12 ก.พ.2563 – เพจทหารหลังกองพัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ #กราดยิงโคราช ถ้าหากท่านฟังจนจบ แล้วหากว่าท่านเป็น ผบ.ทบ. ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??”มีเนื้อหาว่า
1. เล่าเหตุการณ์ก่อน เสาร์ที่ 8 ก.พ. เวลา 14.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนส่วนตัวสังหารคู่กรณีและเครือญาติ ณ บ้านพัก ด้วย ***ปืนส่วนตัว 5 ชนิด*** (ซึ่งมีขั้นตอนการได้มาที่ถูกต้อง ตามระเบียบ) คือ ก่อนไปปล้นคลังอาวุธ เขามีอาวุธส่วนตัวไปก่อเหตุมาแล้วนั่นแหละ
ต่อมาเวลา 15.00 น. ได้ใช้ ***รถยนต์ส่วนตัว*** ขับมาที่ป้อมยาม และได้ใช้อาวุธปืนที่พกไป ขู่เจ้าหน้าที่ที่รักษาการอยู่ และได้ชิงปืน HK33 พร้อมกระสุน 40 นัด ***ที่บันจุอยู่ในแมกกาซีน*** (คือยังไม่ได้บรรจุกระสุนอะ อยู่ในแมกกาซีน อยู่ๆมีคนปืนพร้อมมาขู่แล้ว จะสู้ยังไงใช่มะ??) เลยโดนชิง HK33 กระบอกแรกไป ทีนี้ล่ะ ถึงได้ขับรถต่อไปคลังอาวุธ ซึ่ง ณ จุดนั้นเป็นจุดที่มีพลทหารรักษาการอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนที่ปล้นมาตั้งแต่จุดแรก (HK33) กราดยิงพลทหารเมธา เลิศศิริ จนเสียชีวิต
และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนลูกซอง เรมิงตัน 870 (ปืนตัวเอง) ซึ่งเป็นลูกซองที่มีอานุภาพในการยิงสูง ซึ่งใช้ทำลายประตูและลูกกุญแจ มาก่อเหตุด้วยการยิงกุญแจซึ่งเป็นกุญแจซึ่งมีความแข็งแรง และได้ยิงตัวบานอาวุธคลัง ได้ทำการปล้นปืน HK33 และ ปืนกล M60 อีก อย่างละกระบอก ***ยังไม่ได้กระสุนนะ เพราะคลังอาวุธ และกระสุนอยู่แยกกัน*** (สรุปคือใช้กำลังในการทำลายประตูเข้าไป ไม่ได้ไปชิงกุญแจมาเปิด ซึ่งเป็นการยากมากที่จะไปขู่นำกุญแจมา จากระบบการบริหารจัดการดูแลคลังอาวุธ) จากนั้นใช้ปืน HK33 กราดยิงยามรักษาการซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบาดเจ็บ ซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะคาดไม่ถึงว่าพวกเดียวกันจะยิงมา
พอน้องพลทหาร ได้เรียนนาย และทหารภายในเริ่มทราบได้ยินเสียงปืน คนร้ายก็ได้นำรถจิ๊ปที่ดัดแปลงเป็นรถตรวจการ (ไม่ใช่รถฮัมวี่อย่างที่สื่อเข้าใจ) ขโมยรถเสร็จก็เอาไปขับชนประตูคลังกระสุน ซึ่งเป็นคลังที่เป็นประตูเหล็กหนาแน่นจนประตูเสียหาย ***ขับรถชนประตูนะ*** จนเข้าไปในคลังได้ และขโมยกระสุน 5.56 มม.ที่ใช้ HK33 และขณะเดียวกันชุดเผชิญเหตุได้รับแจ้งจากพลทหารพยายามไล่ติดตามไปแต่เนื่องจากรถได้ถูกผู้ก่อเหตุขโมยไปจึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว อาวุธก็ไม่มีเพราะอยู่ในคลัง ใช้ปืนพกไล่ยิงจนผู้ก่อเหตุออกมานอกค่าย
ได้ไปก่อเหตุกราดยิงประชาชนตามรายทาง ซึ่งมีการแจ้งตำรวจแล้ว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เข้าไปในห้าง เทอมินัล 21”
2. แรงจูงใจมาจากอะไรล่ะ?? เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณีได้มีการซื้อขายที่ดิน ผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน (ซึ่งในรายละเอียดต้องสืบต่อไป) เมื่อผิดสัญญากันก็จึงทำให้เกิดแรงจูงในในการก่อเหตุครั้งนี้ จนเกิดประโยคหนึ่ง ที่สื่อนำไปทำภาพตัดแปะข้อความ คือ "ณ วินาทีที่ผู้ก่อเหตุได้ลั่นไกสังหารคู่กรณี ณ นาทีนั้นเขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว" ถ้าลองได้ฟังที่ท่านพูดจริงๆ กับภาพแปะประโยคสั้นๆนี้ จะรู้เลยว่ามันคนเรื่อง คนละอารมณ์
3. แล้วมาตรการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และกระสุนล่ะ?? กองทัพบกได้มีมาตรการในเรื่องนี้เป็นเวลานานแล้ว แต่อาจมีบางหน่วยที่หละหลวม ก็ต้องดำเนินลงโทษเป็นกรณีไป แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ก่อเหตุปฏิบัติราชการอยู่ในหน่วยนั้น ชำนาญใช้อาวุธและพื้นที่ จึงรู้ว่าไปเอาอะไรที่ไหน จะทำลายอะไรอย่างไร
4. แล้วกองทัพบกคิดจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร?? “ผมในฐานะ ผบ.ทบ.พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้สภาพจิตใจทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บดีขึ้น ส่วนประชาชนที่เสียชีวิต กองทัพบกพร้อมที่รับเข้ารับราชการตามคุณวุฒิ อีกทั้ง ผู้บาดเจ็บที่เสียโอกาสประกอบวิชาชีพ กองทัพบกอ้าแขนรับท่านโดยไม่มีข้อแม้”
จริงๆแล้ว มีอีกเยอะมากที่ท่านพูดถึงเรื่องของการรับผิดชอบ แต่ก่อนอื่น เสิงอยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้ถ้าว่ากันตามกฎหมาย เหตุการณ์ระหว่างผู้ก่อเหตุกับคู่กรณี เป็นเรื่องส่วนตัว (ไม่ใช่การกระทำผิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพบก) ดังนั้นการจะฟ้ององค์กร หรือเรียกร้องให้ผู้ดูแลต้องลาออก ฯลฯ หรือที่จะสรรหามาเรียกร้อง มันจึงดูไม่ถูก จริงไหมครับ??
เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ บริษัทที่มีพนักงานจำนวนมาก หากวันหนึ่งพนักงานไปปล้นร้านทอง เจ้าของบริษํทต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกใช่หรือไม?? แล้วอีกกระแสที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่ท่านร้องไห้เป็นการแสดง บ่งบอกชี้ชัดถึงผู้พูดเลยนะครับ ว่ามีทัศนคติอย่างไร ถ้ามองให้ลึก ท่านก็เป็นคนคนหนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนกับเรา การที่ท่านจะเสียใจต่อครอบครัว ต่อผู้สูญเสีย มันเป็นเรื่องที่แย่มากเลยหรือครับ??
ขนาดตัวเราเองที่เสพข่าว อยู่ห่างไกลที่เกิดเหตุมากมาย เรายังมีความรู้สึกเสียใจ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เสิงจึงอยากฝากคำถามไว้กับทุกคนที่ใช้อารมณ์เข้าวิพากษ์วิจารณ์จนลืมดูข้อเท็จจริงไว้ว่า "ถ้าท่านเป็นผู้บัญชาการทหารบกในวันนี้ ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |