ยกหมาดีกว่าชังชาติ บิ๊กแดงซัดเกรียนโซเชียลเด้ง2นายพันเซ่นกราดยิง


เพิ่มเพื่อน    

  “บิ๊กแดง” จูงสุนัขทหาร "ซีบร้า" ทดสอบร่างกายเปรียบรู้บุญคุณ-มีมารยาท-ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ เชื่อคงไม่อยากเป็นมนุษย์หากเห็นโพสต์เกลียดชังชาติ ลั่นเดินหน้าเปิดศูนย์ให้กำลังพลร้องเรียน พร้อมปล่อยหม้อข้าว "สนามกอล์ฟ-โรงแรม-สนามมวย" ทำเอ็มโอยูกับคลังเพื่อใช้สวัสดิการเชิงพาณิชย์ ไฟเขียวมทภ.2 สั่งย้าย "พ.อ.-พ.ท." พัวพันทุจริต "หมวดเจี๊ยบ" เหน็บหากซีบร้าพูดได้คงบอกว่าน้ำตาไม่ช่วยแก้ปัญหา "จตุพร" ท้าล้างบางธุรกิจไล่ทหารเกษียณออกจากกองทัพได้จะเป็นวีรบุรุษ ก๊วน ส.ส.โคราชรุมยำนายกฯ จี้ออกมาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย

    ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 08.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นำนายทหารระดับสูงกองทัพบกทดสอบร่างกายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่กองทัพบก โดยก่อนการทดสอบ พล.อ.อภิรัชต์เดินออกจากอาคารสำนักงาน พร้อมจูงสุนัขทหารพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ชื่อ "ซีบร้า" วัย 3 ปี จากหมวดสุนัขทหารกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) มาทักทายผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่า วันนี้ร่างกายไม่ค่อยเต็มที่ เพราะไม่ได้นอนมา 3 คืน จากนั้นได้เข้าทดสอบครบทุกสถานี คือ ดันพื้น 2 นาที ได้ 33 ครั้ง คิดเป็น 77%, ลุกนั่ง 2 นาที ได้ 60 ครั้ง คิดเป็น 94% และวิ่ง 2 กิโลเมตร จำนวน 5 รอบครึ่งของสนามฟุตบอล
    พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ตนพูดเสมอกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าต้องบังคับตัวเอง ถ้าวันนี้ไม่บังคับตนเองให้อยู่ในระเบียบวินัย ไม่พัฒนาคุณภาพความรู้สมรรถภาพร่างกาย ก็ไม่ต้องเป็นผู้บังคับหน่วย คนจะเป็นผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรม ต้องสอบแบบทดสอบสำหรับวัดระดับความรู้หรือทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ Toeic ให้ผ่าน 
     หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบร่างกาย พล.อ.อภิรัชต์ได้ขึ้นไปยังห้องทำงานและเขียนข้อความเป็นบทความสั้นๆ แสดงความรู้สึกส่งต่อให้คนใกล้ชิดและสื่อมวลชนได้อ่าน หลังจากถูกกระแสโซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสืบเนื่องจากกรณีที่ร้องไห้ระหว่างแถลงรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงโคราช
โดยระบุว่า “สุนัขทหารยังรู้จักสำนึกบุญคุณกองทัพบก รู้สึกรัก และหวงแหน มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ถูกฝึกมาให้ปฏิบัติหน้าที่ เช่น ตรวจหาวัตถุระเบิด ค้นหายาเสพติด เฝ้าสถานที่สำคัญ หรือปกป้องเจ้านาย เขาจะดุจะเห่าคนแปลกหน้า หรือหากพบสิ่งผิดสังเกต เพื่อนๆ ของซีบร้าเคยเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และซีบร้าเขาก็รู้ว่าผมคือผู้บังคับบัญชาเขา ถึงแม้เราจะพบกันเป็นครั้งแรก ซีบร้าเขาไม่เห่าพร่ำเพรื่อ มีมารยาท และมีความรับรู้ ถึงความรู้สึกของมนุษย์ เช่น ทหารที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี ถ้าเจ้าซีบร้า สุนัขทหารตัวนี้พิมพ์ทวิตเตอร์เป็น เล่นเฟซบุ๊ก เล่นไอจีได้คงสนุกแน่ ถ้าเจ้าซีบร้าอ่านหนังสือออก มันคงมองเห็นพวกที่โพสต์ข้อความที่สร้างให้เกิดความเกลียดชังกันในระหว่างเพื่อนมนุษย์ โพสต์ข้อความชังชาติ และเจ้าซีบร้าก็คงอยากเป็นซีบร้าเหมือนเดิม คงกลัวที่จะกลายเป็นมนุษย์พวกนั้น” ลงชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.
    จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสภายหลังแถลงข่าวรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงว่า ถือว่าดี และคิดว่าสื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการทหาร ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือเป็นบทเรียนทั้งประเทศ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ในส่วนของกองทัพบกก็แสดงความเสียใจและความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ในสื่อออนไลน์ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจมานานแล้ว เพราะห้ามไม่ได้ หลังจากได้ชี้แจงไปแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ในวันจันทร์ทื่ 17 ก.พ.นี้ จะพยายามเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ให้ได้ โดยได้สั่งการให้ไปหาระบบมา และควบคุมโดยสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ทำงานตามวันเวลาราชการ 08.00-16.30 น. ส่วนนอกเวลาราชการจะเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ รับรองว่ามีเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์อยู่แน่นอน ยืนยันว่าสิ่งที่กำลังพลทุกนายถูกเอาเปรียบ ต้องมีการรายงานยศ ชื่อ ตำแหน่ง และสังกัด รวมถึงหมายเลขประจำตัว รับรองว่าทุกอย่างจะเป็นความลับ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
นายกฯ หนุนล้างธุรกิจกองทัพ
      "เมื่อคืนมีคนส่งข้อความมาถึงผมเรื่องเบี้ยเลี้ยงต่างๆ ผมจึงได้ส่งไปถามผู้บังคับหน่วยเพื่อให้ดำเนินการ ไม่ใช่ดูอย่างเดียว ขั้นต้นผมก็ได้มีการลงโทษ ในวงรอบต่อไปก็จะมีการปรับย้าย ยืนยันว่าทำจริงจัง ขอร้องผู้ที่แจ้งข้อมูลว่าต้องแจ้งข้อความจริงที่เกิดขึ้นกับตนเอง เพื่อจะได้ตรวจสอบได้ว่าบุคคลที่แจ้งมีตัวตนจริง ถ้าโกหกต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ"
     ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นอดีต ผบ.ทบ. ได้ให้ข้อแนะนำหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า นายกฯ บอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปรับแก้ให้ทันยุค ทันเหตุการณ์ ซึ่งต้องยอมรับว่ากองทัพเป็นเป้าหมาย รวมถึงตนเองด้วย เพราะฉะนั้นการที่ผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่บังคับแต่คนอื่น ก็พยายามทำหลายเรื่อง และได้ทำไปหลายเรื่องแล้ว แต่ไม่อยากโฆษณา อย่างที่บอกแล้วว่า propaganda ไม่เก่ง 
    เมื่อถามถึงกรณีการลงนามกับกระทรวงการคลังในเรื่องทรัพย์สินราชพัสดุกับกระทรวงการคลัง ผบ.ทบ.กล่าวว่า จะนำเรื่องที่เป็นสวัสดิการดั้งเดิมของกองทัพบก เช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม และสนามมวย ไปหารือกับกระทรวงการคลัง ขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วว่าจะเริ่มดำเนินการที่ใดบ้าง เพราะต้องเริ่มเป็นเฟสหรือระยะ โดยเฟสที่ 1 เริ่มต้นที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ และสนามมวย โดยจะมีการบันทึกเอ็มโอยูกับกระทรวงการคลังเพื่อใช้สวัสดิการเชิงพาณิชย์ และเป็นไปตามกฎหมาย ได้รับที่ไหนมาก็ต้องแบ่งให้กระทรวงการคลัง จากนั้นคลังก็จะพิจารณาสัดส่วนคืนให้เป็นสวัสดิการของกองทัพบก ซึ่งก็จะทำไปเข้ากองทุนสวัสดิการต่อไป การบริหารจัดการทั้งหมดจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการมากกว่าจะใช้ทหาร เพราะมีความเป็นมืออาชีพ เนื่องจากเราไม่ได้เรียนการโรงแรมมา เราไม่ได้เรียนการบริหารจัดการมา แต่เรามีบุคลากรที่ยังทำงานอยู่
    "อะไรที่ไม่ดีก็ยอมรับ แต่อย่ามาตีซ้ำตีซ้อน ผมแก้ไข ไม่ใช่ผมพูดอย่างเดียวแล้วไม่ทำ ไปถามดูได้ ในกองทัพบกในสิ่งที่ทำ ผมพยายามแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด และผมต้องแบกรับผลกระทบจากกำลังพลที่ทั้งไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะวัตถุประสงค์คือกองทัพบกต้องอยู่" 
    ถามว่า อาจจะเกิดผลกระทบกับกำลังพลที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงาน พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า เป็นส่วนน้อย เช่นกำลังพลที่ไปช่วยราชการอยู่ที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ ก็มีตำแหน่งและเงินเดือนอยู่แล้ว ก็กลับมาทำงานที่เดิม ไม่ใช่ทำงาน 2-3 แห่ง ซึ่งจะทำทุกอย่างให้สะอาดและโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่แก้ตนจะเป็นคนรับผิดชอบและแก้ไขให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ
    เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดจากเปิดเผยข้อมูลของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่เรื่องเงินนอกงบประมาณของกองทัพหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า จริงๆ เราทำมาก่อนแล้ว แต่บางครั้งเป็นเรื่องภายในของกองทัพบก ที่ผู้บังคับบัญชาหลายคนคุยกัน และมีการจัดระเบียบยุทโธปกรณ์ ซึ่งตนพูดได้เต็มปากว่าทำตั้งแต่ตอนเป็น ผช.ผบ.ทบ. ส่วนการลงโทษกำลังพลยอมรับว่ากองทัพบกมีกำลังพลเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็ต้องเลย์ออฟออกไป มีมากก็ไม่ต้องทำงาน ตนเอาจริงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเด็กใคร ค่ายไหน ผมไม่สน อย่ามาอ้าง ทุกวันนี้การมาฝากเป็นโน่นเป็นนี่ ตนให้ 99 เปอร์เซ็นต์ที่จะไม่มีตรงนี้ 
ไฟเขียว มทภ.2 เด้ง พอ.-พท.
    ถามถึงภาพรวมผลตอบกลับจากการแถลงข่าว พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนไม่มีอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ได้รับแต่ข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ในส่วนของภริยาและบุตร ก็ต้องปิดโซเชียลมีเดียไปเลย เป็นผลกระทบจากตน ที่ทำให้บุคคลใกล้ชิดและครอบครัวได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้มีกำลังใจดี  หลายสื่อก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี เพราะบางอย่างอาจทำให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบขึ้นมา เอกอัครราชทูตหลายประเทศได้ส่งเอกสารมาถึงตนเอง ว่าประเทศเขาก็เคยเกิดขึ้น และได้แนะนำวิธีการบริหารจัดการในหลายๆ อย่าง 
    "ผมเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพลทหารเมธา เลิศศิริ ที่ไม่มีใครกล่าวถึงว่าเขาเสียชีวิตระหว่างยืมยามรักษาการณ์ แต่ไปมองว่ากองทัพหละหลวม ถามว่าถ้าหละหลวมจะมียืนยามรักษาการณ์อยู่ไหม เพราะคนที่เห็นหน้ากันทุกวันใครจะรู้ว่าจะเดินเข้ามาแล้วเอาปืนมายิง" พล.อ.อภิรัชต์กล่าวเมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ถูกมองเรื่องแถลงข่าวด้วยน้ำตา
    มีรายงานว่า จากกรณี พล.อ.อภิรัชต์แถลงข่าวกรณีเหตุโคราชพร้อมระบุผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้พันถึงนายพลจะไม่มีงานทำหากมีความไม่เหมาะสมและเกี่ยวพันเรื่องทุจริต และไม่แก้ไขปัญหาของผู้ใต้บังคับบัญชา ปรากฏว่า ผบ.ทบ.ได้รับรายงานและข้อมูลว่า พ.อ.และ พ.ท.ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริตไม่จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (ผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์) จึงมีคำสั่งให้ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ดำเนินการ โดยมีคำสั่งให้ พ.อ.อุทัย แฝงกระโทก หัวหน้ากองกองยุทธยุทธการ (หก.กยก.) มณฑลทหารบกที่ 25 อดีตผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ผบ.ร.23 พัน 3) ย้ายมาช่วยราชการที่กองกิจการพลเรือน (กกร.ทภ.2) กองทัพภาคที่ 2 และ พ.ท.ที เพิ่มพล ผบ.ร.23 พัน 3 ย้ายมาช่วยราชการที่กองกำลังพลทัพภาคที่ 2 (กกพ.ทภ.2) โดยให้ พ.อ.ศิริศักดิ์ บูรณ์เจริญ หัวหน้ากองกองข่าว (หก.กขว.มทบ.25 รักษาราชการแทน หก.กยก.มทบ.25 และให้ พ.ท.พงษ์พัฒน์ เตือนขุนทด หัวหน้าฝ่ายกำลังพล (หน.ฝกพ.) กองพลทหารราบที่ 6 รักษาราชการแทน ผบ.ร.23 พัน 3 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ลงวันที่ 12 ก.พ.63
    พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การปล่อยเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบก ว่า ขั้นตอนการกู้เงินนั้นเป็นไปตามระเบียบที่ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของหน่วย สามารถดำเนินการยื่นได้ที่หน่วยโดยตรง ไม่ต้องเดินทางมาที่กรมสวัสดิการทหารบก กทม. ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมีการอนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่สูงกว่าระดับเงินเดือนนั้น คิดว่าอยู่ที่การประเมินราคาจากที่ดินบางส่วน หรือราคาบ้านบางส่วน ซึ่งยอดการกู้ของกำลังพลอาจกู้ในประเภทอื่นด้วย การที่จะกู้ได้นั้นต้องผ่านการประเมินทรัพย์สินจากคณะกรรมการที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาทำหน้าที่ทุกๆ 3 เดือน ทุกอย่างเราจะดูเงินเดือนเป็นหลักว่าเหลือเท่าไหร่ เพื่อขออนุมัติการกู้ โดยมีการกำหนดไว้อยู่แล้ว เหมือนกับการกู้เงินกับธนาคาร แต่สินเชื่อเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกนั้นจะเข้าไปอยู่ในกิจการออมทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก
    เมื่อถามว่า จากนี้จะมีการสังคายนาระเบียบเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกอย่างไร พล.ต.ราชิตกล่าวว่า ทุกอย่างมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน ที่ผ่านมา ผบ.ทบ.ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และสั่งการกับผู้บังคับบัญชาว่าต้องให้ความสำคัญ ต้องทำทุกอย่างที่เกิดประโยชน์กับกำลังพลและครอบครัว เรื่อง จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา นั้นทางกองทัพภาคที่ 2 จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของกรมสวัสดิการทหารบก ถ้ามีช่องว่างตรงไหนเราก็ต้องไปดูแลให้รัดกุมมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับโครงการบ้านของกรมธนารักษ์ที่เช่าที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน โดย จ.ส.อ.จักรพันธ์ไปซื้อของเอกชน
    เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดเผยข้อมูลเอกสารการกู้เงิน พล.ต.ราชิตกล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดของนายอัจฉริยะ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเอกสารดังกล่าวนั้นเป็นหลักฐานการอนุมัติกู้เงินสร้างบ้านที่มีการทยอยจ่ายชำระไปแล้วถึง 5 งวด และเป็นเรื่องที่ตกลงกับผู้ประกอบการกับผู้ซื้อ ไม่ใช่การกู้เงินกรมสวัสดิการทหารบก และไม่ใช่เงินส่วนต่างหรือเงินทอนอะไร
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์แถลงแสดงความเสียใจในเหตุการณ์กราดยิงว่า พูดในความรู้สึกของเขา ทุกคนก็เสียใจ เราต้องแก้ไขปัญหาไม่ให้ในวันหน้าเกิดขึ้นอีก ทุกอย่างเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้
จี้แสดงความรับผิดชอบ
    ด้าน ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าหากเจ้าซีบร้าพูดได้ คงอยากโทรศัพท์บอก พล.อ.ประยุทธ์ให้เตือน พล.อ.อภิรัชต์ ว่าน้ำตาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรในสถานการณ์แบบนี้ และคงรู้สึกผิดหวังที่ยังไม่ได้ยินว่ากองทัพจะรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยิ่งน่าตกใจเมื่อได้ยินพล.อ.อภิรัชต์ เล่าว่าทหารที่อยู่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ได้ยินเสียงยิงปืนขณะเกิดเหตุปล้นปืน เหตุใดจึงไม่มีการสกัดจับเพื่อป้องกันไม่ให้ จ.ส.อ.จักรพันธ์ หลบหนีออกไปนอกค่าย นายทหารเวรตลอดจนสิบเวรประจำวันนั้นหายไปไหนกันหมด ทำไมจึงไม่ใช้วิทยุสื่อสารแจ้งเหตุไปยังกองพันข้างเคียงในที่ตั้ง เพื่อระดมกำลังสกัดกั้น 
    "ที่สำคัญโคราชเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลหน่วยทหารในจังหวัดอื่นๆ ทั่วทั้งภาคอีสาน แต่ลำพังแค่ในจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของตัวเอง กลับป้องกันรักษาฐานที่มั่นไม่ได้ แล้วจะดูแลจังหวัดทหารอื่นๆ ได้อย่างไร ถ้าหากมีเหตุการณ์ปล้นปืนเกิดขึ้นที่ค่ายทหารในจังหวัดอื่นแล้ว จะมีสภาพเละเทะขนาดไหน แสดงว่ากองทัพไม่เคยถอดบทเรียนที่เคยถูกปล้นปืนในอดีตเลย ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน่วยทหารถูกปล้นปืน ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา มีคนร้ายบุกปล้นปืนจากค่ายทหารไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง จ.ยะลา จ.นราธิวาส เคยมีคำกล่าวว่า หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย แล้วแบบนี้ปวงประชาจะข่มตาหลับลงได้อย่างไร ในเมื่อทหารยังเอาตัวเองไม่รอด" ร.ท.หญิงสุณิสากล่าว    
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า กรณี พล.อ.อภิรัชต์จะล้างบางธุรกิจในค่ายทหารภายใน 3 เดือน พร้อมทั้งให้นายทหารที่เกษียณอายุราชการย้ายออกจากบ้านพักภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้ เพื่อเปิดทางให้คนใหม่เข้ามาอยู่ในช่วงที่รับราชการนั้น ก่อนที่ พล.อ.อภิรัชต์จะพูดนั้นเป็นนาย เมื่อพูดไปแล้วคำพูดก็จะเป็นนายของ พล.อ.อภิรัชต์ หลังจากวันที่ 29 ก.พ.นี้ หากปรากฏว่ามีทหารเกษียณอายุราชการคนใดยังอยู่ในพื้นที่ของกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ก็ไม่สามารถนั่งเป็น ผบ.ทบ.ได้อีกต่อไป
    "เรื่องนี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับอดีตผู้บังคับบัญชา รวมถึงนายทหารรุ่นพี่และเพื่อนพ้องจำนวนมาก ถือว่าเป็นหัวข้อหนึ่งของการปฏิรูปกองทัพ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถทำได้ เรื่องนี้เป็นลัทธิการเอาอย่าง อดีตผู้บังคับบัญชาทำอย่างไร ผู้บังคับบัญชายุคปัจจุบันก็จะทำอย่างนั้น ใช้งบหลวงสร้างบ้าน เป็นอภิสิทธิ์ชน หาก พล.อ.อภิรัชต์ทำได้ โลกก็จะจดจำ เหมือนคำพูดโบราณที่ว่า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษฉันใด สถานการณ์ก็สร้างโมฆบุรุษได้ฉันนั้น หากทำไม่ได้ตามที่ประกาศไว้ต่อสาธารณะ แม้จะร่ำไห้คนก็ขับไล่" นายจตุพรกล่าว 
สส.โคราชแนะป้องกันซ้ำรอย
    นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน  แถลงว่า คณะกรรมาธิการฯ จะออกหนังสือเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ เข้าชี้แจงเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา กรณีธุรกิจในกองทัพมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้หรือไม่ และมีกฎหมายใดรองรับหรือไม่ โดยจะเชิญเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ในวันพุธที่ 19 ก.พ.นี้ช่วงบ่าย  
    ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ในช่วงหารือนายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า  อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกมาตรการเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดอย่างทั่วถึง เป็นธรรมอย่างเหมาะสม และที่สำคัญต้องตรวจสอบและมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นอีก 
    นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย หารือว่า ทำไมจ่าคลั่งปืนโหดคนเดียวถึงปล้นอาวุธจำนวนมากได้ง่ายเพียงนี้ ถ้ามากัน 30-40 คน ไม่ขนรถถังไปหมดกองทัพหรือไม่ ที่สำคัญเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปเยี่ยมให้กำลังใจคนบ้านตน ก็โบกไม้โบกมือทำมินิฮาร์ท พร้อมให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลทำดีอยู่แล้วในการรักษาความปลอดภัย ไม่ได้หละหลวม แต่ก็สงสัยไม่ได้อีกว่า ถ้าไม่หละหลวมจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ สังคายนากองทัพ ทำให้กองทัพโปร่งใส เป็นที่พึ่งของประชาชน และตรวจสอบได้
    นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย หารือว่า กรณีนี้ทำให้รู้ว่าเกิดจากความผิดพลาด บกพร่องของผู้บังคับบัญชา และจะต้องมีผู้รับผิดชอบ 
    นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา หารือว่า ขอความกรุณาจาก ส.ส.ทุกคนช่วยสนับสนุนญัตติด่วนด้วยวาจา อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมหาทางไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก 
    นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย หารือว่า ขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้จัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ นักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวหวาดผวา ทำให้การท่องเที่ยวซบเซา.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"