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ไม่ตอบคำถามกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยมีสีหน้าเรียบเฉย
    ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมจัดขึ้น ตามนโยบายปฏิรูปกองทัพที่พรรคเคยเสนอไว้ โดยงานจะมีขึ้นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว
'ทอน'ปลุกกระชากหน้ากาก
    นายธนาธรระบุว่า กองทัพปกปิดตัวเองเป็นแดนสนธยา นายทหารระดับสูงเอารัดเอาเปรียบและกดขี่ทหารชั้นผู้น้อย ทั้งยังใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง งบประมาณมหาศาลถูกใช้ไปโดยไม่เปิดโอกาสให้สาธารณชนตรวจสอบ โครงสร้างที่ผิดเพี้ยนไม่เหมาะกับยุคสมัยถูกห้ามไม่ให้ผู้ใดแตะต้อง กองทัพประกาศชัด รับรู้ปัญหามาโดยตลอด แต่ไม่คิดจะแก้ไขจนเกิดโศกนาฏกรรม ภายใต้หน้ากากที่มีชื่อว่า “ความมั่นคงและความรักชาติ”
    พร้อมระบุว่า เชิญชวนร่วมกิจกรรม "จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ" ร่วมแสดงออกถึงความหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในกองทัพ เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย)
     นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุมีจ่าทหารบกทำการปล้นปืนประจำหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองทัพภาคที่ 2 มาก่อเหตุยิงกราดประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บไปเป็นจำนวนมาก ที่ศูนย์การค้า Terminal 21 จ.นครราชสีมา เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศ มูลเหตุสำคัญน่าจะมาจากกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ ในกองทัพบกน่าจะมีปัญหา จำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุง ปฏิรูป หรือสังคายนากันอย่างมโหฬารแล้ว เพื่อรักษาเกียรติศักดิ์และชื่อเสียงของกองทัพที่ผู้บังคับบัญชาในอดีตเคยร่วมกันสร้างและสั่งสมชื่อเสียงกันมาแต่กาลอดีต แต่ต้องมามัวหมองในยุคที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น รมว.กลาโหม มี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และมี พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร เป็นแม่ทัพภาคที่ 2
     ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องให้องค์กรอิสระที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ นั่นคือผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอํานาจตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานรัฐนั้นๆ ให้ขจัดหรือระงับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมนั้น รวมทั้งสามารถเสนอแนะต่อกระทรวงกลาโหมและกองทัพบก เพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคําสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ บรรดาที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชนต่อไป
ยกเหตุข่มขืนบนรถไฟปลด ผบ.ทบ
     นอกจากนั้นยังต้องร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบพฤติกรรมนายกรัฐมนตรี ที่ไม่แสดงอาการสำรวมในการเดินทางไป จ.นครราชสีมา ในช่วงหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะการโบกไม้โบกมือยิ้มแย้มทักทายประชาชน และการแสดงท่ามือมินิฮาร์ท ซึ่งผิดกาลเทศะเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้ตรวจการเตือนไปยังคณะรัฐมนตรีว่าวันหลังอย่าได้มีพฤติกรรมเลียนแบบเยี่ยงนี้เป็นเด็ดขาด โดยสมาคมจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2563 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการฯ อาคาร B 
     นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อปีพ.ศ.2557 มีเหตุนายวันชัย แสงขาว พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งบรรจุใหม่ก่อเหตุข่มขืนฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ปีบนรถไฟ แล้วโยนศพออกนอกหน้าต่างอำพรางคดี ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ยุคนั้น สั่งปลดนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟฯ ออกจากตำแหน่งทันที ในวันที่ 10 ก.ค.2557 โดยอ้างว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม แต่กรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ซึ่งเป็นทั้งนายทหารผู้ใต้บังคับบัญชา และยังไปปล้นเอาอาวุธในคลังแสงของกองทัพมาก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย เพราะระบบการดูแลที่หละหลวม จนมีผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุร้ายแรงสะเทือนขวัญยิ่งกว่าเมื่อตอนปลดผู้ว่าฯ รถไฟ พล.อ.ประยุทธ์จะใช้มาตรฐานเดียวกับนายประภัสร์ในการสั่งปลด พล.อ.อภิรัชต์ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยหรือไม่
     "ที่สำคัญ สาเหตุที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ก่อเหตุร้ายครั้งนี้ ต้องถือว่ามีความเชื่อมโยงกับกองทัพบกทุกมิติ ตั้งแต่สาเหตุธุรกิจสีเทาชนวนก่อเหตุ ที่มาจากการหาประโยชน์สีเทาๆ กับนายทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพ ปัญหาการควบคุมป้องกันอาวุธยุทโธปกรณ์ มาตรฐานในการตรวจสภาพจิตใจ กำลังพลประจำปี ทุกระดับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นภารกิจ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.โดยตรง ท่านจึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ อยากเห็นมาตรฐานเดียวกันของความรับผิดชอบที่เคยใช้กับกรณีอื่นที่ผู้นำต้องมีความสูญเสียมากกว่ายิ่งต้องมีความรับผิดชอบยิ่งกว่า การแถลงทั้งน้ำตาโดยไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ยังไม่เกิดประโยชน์ จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงความรับผิดชอบโดยทำตามมาตรฐานที่เคยทำไว้ในอดีต หากทำไม่ได้ควรลาออกเสียเอง” นายชุมสายกล่าว
    ที่รัฐสภา น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.), กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และองค์กรพันธมิตร ยื่นหนังสือถึงนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.การทหาร เพื่อขอให้ตรวจสอบปัญหาการบริหารงานในกองทัพ 
กมธ.จ่อเรียบผบ.ทบ.แจง
    โดยนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ตัวแทน คปอ. กล่าวว่า จากกรณีกราดยิงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา คณะผู้ยื่นหนังสือขอร้องเรียนให้มีการตรวจสอบปัญหาการบริหารงานในกองทัพ ในประเด็นต่อนี้ 1.การเก็บรักษาคลังอาวุธในค่ายทหาร ระบบการรักษาความปลอดภัยภายในค่าย การฝึกอบรมกำลังพล ให้มีความพร้อมรับกับสถานการณ์ที่คล้ายการก่อการร้าย เพื่อกำจัดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนั้น ทางกองทัพได้มีระบบที่ได้มาตรฐานสากล และบริหารงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าหลังจากจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายใช้เวลาเกือบ 1 ชม.ในการปล้นเพื่อสะสมอาวุธจากหลายจุดภายในค่ายทหาร ก่อนขับรถออกไปก่อเหตุต่อประชาชน
    2.การประกอบธุรกิจในกองทัพ ซึ่งเปิดช่องให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในหมู่บุคลากรและกำลังพล กองทัพมีนโยบายห้ามปราม และควบคุมอย่างไร ที่จะไม่ให้มีการกระทำอันไม่สมควร หรือเป็นการทุจริตต่อทรัพย์สินของราชการ โดยเฉพาะการหาประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุ ตามที่เป็นข่าวเรื่องการจัดสรรขายโดยญาติของนายทหาร ผู้บังคับบัญชา โดยมีจุดประสงค์เพื่อหาประโยชน์จากส่วนต่างเงินกู้สวัสดิการ อันนำไปสู่การทุจริตคดโกงที่เกิดขึ้นต่อทหารชั้นผู้น้อยจำนวนมาก 
    และ 3.การใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นการใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว เช่น การทำการค้ากับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือการใช้อำนาจเพื่อข่มขู่คุกคาม ลงโทษอย่างทารุณ ไม่เป็นธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ไปจนถึงการหักเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และการกดขี่ในรูปแบบต่างๆ
    "ปัญหาหลักทั้ง 3 ประการ ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะหน้าหรือเพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นปัญหาระยะยาวที่หมักหมมมานาน และเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของ ผบ.ทบ. จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ ผบ.ทบ.จะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบและต้องถูกตรวจสอบ ร่วมกับการแสวงหาข้อเท็จจริงจากกำลังพลทุกระดับ" นายโชติศักดิ์กล่าว
    ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วจะนำเข้าในที่ประชุมกรรมาธิการทหารในสภา เพื่อพิจารณาว่าจะเชิญบุคคล ผบ.ทบ.ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่  เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป เปลี่ยนแปลงเรื่องของการบริหารงานภายในกองทัพในอนาคต และขอให้เหตุการณ์ในจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่สุดท้าย อย่าให้เกิดเหตุแบบนี้ที่ไหนอีก.