(มาเที่ยวพัทยา ชมคาบาเรต์สุดมหัศจรรย์ของสาวประเภทสองที่โรงละครทิฟฟานี่)

    พัทยา เมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ติดอันดับ 1 ใน 100 เมืองน่าเที่ยวของโลกจากผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ด ‘Global Destination Cities Index 2019’ (GDCI) ด้วยระยะทางใกล้ๆ สามารถเดินทางโดยใช้เวลาไม่นานจากกรุงเทพฯ ก็ได้ไปเดินเล่นชายหาดชิลๆ พักผ่อนนอนริมทะเลฟังเสียงคลื่น
    นอกจากการไปเที่ยวทะเลและแช่ตัวในน้ำแล้ว ทริปการเยือนพัทยาจะไม่ครบ จบอย่างประทับใจ ถ้ายังไม่ได้มาสัมผัสตำนานและการแสดงคาบาเรต์สุดมหัศจรรย์ของเหล่าสาวประเภทสอง อย่าง ทิฟฟานี่โชว์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเมืองไทย  เป็นโชว์ระดับโลกที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีน เวียดนาม ยุโรป และอเมริกา จนถือเป็นอีกสัญลักษณ์ของพัทยา    
    ความสวยตระการตาของเหล่าบรรดานักแสดงที่ไม่ใช่ชายจริง หญิงแท้นี้ จะพาเราไปสัมผัสหลุดไปอีกโลกหนึ่ง เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว โชว์ประกอบด้วยการแสดงที่แตกต่างกันหลายแบบ เมื่อม่านถูกยกขึ้น การแสดงที่ยอดเยี่ยมแต่ละฉาก หลอมรวมนวัตกรรมทางเทคนิคผ่านการออกแบบความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร คละเคล้าความเร้าใจ จนเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวที่ตราตรึงคนดู    
    คนที่เคยได้ยินการโชว์ของทิฟฟานี่อาจจะคิดว่าคงเหมือนโชว์ทั่วไป เอาเป็นว่าถ้าไปชมของจริง บอกได้คำเดียวต้องตาค้าง ตกตะลึงไปกับความยิ่งใหญ่อลังการ และอึ้งไปกับรูปร่างหน้าตาของสาวๆ ทิฟฟานี่ ที่สวยทุกคน ทั้งรูปร่างเป๊ะเวอร์ จนผู้หญิงจริงยังอาย จึงไม่แปลกใจที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงคาบาเรต์สาวประเภทสองคณะแรกของไทย และของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใหญ่และสวยที่สุดในเอเชีย
    หลังจากแสดงโชว์เสร็จแล้ว เหล่านางโชว์จะเดินเฉิดฉายออกมาหน้าลานน้ำพุข้างนอกโรงละคร ตรงนี้ใครสนใจอยากถ่ายรูปก็สามารถถ่ายได้ แต่ถ่ายเสร็จแล้วอย่าลืมให้กำลังใจด้วยแบงก์สีแดง หรือใครจะตบรางวัลมากกว่านั้นก็ได้ สนใจจองตั๋วเข้าชมได้ ถ้า Gold seat ราคาเต็ม 1,800 บาท VIP seat ราคาเต็ม 1,400 บาท Mezzanine ราคาเต็ม 1,000 บาท คุ้มค่าสุดๆ กับราคาที่จ่ายไป รอบโชว์เวลา 18.00 น., 19.30 น. และ 21.00 น.

(อลิสา พันธุศักดิ์)

    เต็มอิ่มกับโชว์สุดอลังการแล้ว มาหาของอร่อยๆ กินที่ ‘Thai Marche’ (ไทยมาเช่) ชั่วโมงนี้ไม่มีที่ไหนเก๋เท่าที่นี่แล้ว เป็นร้านอาหารแห่งใหม่โดยกลุ่ม บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ และ บริษัท ลาบาเก๊ตต์ เบเกอรี่ ฝรั่งเศสชื่อดังทั้ง La Baguette และ La Freme และโรงแรมในเครือ Woodlands ที่สร้างชื่อเสียงให้พัทยามากว่า 40 ปี โดยโปรเจ็กต์นี้ ‘คุณจ๋า’ อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้บริหารและทีมงานใช้เวลาในการเนรมิตรกว่า 5 ปี เพื่อให้ทุกรายละเอียดเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบและความสวยงาม สร้างความจดจำครั้งใหม่ให้วันพักผ่อนที่พัทยาพิเศษกว่าที่เคย

(ร้านอาหาร ‘ไทยมาเช่’ ออกแบบตกแต่งออกมาสวยน่านั่งสุดๆ)

    ‘ไทยมาเช่’ นับเป็นแลนมาร์คใหม่ของพัทยา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหรูหราทรงพลังแบบอาร์ต นูโว อันได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Grand Cenatral Station สถานีรถไฟที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ฝรั่งเศส นำมาดีไซน์ให้เข้ากับลวดลายจักสานร่วมสมัยที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทย ผสมผสานเข้ากับความเป็นโรงละครทิฟฟานี่ได้อย่างลงตัว

(แลนด์มาร์คใหม่ร้านอาหาร ‘ไทยมาเช่’ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหรูหราแบบอาร์ต นูโว)

    ด้วยความตั้งใจอยากสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่มาพัทยา ไทยมาเช่จึงเสิร์ฟอาหารไทยแท้มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารไทยสูตรต้นตำรับฉบับไทยมาเช่” ที่ยังคงเสน่ห์ในรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพพรีเมียมจากทั่วประเทศ ตกแต่งจานให้สวยงามราวกับงานศิลป์บนจานอาหาร 

(โชว์พิเศษจากทิฟฟานี่เติมเต็มดินเนอร์ให้มีสีสันที่ไทยมาเช่)

    ‘คุณจ๋า’ อลิสา พันธุศักดิ์ เล่าถึงแรงบันดาลใจของไทยมาเช่ ว่า ร้านนี้อยู่คู่กับโรงละครทิฟฟานี่โชว์ ดังนั้น ต้องมีความยิ่งใหญ่ ทำให้นึกถึง Grand Cenatral Station ซึ่งมีสถานที่ที่คนมากมายมาอยู่ในที่เดียวกัน นำศิลปะและสถาปัตยกรรมเข้ามาตกแต่งผสานความเป็นไทย บวกกับความตั้งใจอยากสร้างความสำเร็จให้กับอาหารไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติได้ทานอาหารไทยที่มีคุณภาพ รวบรวมอาหารเป็นสเตชั่นต่างๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหาร และโชว์พิเศษจากทิฟฟานี่ให้ชมระหว่างมื้ออาหาร อาหารไทยตำรับไทยมาเช่ เป็นอาหารไทยแท้ มี ‘เชฟแพร’ ปภาดา เอี่ยมธรรมโชติ ประจำร้านอาหารดูแลและสร้างสรรค์แต่ละเมนูให้อร่อยยิ่งขึ้น

(ทิฟฟานี่โชว์ที่น่าตื่นเต้น โชว์ระดับโลกที่ครองใจนักท่องเที่ยว)

    ส่วนโชว์ระดับโลกอย่างทิฟฟานี่โชว์ และการจัดประกวดสาวประเภทสองระดับโลกอย่าง Miss International Queen ที่ผู้หญิงเก่งคนนี้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คุณจ๋าบอกว่า โชว์ทิฟฟานี่ต้องมีการครีเอตเรื่องราว บทเพลง ไคลแมกซ์ให้แตกต่างกับโชว์ที่อื่นๆ เพื่อให้ต่างชาติยอมรับทิฟฟานี่ในความยิ่งใหญ่อลังการ และเพศที่แตกต่าง โชว์ทิฟฟานี่จึงเป็นหนึ่งในโชว์อันน่าภาคภูมิใจของคนไทย เป็นหน้าตาของเมืองพัทยาด้วย และเพิ่งรีโนเวตโรงละครทิฟฟานี่ให้มีดีไซน์สวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้น    

(สเต๊กเนื้อ อีกเมนูแนะนำที่จะทำให้ต้องว้าว)

    กลับมาที่ไทยมาเช่เมื่อเดินเข้ามาในร้านพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยโซน Café ที่รวบรวมเมนูสตรีทฟู้ดยอดนิยมของไทย ตั้งแต่อาหารว่าง อาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ ที่รสชาติถูกปากคนไทยโดนใจชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียว หมูปิ้ง, หมูสะเต๊ะ,  ต้มข่าหอยเชลล์, เนื้อออสเตรเลียทอดใบยี่หร่า, ผัดไทย โดยเฉพาะข้าวขาหมูที่แค่เปิดตัวไม่นานก็ขึ้นแท่นเมนูอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การใช้โค้กต้มขาหมูให้หวานนุ่มละมุนลิ้นสุดๆ  

(เมนูห้ามพลาด ปลาแห้งแตงโมสด กินแล้วชื่นใจ)

    เช่นเดียวกับ ‘ขนมจีนน้ำพริก’ สูตรลับประจำตระกูลของ ‘เชฟแพร’ ปภาดา เอี่ยมธรรมโชติ ซึ่งหารับประทานได้เฉพาะที่ไทยมาเช่เท่านั้น รวมถึงซิกเนเจอร์ ‘แกงมัสมั่น’ เสิร์ฟพร้อมครัวซอง สูตรเฉพาะของ La Baguette แล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำปากหม้อปูเนื้อแน่น ทั้งยังมีเมนูมากมายให้เลือกอร่อยไม่รู้เบื่อ จนถึงขนมไทยที่หลายคนตกหลุมรัก อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง,  ข้าวเหนียวทุเรียน อร่อยกลมกล่อมแบบไทยๆ โดยเฉพาะปลาแห้งแตงโม ของว่างโบราณสูตรชาววัง กินแล้วชื่นใจ เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวจีนมาก

(ซิกเนเจอร์ ‘แกงมัสมั่น’ เสิร์ฟพร้อมครัวซองต์ สูตรเฉพาะ La Baguette)

    ที่นี่ยังเอาใจสายเค้กและเบเกอรี่ เก๋ไก๋ไม่แพ้กัน เพราะหยอดความเป็นขนมไทยเข้ากับขนมยุโรป ใครมาถึงแล้วต้องลองกาแฟซิกเนเจอร์ ‘กาแฟไทยมาเช่’ มิกซ์เข้ากับมะพร้าวน้ำหอมของอัมพวาให้รสหวานกลมกล่อม และ ‘กาแฟมะม่วงลาเต้’ ที่หอมอร่อยปลื้มปริ่มเป็นที่สุด ขีดเส้นใต้ว่า สายคาเฟ่และคอกาแฟควรตามมาเก็บให้ครบ แล้วยังมีเมนูเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น เหมาะกับสายสุขภาพ จะเป็นน้ำกระเจี๊ยบ-พุทราจีน น้ำเก๊กเฮวย-แปะก๊วย หรือสมูทตี้จากผลไม้ไทยๆ  

(เมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำเก๊กฮวย-แปะก๊วย)

    หากใครมองหามื้อเย็นและมื้อดึกที่ไม่ธรรมดาต้องมาเช็กอินที่โซน ‘มาเช่’ (Marche) ครีเอตเมนูซิกเนเจอร์โดย เชฟชาลี กาเดอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของร้านอาหารชื่อดังมากมาย และควบคุมการผลิต โดยเชฟภาคภูมิ อารมณ์รัตน์ Group Executive Chef ในเครือ La baguette 
    โซนนี้ต้อนรับด้วยตัวอาคารสูงโปร่งมองเห็นโดมกระจกด้านบนที่สื่อถึงความเป็น Grand Central Station หรือศูนย์รวมซีฟู้ดของเมืองไทยได้อย่างสง่างาม
    ภายในได้รับการออกแบบเป็นสเตชั่นต่างๆ กว่า 10 สเตชั่น มีเชฟที่ถนัดในอาหารต่างๆ ประจำสเตชั่น อาทิ Seafood, Flame, Somtum & Yum และครัวเปิดแบบ Open Cooking ให้เรามองเห็นขั้นตอนการปรุงอาหาร ความสะอาด และความสดใหม่ของวัตถุดิบ
    เมนูแนะนำที่จะทำให้ต้องว้าว! กับความสดใหม่ใหญ่จริงของซีฟู้ด ได้แก่ ข้าวซอยปูทะเล, ปูเนื้อผัดผงกะหรี่, เส้นหมี่ปูผัดซอสเต้าเจี้ยว, กุ้งลายเสืออบซีเรียล, ทะเลรวมนึ่ง ที่พลาดไม่ได้กับเมนูเอกลักษณ์ของชลบุรีสูตรต้นตำรับที่หารับประทานยากอย่าง ‘ไก่เหลืองย่างสมุนไพร’ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมเครื่องสมุนไพรไทย เสิร์ฟคู่กับส้มตำไทย และน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ชิมแล้วติดใจจนอยากกลับมาอีกครั้ง ทั้งยังเพลินใจกับโซนที่นั่งที่ให้มองเห็นแสงสียามค่ำคืนของโรงละครทิฟฟานี่อีกด้วย
    ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารน้องใหม่ของกลุ่มบริษัทในเครือทิฟฟานี่โชว์ งานนี้เลยคัดสรรโชว์พิเศษจากทิฟฟานี่มาให้ชมกันแบบ Close-up Entertainment ที่ครีเอตเพื่อลูกค้าของไทยมาเช่โดยเฉพาะ จะเปิดม่านการแสดงทุกคืน รอบเวลา 20.30 น.  โชว์เติมเต็มดินเนอร์ให้มีสีสันสมกับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและประสบการณ์ประทับใจที่สัมผัสได้ที่นี่ที่เดียว สำหรับไทยมาเช่เปิดให้บริการทุกวัน Café ตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น.  และ Marche เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. ถ้าไม่แวะเหมือนว่ามาไม่ถึงพัทยาพูดเลย
    ก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็ไม่พลาดที่จะมาชมวิวสวยๆ ของเมืองพัทยา มีทั้งจุดชมวิวเขา ส.ทร.5 พัทยา มองเห็นทัศนียภาพพัทยาได้สวยที่สุดเลยในแบบ 360 องศา เพราะจะเห็นเมืองพัทยาติดกับน้ำทะเลสีสดใส เลียบหาดทรายเมืองพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือจนถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้  จะมาวันเดียวหรือชวนกันลั้ลลาข้ามคืนก็ได้ เพราะที่เที่ยวพัทยามีหลากสไตล์.