จิตแพทย์แนะผู้ประสบเหตุกราดยิงที่โคราชจนเกิดความเครียด ปฏิบัติตนใน 8 แนวทางเพื่อกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุข ไม่แชร์-โพสต์ภาพความรุนแรง หาคนปรับทุกข์ ออกกำลังกาย หากิจกรรมทำให้ผ่อนคลาย
นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เหตุการณ์กราดยิงในเมืองโคราช เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นสถานการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนเป็นอันมาก ขณะนี้ทีมเอ็มแคท (MCATT) หรือทีมเยียวยาจิตใจในภาวะวิกฤติได้เร่งดำเนินการดูแลปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อลดความรุนแรงทางจิตใจจากผลกระทบครั้งนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยปัญหาที่พบมากในช่วงนี้คือความเครียด ซึ่งเป็นสภาวะทางอารมณ์ของผู้ประสบกับเหตุการณ์ที่เกิดอย่างไม่คาดฝันหรือไม่ทันตั้งตัว จะมีอาการปรากฏได้หลายแบบแตกต่างกัน เช่น ปวดหัว นอนไม่หลับ หายใจไม่อิ่ม ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดเมื่อย ใจสั่น วิตกกังวล กลัวโดยไม่มีเหตุผล คิดมาก หงุดหงิดง่าย ความคิดวนเวียน โมโหง่าย ไม่อยากพูดจากับใคร เป็นต้น ซึ่งความเครียดที่กล่าวมาประชาชนสามารถจัดการดูแลแก้ไขคลี่คลาย บรรเทาในเบื้องต้นด้วยตนเองมีคำแนะ 8 วิธี ดังนี้
1.ให้ดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ 2.ร่วมมือกันไม่แชร์ ไม่โพสต์ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสื่อโซเชียล เนื่องจากภาพในอดีตจะตอกย้ำให้หวนระลึกถึงเหตุการณ์ กระทบต่อจิตใจซ้ำๆ และยังกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้เกิดความหดหู่ หรือน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาอีก 3.ขอให้ลดหรือหลีกเลี่ยงการติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 5.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงจะส่งผลให้สุขภาพจิตดีไปด้วย 6.อย่าเก็บความไม่สบายใจไว้คนเดียว ขอให้พูดคุยปรับทุกข์กับคนใกล้ชิด จะช่วยระบายทุกข์ออกจากใจ และพูดให้กำลังใจกัน จะทำให้จิตใจดีขึ้น 7.ลงมือทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การออกกำลังกายตามความถนัดอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้สมองโล่ง สดชื่น นอนหลับได้ดีขึ้น หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ จะทำให้จิตใจมีสมาธิ และมีความสุขใจขึ้น
8.การฝึกการหายใจเพื่อคลายเครียด ซึ่งทำได้ทุกสถานที่และทุกครั้งที่มีความเครียด ไม่สบายใจ โดยนั่งในท่าสบาย หลับตาลง เอามือประสานกันวางที่บริเวณท้อง จากนั้นค่อยๆ สูดลมหายใจเข้า โดยนับเลขในใจ 1-4 เป็นจังหวะช้าๆ เพื่อให้มือรู้สึกว่าหน้าท้องพองขึ้น จากนั้นกลั้นลมหายใจไว้ชั่วครู่ นับเลข 1-4 เป็นจังหวะช้าๆ เช่นเดียวกับการหายใจเข้า จากนั้นค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก ให้นับเลขในใจ 1-8 จนลมออกหมด จะรู้สึกว่าหน้าท้องแฟบลง แล้วทำตามขั้นตอนเดิมซ้ำ 4-5 ครั้ง ให้ช่วงการหายใจออกนานกว่าช่วงหายใจเข้า จะทำให้ก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง จะทำให้สมองโล่ง แจ่มใสขึ้น
นพ.กิตต์กวีกล่าวว่า การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้ความเครียดบรรเทาลง การปรับตัวจะค่อยๆ ดีขึ้นและเป็นปกติใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หากปฏิบัติแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ ความคิดยังวนเวียนสับสน สามารถขอรับบริการปรึกษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือเข้าปรึกษากับทีมเอ็มแคทที่ออกบริการใกล้บ้านหรือที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ และอาจขอรับบริการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ หมายเลข 0-4423-3999 ตลอด 24 ชั่วโมง และทางสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |