นายกฯ สั่งตั้ง คกก.เยียวยาเหยื่อเหตุกราดยิงโคราช เร่งช่วยเหลือแบบแพ็กเกจครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมควักเงินกองทุนผู้ประสบสาธารณภัยสมทบเพิ่ม ใช้เกณฑ์เดียวกับเหตุบึ้มราชประสงค์ โคราชทำบุญใหญ่ตักบาตรพระสงฆ์หมื่นรูปฟื้นขวัญกำลังใจ เผยยอดบริจาคทะลุ 14 ล้าน เทอร์มินอลฯ เปิดทำการอีกครั้ง 13 ก.พ.
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่หลายฝ่ายแนะนำให้ทำบุญประเทศเพื่อเป็นสิริมงคลและเรียกขวัญกำลังใจ ภายหลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมาว่า เรื่องการทำบุญทางจังหวัดนครราชสีมามีแผนอยู่แล้ว ส่วนการบริจาคทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เปิดรับบริจาคโดยตรงแล้ว ซึ่งได้มาจำนวนหนึ่งในขณะนี้ ขอฝากด้วย ถ้าใครอยากทำบุญทำกุศลหรือช่วยเหลือ ให้ทำผ่านช่องทางของจังหวัด และต้องดูว่าจะต้องใช้จ่ายอะไรกันอย่างไร 
    "วันนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาในทุกกิจกรรม ทุกประเภทจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เป็นแพ็กเกจออกมาให้เห็นว่าได้รับอะไรอย่างไร จากใครบ้าง รวมถึงการเยียวยาตามกฎระเบียบอยู่เดิม ถือเป็นสิทธิของประชาชนและข้าราชการ นอกจากนี้ เป็นความร่วมมือจากภาคเอกชนและโอกาสต่อไปรัฐบาลต้องดูในเรื่องของการท่องเที่ยวให้เป็นที่เชื่อมั่นและไว้วางใจ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็ขวัญเสียหมด" นายกฯ ระบุ
    อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ได้รับรายงานจากกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน และมาตรการเสริมจากปกติที่ต้องดูแล ซึ่งรัฐบาลกำลังหารือ ต้องพิจารณาข้อกฎหมายด้วย เราคิดเองทำเองไม่ได้ บางทีอาจผิดกฎหมายเหมือนที่เคยทำกันมา ที่ผ่านมายังเป็นคดีกันอยู่ในการใช้จ่ายงบประมาณประเภทหลายๆ อย่าง
    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ก่อนการประชุม ครม. นายกฯ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมากับผู้ที่สูญเสีย ทั้งผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้คือการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม ที่สูญเสียทรัพย์สินผลกระทบทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งหามาตรการเยียวยาทุกกลุ่ม โดยนายกฯ สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการที่จะช่วยเหลือเยียวยาทุกๆ คนที่ได้รับผลกระทบนอกเหนือจากสิ่งที่เขาพึงได้รับตามกฎหมายตามแต่กรณี และในที่ประชุม ครม.ได้ระบุถึงความพร้อมที่จะนำมาตรการอื่นๆ ลงไปให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุนการศึกษาเรื่องการจ้างงาน การให้ความรู้ หรือกระทรวงสาธารณสุขจะมีเรื่องการเยียวยาผลกระทบทางจิตใจโดยกรมสุขภาพจิต 
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้พูดถึงกรอบการช่วยเหลือโดยคร่าวๆ 4 เรื่อง คือมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง มาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูจิตใจสำหรับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ มาตรการสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชน และมาตรการเยียวยาและลดผลกระทบของผู้ประกอบการ ซึ่งทั้งหมดจะออกมาเป็นแพ็กเกจ
    ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1/2563 ว่ารัฐบาลต้องการหาทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้ได้มากที่สุด จึงจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่มาดูแลกรณีนี้เป็นการเฉพาะ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ สำหรับเงินในบัญชีกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยฯ ขณะนี้มีประมาณ 1,000 ล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลยังไม่จำเป็นที่ต้องเปิดรับบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนดังกล่าว 
    ทั้งนี้ เงินจากกองทุนฯ จะถูกนำไปจ่ายช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเงินเยียวยาที่ผู้เสียหายแต่ละรายจะได้รับจากหน่วยงานอื่นๆ ตามกฎหมาย โดยเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมาเข้าข่ายตามเงื่อนไขในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2542 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดยจะใช้หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อครั้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เป็นแนวทางในการพิจารณาจำนวนเงินที่เหมาะสมในครั้งนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำเอกสารคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลภายใน 7 วัน จะสามารถจ่ายเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตในทันที ส่วนจำนวนเงินจะต้องดูเป็นกรณีไป แต่ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 110,000 บาท สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจะต้องดูเป็นกรณีไป อาจจะมีค่าเสียเวลาการทำงาน หรือบางคนถ้าพิการจะได้รับการดูแลมาก
    นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงว่า จะมีเงินช่วยเยียวยาในส่วนหนึ่ง แต่ส่วนตน รวมทั้งเพื่อนและข้าราชการในกระทรวง ทส.และกรมป่าไม้ได้รวบรวมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่พี่ของผู้เสียชีวิตที่เป็นพนักงานของกรมป่าไม้ จะหารือกับอธิบดีกรมป่าไม้ถึงการวิธีบรรจุให้เป็นข้าราชการของกรมป่าไม้เพื่อให้มีความมั่นคงในอาชีพได้หรือไม่ เนื่องจากครอบครัวนี้พ่อแม่อายุมากแล้ว 
    ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหามาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กราดยิง เนื่องจากเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และอาวุธที่ใช้เป็นของทางราชการ สำหรับผู้เสียชีวิต จึงควรมีการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ส่วนผู้ที่บาดเจ็บ ควรได้รับการชดเชย และรักษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษโดยไม่เสียค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติ และดูแลเยียวยาสภาพจิตใจหลังการรักษา
    ในส่วนของผู้ประกอบการในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ควรมีการชดเชยทรัพย์สินที่เสียหาย และหาแหล่งเงินกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยพิเศษระยะยาว ส่วนของความเสียหายอื่นๆ เช่น รถยนต์ ให้สำรวจความเสียหาย และชดเชยความเสียหายให้ตามจำนวน ขณะที่การสร้างขวัญกำลังใจ ให้หน่วยงานภาครัฐกำหนดมาตรการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำขึ้นอีก ทั้งนี้เตรียมจัดกิจกรรมสร้างขวัญกำลังใจ และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเช้าวันที่ 15 ก.พ.นี้ เตรียมจัดพิธีทำบุญใหญ่ตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 10,000 รูป ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
     ล่าสุด มียอดเงินบริจาคเข้ามาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วจำนวนกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งประชาชนสามารถร่วมกันบริจาคได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเซฟวัน ชื่อบัญชี ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 โดยจังหวัดนครราชสีมา เลขที่บัญชี 678-9-97951-4
     นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมจะขยายระยะเวลาการยื่นงบการเงินให้กับนิติบุคคลที่ประสบเหตุ ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะมีการชี้แจงรายละเอียดมาตรการความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการให้รับทราบโดยทั่วกัน สำหรับการพูดคุยกับผู้บริหารของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ขณะนี้ศูนย์การค้าพร้อมดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมจุดที่เสียหาย เบื้องต้นทราบว่าจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งในวันที่ 13 ก.พ.นี้.