24 มี.ค.61 - พล.อ.อัครเดช ศศิประภา หรือ เสธ.แอ๊ว อดีตรองปลัดกลาโหม ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 77 ปี โดยเฟซบุ๊ก Wassana nanuam ของนางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ระบุว่า “เสธ.แอ๊ว” พลเอกอัครเดช ศศิประภา (จปร.11) อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด น้องชาย พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา เสียชีวิตอย่างสงบที่รพ.กรุงเทพฯเมื่อสายวันเดียวกันนี้ ด้วยวัย 77 ปี หลังจากที่ นอนหลับ ไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมาในเช้านี้ โดยมีกำหนด พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 28 มีนาคม นี้ ที่วัดโสมนัสฯ ศาลา9 สวดพระอภิธรรม 7 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ3 เมย."
บทบาทที่สำคัญของ เสธ.แอ๊ว ในช่วงรับราชการถือได้ว่าได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกองทัพในช่วงบ้านเมืองเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจากการตั้งกลุ่มนักเลง แก๊งกวนเมือง ก่อเหตุรุนแรงขึ้น ช่วงที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ในขณะนั้นได้มีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจ 123 (สายตรวจร่วมปฏิบัติการพิเศษทหาร ตำรวจ 123) ที่เป็นกำลังพลของกองพันทหารสารวัตรที่ 1 คัดกำลังพลที่มีความเข้มแข็ง จริงจัง สุภาพ อ่อนน้อม มีความซื่อสัตย์ เพื่อไว้ปราบนักเลง กลุ่มกวนเมือง
โดยหน่วยดังกล่าวมีอำนาจการปราบปรามอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงกองกำลังขนาดเล็กติดอาวุธ มีอำนาจสั่งการได้โดยตรง ทำให้ "เสธ.แอ๊ว" ได้รับแต่งตั้งให้นายทหารผู้นี้เป็นหัวหน้าชุด จนตัวเขาถูกจับตามองจากเจ้าพ่อ นายบ่อน มิจฉาชีพ ที่ส่วนใหญ่ต้องการเข้ามาผูกสัมพันให้เกิดความใกล้ชิด และลดความหวาดระแวงอันจะนำไปสู่การปราบปรามได้
“ท่านได้ริเริ่มตัดกำลังเข้ารับการฝึกอบรมสายตรวจร่วมปฏิบัติการพิเศษ ทหาร ตำรวจ (สายตรวจ 123) โดยทำการฝึกการใช้รถจักรยานยนต์ การใช้อาวุธประจำการในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้เวลาฝึก 3 สัปดาห์ หลังจากจบการฝึกอบรมก็เริ่มออกปฏิบัติการตามภารกิจ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง มิจฉาชีพลดลงอย่างทันตาเห็น ประชาชนก็ต่างอบอุ่นใจทำมาหากินอย่างมีความสุขและปลอดภัย” (หนังสือเกษียณอายุราชการ 36 พล.อ.อัครเดช ศศิประภา, น.36)
จากนั้นได้มีการริเริ่มจัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ กองพันทหารสารวัตรที่ 1 ขึ้น โดยคัดเลือกทหารที่มีร่างกายแข็งแรง ลักษณะทหารที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ เข้ารับการอบรมการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (A.T.) ใช้เวลาฝึก 6 สัปดาห์ จัดเป็นกำลังพิเศษเพื่อปฏิบัติภารกิจในการอารักขาบุคคลสำคัญ ทำให้ “เสธ.แอ๊ว” กลายเป็นทหารผู้กว้างขวางที่ถูกจับตามองมากที่สุดในยุคนั้น
ด้วยความที่เขาเป็นทหารในราชการที่มีตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ และมีเครื่องมือพิเศษในการปฏิบัติราชการ อีกทั้งมีความก้าวหน้าในชีวิตรับราชการตามลำดับ เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 และรับราชการอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีถึง 6 ปี จึงมีความใกล้ชิดกับอดีตกำนัน และเจ้าพ่อท้องถิ่น และมีนักการเมืองเข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์ในทุกสาย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |