"บิ๊กตู่" โยนวิปฯ หารือโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 วาระ 2, 3 แต่วอนให้ทุกคนคำนึงถึงความจำเป็นการใช้จ่ายงบขับเคลื่อนเศรษฐกิจ "ปิยบุตร" ค้านคำตัดสินศาล รธน.ให้โหวตวาระ 2, 3 ใหม่ ซัดใช้อำนาจเกินขอบเขตสถาปนาตัวเองเป็น รธน. ขณะที่ พท.จะไม่เข้าร่วมประชุมด้วย ปล่อยรัฐบาลแก้ปัญหาเอง "เหลิม" ย้ำ พท.มีเอกภาพ โวพร้อมแล้วซักฟอก ขู่กลับมามีอำนาจ เช็กบิล "ตู่-วิษณุ-ดอน" ย้อนหลังแน่ "สุชาติ-วิรัช" นัด ส.ส.กว่า 100 คนกินข้าวปัดโชว์พลัง
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตวาระ 2 และ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จากข้อเสนอว่าควรจะให้มีการอภิปรายเพิ่มเติมหรือควรจะให้ลงมติเลยว่า เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันตามกรอบที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยออกมาแล้ว วันนี้ถือเป็นเรื่องของสภา ปัญหาเกิดขึ้นที่จุดไหนก็ต้องไปแก้ที่จุดนั้น
"แต่หากเป็นไปได้ ก็อยากให้ทุกคนคำนึงถึงความจำเป็นของการใช้จ่ายงบประมาณด้วย เพราะสถานการณ์วันนี้มีหลายอย่าง ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ปัญหาจากผลกระทบในด้านต่างๆ หลายด้านด้วยกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ที่จะมีการพิจารณาวันที่ 13 ก.พ.ว่า ไม่จำเป็นต้องกำชับอะไร ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และไม่กังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องการเสียบบัตรแทนกันเหมือนการอภิปรายในรอบแรกแต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านอยากรักษาสิทธิในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 จะลากการพิจารณานั้น ตนเกรงว่าจะเกิดความเสียหายไปถึงประชาชนทุกระดับที่รอรับงบประมาณอยู่ จึงขอบอกกับฝ่ายค้านว่าอย่าใช้เวลาสำหรับเรื่องนี้อีกเลย ขอให้จบภายในวันเดียว เพราะชาวบ้านเขารออยู่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ทุกคนรู้หน้าที่ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากของประเทศไทย ดังนั้นการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ต้องมีความสามัคคีกัน เชื่อว่าทุกคนทราบหน้าที่ รวมถึงได้กำชับกันในทุกระดับอยู่แล้ว และคิดว่าปัญหาการเสียบบัตรแทนกันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว
เลขาธิการ พปชร.กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรค พปชร.เตรียมพร้อมอยู่แล้ว และได้เร่งหารือเพื่อเตรียมการให้พร้อมในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ตนหารือกับหัวหน้าพรรคแล้วว่าภายในพรรคจะต้องหารือกันในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน แต่ยังไม่ได้มีการนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล มีเพียงการหารือเรื่องการเตรียมการรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยตนจะเดินทางไปร่วม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า เห็นด้วยว่าควรให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ฉบับนี้ออกมารวดเร็ว เพราะเสียโอกาสมาเป็นเวลา 5-6 เดือนแล้ว แต่ขณะเดียวกันเราควรคำนึงถึงความถูกต้องและความเหมาะสมของวิธีการทำงานของสภา เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มีการพิจารณาในวาระ 2-3 ก็ควรให้พิจารณาตามธรรมชาติ คือ ถ้าไม่ซ้ำประเด็นเดิม หรือมีข้อสงสัย หรือมีประเด็นที่จะสอบถามสมาชิกก็มีสิทธิ์ที่จะสอบถามได้ ไม่ใช่เข้าไปแล้วประชุมแบบมัดมือชก คือ โหวตเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นก็ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จ ไม่ใช่สภาฝักถั่ว แต่นี่คือสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ใช่แต่งตั้งโดยรัฐประหารที่จะยกมือตามใบสั่งได้ จึงควรให้เอกสิทธิ์ของคนที่เป็น ส.ส.
ด้านายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาล รธน. เนื่องจากกรณีนี้เป็นคำร้องเพื่อขอให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เท่านั้น ซึ่งศาล รธน.มีความเห็นได้สองทางคือ 1.หากเห็นว่ากระบวนการตราชอบด้วยรัฐธรรมนูญร่างกฎหมายฉบับนั้นก็มีผลบังคับใช้ต่อไป หรือ 2.หากเห็นว่ากระบวนการตราไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องตกไปทั้งหมดเท่านั้น แต่ปรากฏว่าศาล รธน.วินิจฉัยว่ากระบวนการตราชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับกลับให้ไปลงคะแนนในวาระที่สองและสามใหม่ ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจจะดำเนินการเช่นนั้น ถือว่าเป็นกรณีที่ศาล รธน.วินิจฉัยเกินอำนาจที่มี คำวินิจฉัยของศาล รธน.มีผลผูกพันทุกองค์กร จึงจำเป็นต้องตีขอบอำนาจหน้าที่ให้ชัด เพื่อไม่ให้ศาล รธน.เป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง และเป็นผู้บังคับบัญชา ส.ส.
พท.ไม่ร่วมแก้ปัญหา พ.ร.บ.งบฯ
มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ในการประชุมพรรค พท. ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ได้หารือถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยวันที่ 12 ก.พ. ในการประชุมสภา พรรค พท.จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อหารือการดำเนินการของสภาให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องที่สุด รวมถึงมีมติพรรคออกมาด้วยว่าในการประชุมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในวันที่ 13 ก.พ. พรรค พท.จะไม่เข้าร่วมประชุม โดยจะเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมเท่านั้น เพราะเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดจาก ส.ส.รัฐบาล และที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวมาโดยตลอด และช่วยให้การลงมติที่ผ่านมาผ่านไปอย่างราบรื่น แต่สุดท้าย พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็มาพังเพราะมือของฝ่ายรัฐบาลเอง ดังนั้นเมื่อต้องแก้ปัญหา ก็จะปล่อยให้ ส.ส.รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องหารือในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านอีกครั้ง
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการกิจการพิเศษ ตัวแทนกรรมการบริหารพรรค วิปฝ่ายค้าน ได้ประชุมเตรียมความพร้อมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนเล่นการเมืองหลายปี ไม่เคยเห็นบรรยากาศการเมืองเป็นแบบนี้ ลูกพรรคพลังประชารัฐดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯบอกพร้อมแล้ว แต่ลูกพรรคกลับมาบอกจะประท้วงตั้งแต่ยังไม่อภิปราย ยืนยันการอภิปรายครั้งนี้ไม่มีเรื่องส่วนตัว รัฐบาลชุดนี้บริหารงานขาดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ช่วยแต่พรรคพวก พ่อค้าที่มีความสนิทสนมใกล้ชิด ขอให้รอดูฝ่ายค้านอภิปรายก่อน เห็นเตรียมการมีหลายวอร์รูม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยังเอาตัวเองไม่รอด รอแหวกวงล้อมกลางสภาให้ดี
"การที่รัฐบาลย่อยยับเพราะไปแก้กฎหมายศุลกากร กฎหมายสรรพสามิต ทำให้โรงงานยาสูบเจ๊ง นายวิษณุคือต้นเหตุ รอให้เปลี่ยนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์, นายดอน ปรมัตถ์วินัย, นายวิษณุ โดนดำเนินคดีแน่ วันนี้ยังไม่รู้เงาหัว ทำตัวเป็นศรีธนญชัย จะลอดช่องรอดอะไรไปก็ได้ แต่รอดจากเพื่อไทยไปไม่ได้ พวกทีมวอร์รูม อ.ส.ว. พวกวอร์รูมนอกสภา เราไม่ให้ราคา เป็นพวกผีสางนางไม้"
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวย้ำว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเป็นเอกภาพ สื่อบางสื่ออย่าเขียนว่า พรรคจะแตก ไม่มี อย่ามาชักใบให้เรือเสีย ไม่มีใครทะเลาะกับใครทั้งนั้น มีแต่ประยุทธ์ออกไป ถึงอยู่ต่อได้ ก็ลำบาก เราจะทำหน้าที่ล้มรัฐบาล หลังอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์จะปรับ ครม.หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ฟันธง พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ไม่ได้แน่
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมมากกว่า 95เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ที่กำลังจัดเตรียมเนื้อหา ส่งไม้กันให้ลื่นไหล วันนี้ก็มีข้อมูลใหม่เข้ามาเพิ่มอีก กำลังจะนำเติมเข้าไป มีทั้งข้อมูลใหม่ ข้อมูลเก่า รัฐบาลประยุทธ์ คงจะลำบากแน่ และคงเหมือนรัฐบาลบรรหาร รัฐบาลชวน ที่แม้จะยกมือผ่านในสภา แต่อีกไม่นานก็ออก
"วิรัช-สุชาติ"นัด100สส.โชว์
นายสุทินกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งมีการวิเคราะห์ หากตัดสินเป็นผลไปในทางลบกับ อนค. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเสียกระบวนว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมการไว้แล้ว โควตาพรรค อนค.ที่มี ส.ส.จะร่วมอภิปราย และเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค 3 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค, น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษก พรรค, นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารพรรค โดยถ้าหากพรรคถูกยุบทั้ง 3 คนนี้ก็จะไม่สามารถอภิปรายได้ แต่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่คนอื่นๆ ที่เหลือ ที่ไม่ได้เป็น กก.บห. แสดงเจตจำนงว่าจะอภิปรายเหมือนเดิม เราได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นทุกมิติ แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล, นายสุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส. และ ส.ส.กว่า 100 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส, นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. นัดพบปะหารือพร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐแห่งใหม่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก
โดยนายสุชาติเปิดเผยว่า เป็นการให้ ส.ส.มาดูสถานที่ว่าสะดวกหรือไม่ ซึ่งหากสะดวกก็จะเตรียมการย้ายสถานที่ทำการพรรค โดย ส.ส.ที่มาวันนี้ประมาณ 80 คน ยืนยันว่าไม่มีกลุ่ม เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียวทั้งหมด ส่วนที่ถูกมองว่าการรวมตัววันนี้เป็นการโชว์พลังสู้กับบางกลุ่ม ก็ขอย้ำว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งที่มีข่าว ส.ส.พลังประชารัฐไปทานข้าวชุดหนึ่ง โดยคนที่ไม่ได้ไปวันนั้นจึงมากินกันวันนี้ ในฐานะประธาน ส.ส.ขอยืนยันว่าในพรรคมีความสามัคคี เพราะทุกคนขึ้นกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคทุกคน
เมื่อถามว่า การนัดรวมตัววันนี้ เป็นการแสดงพลังเพื่อสนับสนุนให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า การนัดวันนี้ มีทั้งประธานวิปรัฐบาล ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคใต้ ซึ่งไม่ใช่มาเฉพาะกลุ่ม โดยมาทุกพื้นที่ ส่วนเรื่องรัฐมนตรี มองว่าเป็นเรื่องที่ไกลเกินจะคิด
ถามว่าจะเป็นการแบ่งกลุ่มที่ชัดเจนหรือไม่ว่าคนที่มาวันนี้เป็นผู้ที่ไม่ได้ไปร่วมกินข้าวกับสามมิตร นายสุชาติกล่าวย้ำว่า ในพรรคมีความสามัคคี แต่เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่บางกลุ่มสนิทกัน ก็ไม่กล้าชวนข้ามกลุ่ม แต่ส่วนตัวไม่มีกลุ่ม จึงชวนทั้งหมด แต่แค่ไม่ตรงกับกลุ่มที่เขาไปกินข้าวมาก่อนแล้ว
"เป็นการเตรียมความพร้อม เกี่ยวกับตารางการเดินทาง และเตรียมตัวเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งข้อบังคับการประชุมสภา" นายสุชาติกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |