12 ก.พ.63 - ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าหากเจ้าซีบร้า พูดได้ คงอยากโทรศัพท์บอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เตือนพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าน้ำตาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรในสถานการณ์แบบนี้ เและคงรู้สึกผิดหวังที่ยังไม่ได้ยินว่ากองทัพจะรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยิ่งน่าตกใจเมื่อได้ยินพล.อ.อภิรัชต์ เล่าว่า ทหารที่อยู่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ได้ยินเสียงยิงปืนขณะเกิดเหตุปล้นปืน เหตุใดจึงไม่มีการสกัดจับเพื่อป้องกันไม่ให้ จ.ส.อ จักรพันธ์ ถมมา หลบหนีออกไปนอกค่าย อยากถามว่า นายทหารเวรตลอดจนสิบเวร ประจำวันนั้น หายไปไหนกันหมด ทำไมจึงไม่ใช้วิทยุสื่อสารแจ้งเหตุไปยังกองพันข้างเคียงในที่ตั้ง เพื่อระดมกำลังสกัดกั้น ทำไมทหารทั้งกองทัพจึงปล่อยให้คนเพียงคนเดียวปล้นอาวุธแล้วขับรถหนีออกไปจากที่ตั้งของหน่วยได้ง่ายขนาดนี้ ไม่มีใครใช้โทรศัพท์มือถือแจ้งเตือนกันเลยหรืออย่างไร
นอกจากนี้ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล กว่าจะขับรถหนีออกนอกค่ายได้ก็ต้องขับรถเป็นกิโล ถ้ามีระบบการแจ้งเตือนเหตุที่มีประสิทธิภาพและหากมีการตั้งเครื่องกีดขวาง เช่น บังเกอร์ หรือ รั้วลวดหนาม ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพ น่าจะถ่วงเวลาคนร้ายได้ในระดับหนึ่ง และน่าสงสัยว่าหน่วยทหารสารวัตร ไม่ได้ออกตรวจตราสอดส่องหน่วยทหารต่างๆ ในพื้นที่โคราช ตามปกติหรือไง ทำไมจึงไม่มีบทบาทในการเข้าช่วยระงับเหตุ เพราะมีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกมาสกัดกั้นจนโดนยิงเสียชีวิต
ที่สำคัญโคราช เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลหน่วยทหารในจังหวัดอื่นๆ ทั่วทั้งภาคอีสาน แต่ลำพังแค่ในจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของตัวเอง กลับป้องกันรักษาฐานที่มั่นไม่ได้ แล้วจะดูแลจังหวัดทหารอื่นๆ ได้อย่างไร ถ้าหากมีเหตุการณ์ปล้นปืน เกิดขึ้นที่ค่ายทหารในจังหวัดอื่นแล้ว จะมีสภาพเละเทะขนาดไหน แสดงว่า กองทัพไม่เคยถอดบทเรียนที่เคยถูกปล้นปืนในอดีตเลย ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน่วยทหารถูกปล้นปืน ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา มีคนร้ายบุกปล้นปืนจากค่ายทหารไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง จ.ยะลา จ.นราธิวาส
แต่ในการปล้นปืนทุกครั้งที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนร้ายจะลงมือกันหลายคนและต้องมีการวางแผนหลอกล่อเจ้าหน้าที่ ทั้งยังต้องมีการยิงปะทะกันพอสมควรกว่าจะปล้นปืนออกไปได้ ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โคราชในครั้งนี้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ สามารถลงมือเพียงคนเดียว แบบง่ายๆ โดยไม่มีการต่อสู้หรือขัดขืนจากหน่วยทหารในพื้นที่เลย ที่ผ่านมา เคยมีคำกล่าวว่า หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัยแล้วแบบนี้ปวงประชาจะข่มตาหลับลงได้อย่างไร ในเมื่อทหารยังเอาตัวเองไม่รอด
รท.หญิงสุณิสากล่าวว่า พล.อ. อภิรัชต์ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าเอาแต่พูดว่าปัญหาการกราดยิงที่โคราชเป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัวของทหารไม่กี่คน เหตุการณ์ปล้นปืนที่เกิดขึ้นที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สะท้อนความล้มเหลวของกองทัพในการป้องกันฐานที่มั่นของตนเองไม่ให้ถูกปล้น จนทำให้ชาวบ้านต้องบาดเจ็บล้มตายไปด้วย ซึ่งทำให้คนไทยและประชาคมโลกสงสัยในขีดความสามารถในการรบและการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย แต่ที่ผ่านมา คนไทยยังไม่ได้ยินว่ากองทัพจะแสดงความรับผิดชอบแบบไหน และจะป้องกันไม่ให้หน่วยทหารถูกปล้นปืนอีกได้อย่างไร เห็นแต่ลีลาการลอยตัวอยู่เหนือปัญหาของผู้บัญชาการทหารบก และการทำท่าแจกมินิฮาร์ทแบบเห่ยๆของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยก กับฉากร้องไห้ที่นักแสดงเล่นแข็งเป็นหิน จนคนดูไม่อิน แม้แต่เจ้าซีบร้ายังต้องส่ายหัว ซึ่งสะท้อนถึงภาวะผู้นำที่ล้มเหลว ของ ผู้บัญชาการทหารบก กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |