13 ก.พ.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดชัยนาทยังคงสร้างความเสียหายให้กับภาคการเกษตร ชาวนาหลายรายในพื้นที่ อ.สรรคบุรี ต้องยอมปล่อยทิ้งนาข้าวนับพันไร่ที่ใกล้ออกรวงให้แห้งตาย เพราะไม่สามารถหาแหล่งน้ำไปช่วยหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้แล้ว เพราะตอนนี้คลองชลประทานต่างๆในพื้นที่ ไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่แม้แต่เพียงหยดเดียว ส่วนบ่อบาดาลก็สูบน้ำขึ้นมาได้น้อย ไม่พอเลี้ยงต้นข้าว จำใจต้องปล่อยนาทิ้งให้แห้งตาย สูญเงินที่ลงทุนไปนับหมื่นนับพันบาท ขณะที่เกษตรกรที่เลี้ยงวัว-ควายก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน เพราะแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และคลองชลประทานที่ฝูงวัวควายเคยใช้กินและลงเล่นน้ำ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแห้งขอด
นายคมสัน รอดย้อย เกษตรกร อ.สรรคบุรี บอกว่าต้องซื้อน้ำประปาให้วัวกินแทนเพราะน้ำในคลองชลประทาน และน้ำในสระต่างๆที่เคยอาศัยเป็นแหล่งน้ำเลี้ยงวัว ตอนนี้ทุกที่อยู่ในสภาพแห้งขอดไม่มีน้ำเหลือติดก้นคลองสักหยดเดียว ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นเป็นภาวะจำยอมที่ต้องเสีย ดีกว่าปล่อยให้สัตว์เลี้ยงต้องอดน้ำตาย
เช่นเดียวกับ นายต๊อบ เกษตรกร อ.เมืองชัยนาท ที่เลี้ยงวัวจำนวน 23 ตัว ทุกๆวันจะต้องพาวัวเดินออกไปตระเวนหาน้ำและหญ้ากินตามแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ ที่ยังพอมีน้ำหลงเหลืออยู่ แต่ปริมาณน้ำก็มีไม่มาก และแห้งเหือดลงไปทุกวัน ทำให้ในแต่ละวัน ต้องเดินออกไปไกลจากบ้านมากกว่า 5 กิโลเมตร ถึงจะพบแหล่งน้ำและหญ้า ที่พอให้วัวได้ดื่มกิน ประทังชีวิตในระยะนี้ ซึ่งหากจากนี้ไป ภัยแล้งรุนแรงมากขึ้น และแหล่งน้ำในพื้นที่แห้งหมด ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาน้ำที่ไหนให้วัวกิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |