น่าจะครบ น่าจะหมดเสียที บัญชีคำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ลงมาถึง สารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2560 ที่ทยอยประกาศออกมาตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.2561 จนถึงคำสั่งล่าสุดช่วงค่ำๆวันพฤหัสบดี 22 มี.ค. ที่แม้หลายหน่วยงานประชุมมอบนโยบายตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 121/2561 เพิ่งแจกจ่ายออกมาจำนวน 48 ตำแหน่ง มีทั้งขยับสูงขึ้นและโยกระนาบ รวมทั้งยังมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายในคำสั่งก่อนหน้านี้ ถูกถอนรายชื่อออกจากคำสั่งเดิม 4 ราย คือ พ.ต.ต.ศักรินทร์ หลำเอียด สว.สส.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ไปเป็น สว.กลุ่มงานประสานงานข่าวต่างประเทศ บก.ส.4 พ.ต.ท.ศิริชัย ปักเสติ รองผกก.ฝอ.มน. เป็น รองผกก.ปป.สภ.เวียนเก่า จ.ขอนแก่น ร.ต.อ.อำพร มุสิกพันธ์ รองสว.ตม.จ.สตูล บก.ตม.6 เป็น สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน และร.ต.อ.อิสริยะ บาโงสะตา รองสว.(สอบสวน) สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เป็น สวป.สภ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ๐

                ต้องยกรางวัล "นายตำรวจยอดขยัน" ให้ บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)ฝ่ายป้องกันปราบปรามอาชญากรรม(ปป.) เพราะฝช้เวลาเพียง 3 วัน เดินทางไปมอบนโยบายให้กับตำรวจที่ได้รัลบการแต่งตั้งใหม่ และตำรวจระดับ ผกก.ขึ้นไปในกองบัญชาการ(บช.)ต่างๆได้ถึง 5 กองบัญชาการ ตั้งแต่ไปมอบนโยบายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ลูกน้องพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ถัดมาอีกวันไปมอบนโยบายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (บช.ภ.6) จ.พิษณุโลก ลูกน้องพล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 จากนั้นวันศุกร์ที่ผ่านมา เดินสาย 3 กองบัญชาการรวด ตั้งแต่ช่วงเช้าไปมอบนโยบายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) จ.นครปฐม ลูกน้องพล.ต.ท.กิต ติพงษ์ เงามุข  ผบช.ภ.7  ช่วงสายไปมอบนโยบายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(บช.ภ.1)  ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 จว.สระบุรี ลูกน้องพล.ต.ท.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  ผบช.ภ.1 และช่วงบ่ายไปมอบนโยบายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) จ.ชลบุรี ลูกน้องพล.ต.ท.จิตติ  รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ๐

                สิ่งที่ "บิ๊กอวบ"พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เน้นย้ำทุกกองบัญชาการให้ปฎิบัติเป็นไปตามนโยบายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และบิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) โดยเฉพาะการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม  ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2561 ภายใต้แผนปฏิบัติการ “พิทักษ์ภัยให้ประชาชน 2561” เน้นงานสำคัญทั้งด้านป้องกันอาชญากรรม มุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก ด้านปราบปรามอาชญากรรม ทุกสถานีตำรวจจะต้องระดมกวาดล้างอาชญากรรม อย่างน้อย 10 วันต่อเดือน  ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและอาชญากรรมพิเศษ  รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ  ต้องเข้มงวดกวดขัน  กำชับ  เรื่องการแต่งกายให้เรียบร้อย  ตัดผมสั้น  และงดเว้นการสวมใส่แว่นตาดำขณะปฏิบัติหน้าที่  เว้นแต่ตำรวจที่มีปัญหาด้านสายตา ตาอักเสบ จากความเห็นของแพทย์   และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพตา  อนุโลมให้สวมใส่แว่นดำได้  ที่สำคัญต้องเป็นแว่นดำที่มีลักษณะที่เหมาะสม ห้ามใช้แว่นแฟชั่น หรือแว่นที่มีการเคลือบปรอทสีต่างๆ ๐

                คณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นั่งหัวโต๊ะไฟเชียวหลักการร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ตามที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เสนอแล้วในการประชุมครม.วันอังคารที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติที่เกี่ยวกับ องค์ประกอบอำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ให้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ตำรวจ การยกเลิกอำนาจการคัดเลือกแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) การแก้ไขปรับปรุงหน้าที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และมีอำนาจพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. นอกจากนี้ยังให้มีการแก้ไขกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับ และกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับกองบัญชาการทำหน้าที่แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ รวมถึงการกำหนดพิจารณาบำเหน็จความชอบ เลื่อนเงินเดือน เป็นรูปแบบคณะกรรมการและกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาร้องทุกข์เป็นหลักประกันการตรวจสอบการใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้าย...ทราบแล้วเปลี่ยน ๐

                ถึงฤดู "เกณฑ์ทหาร"อีกรอบ   ปีนี้ "บิ๊กอ้อม" พล.อ.วีรชัย  อินทุโสภน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ผ่านตำแหน่ง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) มาก่อน นั่งแถลงข่าวการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการปี 2561  แบบลื่นไหล  ยอดความต้องการชายไทยมากขึ้นกว่าปีก่อนเกือบ 2 พันคน (ปีนี้ 104,734 คน )  แต่ที่น่าสนใจคือ ในปีนี้จะมีการย่นระยะเวลาการเข้ารับรายงานตัว   ในส่วนของบุคคลที่ขอผ่อนผัน โดยให้ทำไปคู่ขนานกับผู้ที่เข้ารับการตรวจเลือกฯ จับใบดำ-ใบแดง  ไม่ต้องรอกันเป็นหางว่าว เข้าคิวตลอดทั้งวัน เสียเวลาทำมาหากิน  สำหรับ "บิ๊กอ้อม" หนึ่งใน 5 เสือ ทบ.ที่อารมณ์ดี ยิ้มรับทุกสถานการณ์ ถูกผู้สื่อข่าวกระเซ้าเรื่องเก้าอี้ ผบ.ทบ.ปลายปี  ที่กระแสข่าวตกเป็น "มวยรอง"  เจ้าตัวได้แต่หัวเราะ กับคำถามที่ใส่เนื้อหาเรื่องการเกณฑ์ทหาร เลยแก้ไขสถานการณ์ด้วยการบอกให้ไปคุยส่วนตัว..ส่งสัญญาณ จบข่าว แบบสันติวิธี

                กล้าตอบคำถาม "นาฬิกาหรู" ครั้งแรก สำหรับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม                 หลังจากเจอคำถามทีไร จะเดินหนีไปแบบ "สะบัดบ็อบ"  แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา  กลับ "ยิ้มรับ" ระหว่างเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเจอคำถามสุดฮ็อท  โดยเฉพาะการทวงสัญญาของ "ทิชา ณ นคร " อดีต สปช. ที่ได้รายชื่อ 8 หมื่นรายชื่อเป็นประชามติ ให้ "บิ๊กป้อม" ลาออกหลังจากที่ประกาศว่าหากเป็นความต้องการของประชาชน แต่การตอบของ "บิ๊กป้อม" ก็เป็นเพียงประโยคสั้นๆ ที่ระบุว่า  "ก็ยังไม่ผิดอะไรนี่ ให้ป.ป.ช.เขาชี้มา"  แม้ไม่ฮือฮา  แต่อุณหภูมิร้อนยังคงสุมอยู่ ป.ป.ช.อยู่ต่อไปอีกระลอก ๐

                กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชี่ยล โดยเฉพาะเพจอาวุธที่มีภาพ "รถถังจีน" VT-4 กำลังถูกเจ้าหน้าที่  งานนี้ เหล่าบรรดา "แฟนบอย" นิยมอาวุธจีน  ออกมาโวยวาย เรื่องการดิสเครดิตเป็นทิวแถว เพราะเชื่อว่า เจ้ารถถังรุ่นนี้ถึงอย่างไร ก็น่าจะมีคุณภาพดี ไม่น่าจะมีปัญหาแค่ส่งมอบได้ไม่กี่เดือน  วงใน ทบ. ไล่ให้ลบข้อมูลรูปภาพดังกล่าว เพราะภาพหลุดจากค่ายทหาร  แบบนี้ "คนใน" เป็นเหตุ  แต่เมื่อพลิกดูต้นตอพบว่ากลายเป็นภาพจาก บริษัทเอกชนรถลาก - รถยก ที่เข้ามารับงานจาก บริษัทโนรินโก้ รัฐวิสาหกิจจีนที่ผลิตรถถังรุ่นดังกล่าวอีกที  ในส่วนข้อเท็จจริง พบปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟและ เบรกของรถถังคันที่ใช้งานโชว์จริง แต่มีการปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ ทบ.คงต้องวิเคราะห์เรื่องนี้ให้ละเอียดและระมัดระวัง ที่สำคัญคือภาพที่เป็นที่ตั้งหน่วยทหาร กลายเป็น "ขนม"ของเหล่าบรรดามือดีที่เห็นยุทโธปกรณ์เป็นของสาธารณะคิดจะถ่ายภาพโดยพลการช่างง่ายดายมาก  งานนี้ "บิ๊กเจี้ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท  ผบ.ทบ. คงต้องสังคายนาระบบกันยกใหญ่ รวมทั้งดูบทสรุปคุณภาพของ "รถถังจีน" ก่อนส่งมอบในระยะต่อไป..ไม่ใช่แค่ดราม่าของ "ขาเชียร์" และ "ขาแช่ง" แบบสนุกปากเท่านั้น  ๐