ผวา‘เวสเตอร์ดัม’นำเชื้อ


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" ยันไม่รับเรือเวสเตอร์ดัมเข้าเทียบท่าไทย บอกช่วยได้แค่เติมน้ำมัน-ส่งอาหารตามหลักมนุษยธรรม หวั่นเพิ่มความเสี่ยงแพร่ไวรัสโคโรนา "อนุทิน" ประสานเสียง "ประวิตร" ส่ายหน้าห้ามขึ้นฝั่ง "อธิบดีกรมเจ้าท่า" แจง ครม.บอกเรือสำราญไม่ได้ขออนุญาตเข้าเทียบท่า แต่ "รมช.คมนาคม" มาคนละม้วน รับตัวแทนเรือประสานกรมเจ้าท่าขอขึ้นแหลมฉบัง 10 ก.พ. แต่ไม่อนุญาต
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเรือเอ็มเอส เวสเตอร์ดัม (Westerdam) ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,200 คน จะเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ หลังจากถูกทางการฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ปฏิเสธให้เทียบท่าเพราะความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า เรื่องของเรือสำราญที่จะขอจอดเทียบท่าเรือของไทย เราไม่อนุญาตให้จอด แต่เราจะดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม อย่างการเติมน้ำมัน หรือต้องการน้ำ อาหาร เราจะส่งไปให้ แต่ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมก่อนเช่นเดียวกับต่างประเทศที่ดำเนินการเช่นเดียวกัน ก็ขอให้เข้าใจด้วย
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีคนจำนวนมากกว่า 2,000 คนบนเรือเราต้องระมัดระวังการแพร่กระจายไประยะที่ 3 ซึ่งวันนี้เราอยู่ในระยะที่ 2 ยังควบคุมได้ หรือดูแลผู้ที่มาจากต่างประเทศได้ แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะประชุมและให้ทางกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงมาตรการเตรียมการขั้นต้นไม่ให้นำไปสู่การแพร่ระบาด ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ถ้าเราทำได้ดีครบถ้วนทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา
    นอกจากนี้ได้ให้ รมว.พาณิชย์ไปประชุมหารือกับผู้ประกอบการผลิตหน้ากากอนามัยให้ผลิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทราบว่าหลายโรงงานมีการเพิ่มวงรอบการผลิตเพื่อให้ประชาชนใช้ได้อย่างทั่วถึง และต้องมีมาตรการสำรองด้วย เพราะหลายประเทศขอมาเหมือนกัน ขณะนี้หน้ากากอนามัยขาดแคลนหลายประเทศ เราจึงต้องเตรียมการให้พร้อม 
    "อยากฝากเรียนว่า วันนี้เราให้ความรู้ทั้งการสาธารณสุข ทางการแพทย์ อาจจะใช้วิธีการทำหน้ากากอนามัยด้วยผ้า ซึ่งสามารถซักใช้ได้หลายครั้ง จะทนทานมากกว่าใช้หน้ากากชั่วคราวแบบนี้ แต่ก็ต้องมีให้เพียงพอ ทั้งในส่วนที่จำหน่ายตามร้านค้า ต้องไปหาตั้งแต่ต้นทางมา ผลิตได้เท่าไหร่ จะเพิ่มจำนวนเท่าไหร่ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาโรงงานทำด้วยกลไกทางการตลาดของเขาเอง ราคาก็เป็นจำนวนหนึ่ง เราจะดูว่าทำอย่างไรให้กระจายไปทุกพื้นที่" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้หน้ากากอนามัยไปร้านค้าประชารัฐส่วนหนึ่ง และร้านค้าต่างๆ อีกส่วนหนึ่ง แต่ปริมาณผลิตไม่พอ จึงมีการขาดแคลน ต้องเร่งรัดตรงนี้ รัฐบาลยินดีพร้อมสนับสนุน ส่วนหนึ่งที่ได้รับมาก็นำไปแจกก็มี ทุกคนต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่าการผลิตภาคเอกชนและองค์การเภสัชกรรม (อภ.) คนละแบบกัน อันนั้นเป็นเรื่องการตลาดการค้าของเขา ในส่วนของ อภ.ก็มีจำกัด ราคาจึงอาจแตกต่างกัน ก็ต้องดูในส่วนไหนจะทำประโยชน์อย่างไร อย่างน้อยเราก็ได้กำชับไปในทางปฏิบัติให้ได้มากที่สุด 
    "วันนี้ได้พูดคุยคณะรัฐมนตรีหลายประเด็นด้วยกัน ทั้งมาตรการระยะสั้น มาตรการระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องการขาดแคลน และในส่วนที่ต้องร่วมมือกับต่างประเทศ หลายๆ อย่างเราต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดี ถูกต้อง บทพื้นฐานกฎหมายของเรา ความปลอดภัยประชาชนของเราเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด" นายกฯ กล่าว
    ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี แถลงผลการประชุม ครม. ตอนหนึ่งว่า ครม.ได้หารือกันถึงกรณีเรือเวสเตอร์ดัมจะเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยอธิบดีกรมเจ้าท่าได้ออกมาชี้แจงและยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตเพื่อเข้ามาจอดเทียบท่าในไทยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่มีกระแสข่าวออกมาทางโซเชียลมีเดีย เนื่องจากทางเรือเวสเตอร์ดัมได้มีการติดต่อประสานกับเอเยนต์ที่อยู่ในประเทศไทย และเรือได้มีการนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ลงในเว็บไซต์จนทำให้โซเชียลมีเดียหยิบขึ้นมาเป็นกระแส
ไม่ให้เวสเตอร์ดัมเทียบท่า
    “อธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่าเอเยนต์ของเรือเวสเตอร์ดัมไม่ได้มีการประสานหรือติดต่อมายังกรมเจ้าท่าแต่อย่างใด และทางกรมเจ้าท่าเองก็ไม่มีกระบวนการที่จะพิจารณาอนุญาตให้เรือลำดังกล่าวเข้ามาจอดเทียบท่าในไทยตั้งแต่แรก” น.ส.ไตรศุลีกล่าว
    รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ได้ระบุว่าจะไม่มีการอนุญาตให้เรือเวสเตอร์ดัมเข้ามาจอดเทียบท่าในไทยอย่างแน่นอน แต่จะดำเนินการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม หากเรือลำดังกล่าวมีการร้องขอเข้ามา เช่น ยา น้ำมันเติมเรือ และอาหาร โดยทางการไทยยืนยันว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้เท่านั้น
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก และเว็บไซต์ cruise industry news ระบุว่า เรือสำราญเวสเตอร์ดัมของสายเรือฮอลแลนด์ อเมริกา ได้รับอนุญาตเข้าเทียบท่ายังแหลมฉบังของไทย หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับการปฏิเสธจาก 3 ประเทศ ทั้งญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน โดยเรือสำราญเวสเตอร์ดัมมีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 2,000 คน ออกเดินเรือจากฮ่องกงเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2563 และจะเข้าเทียบท่าวันที่ 13 ก.พ.ที่แหลมฉบัง จากนั้นแขกผู้โดยบนเรือจะเดินทางต่อเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเดินทางกลับประเทศ
    ทั้งนี้ โฆษกของสายเรือฮอลแลนด์ อเมริกา ยืนยันไม่มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสบนเรือ พร้อมระบุได้รับจดหมายจากสถาบันแห่งชาติดัตช์เพื่อสุขภาพสาธารณะและสิ่งแวดล้อมรับรองความเชื่อมั่นการดูแลทางการแพทย์และการบริการบนเรือสำราญลำนี้ ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ก็ให้การรับรองการเข้าเทียบท่าเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เรือสำราญลำนี้มีกำหนดเทียบท่าที่เมืองโยโกฮามาของญี่ปุ่นในวันที่ 15 ก.พ.นี้ แต่จากปัญหาการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ทำให้ญี่ปุ่นปฏิเสธการเข้าเทียบท่าของเรือสำราญ นอกจากนี้ ไต้หวันและฟิลิปปินส์ก็ปฏิเสธเช่นกัน
    ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวสั้นๆ ระบุว่า "สั่งการแล้ว ไม่อนุญาตให้เทียบท่า"
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเช่นกันว่า ไม่ให้เข้าตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข บอกก่อนหน้านี้
    ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (รมช.คมนาคม) กล่าวว่า ในเรื่องนี้ขอยืนยันทางตัวแทนเรือดังกล่าวได้มีการประสานงานมายังกรมเจ้าท่าเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาจริง เพื่อขออนุญาตที่จะเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้นทางกรมเจ้าท่าและการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยท่าเรือแหลมฉบัง ได้มีการประสานงานและประชุมร่วมกัน รวมถึงได้มีการประสานงานประชุมทางโทรศัพท์กับ รมว.สาธารณสุขและ รมว.คมนาคมเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าจะไม่ให้เรือดังกล่าวเข้ามาเทียบท่าเรือในเขตประเทศไทยอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันได้แจ้งไปยังผู้ประสานงานของเรือดังกล่าวว่าประเทศไทยไม่อนุญาตให้เรือดังกล่าวเข้ามาเทียบท่าแน่นอน
    “ถ้าเราอนุญาตให้เข้ามา ก็จะสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายคน ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจลำบากและละเอียดอ่อน ถ้าเรามองในแง่ของมนุษยธรรม ใจเขาใจเรา ถ้าเป็นเรือของไทย ไปเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ้าง เราก็รู้สึกลำบากใจ แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจ เพื่อรักษาผลประโยชน์ประชาชนและความมั่นคงของประเทศ จึงจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนี้ เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคสามารถดำเนินการได้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเมื่อมีกระแสข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก" นายอธิรัฐกล่าว 
    รมช.คมนาคมกล่าวว่า การเผยแพร่ข่าวดังกล่าวว่าเรือจะเข้ามาเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ก็เกิดจากบริษัทเรือและตัวแทนที่มาประสานงานโพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ออกไป ในขณะที่ทางกรมเจ้าท่าที่มีหน้าที่ในการออกใบอนุญาตไม่ได้มีการอนุญาตและตอบปฏิเสธออกไป
จีนติดเชื้อไวรัสลดลง
     ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ภายในจีน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงเมื่อวันอังคารว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันจันทร์พบเพิ่ม 2,478 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้านั้นที่พบรายใหม่ 3,062 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรวมในจีนทั้งหมดเป็น 42,638 ราย อย่างไรก็ดี จำนวนผู้เสียชีวิตกลับเพิ่มในจำนวนหลักร้อยเป็นครั้งแรก โดยมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 108 คนเมื่อวันจันทร์ เกือบทั้งหมดยกเว้นเพียง 5 ราย เสียชีวิตที่มณฑลหูเป่ย์ ยอดรวมผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มเป็น 1,016 ราย ส่วนอัตราการเสียชีวิตยังค่อนข้างต่ำที่ 2.4%
    ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงที่สุดของหูเป่ย์ 2 ราย ได้แก่ จาง จิน ประธานคณะกรรมการสุขภาพประจำหูเป่ย์ และหลิว อิงซี ผู้อำนวยการคณะกรรมการ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสั่งจำกัดความเคลื่อนไหวของประชาชนในหูเป่ย์เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยห้ามผู้ที่มีไข้ไปโรงพยาบาลนอกพื้นที่และให้ปิดกั้นอาคารที่พักอาศัย
    ประเทศอื่นและดินแดนภายนอกจีนก็รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เช่นกัน ทั้งสหรัฐอเมริกา, เวียดนาม และฮ่องกง แต่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ตามรายงานของรอยเตอร์เมื่อวันอังคารระบุว่า ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพียง 319 รายใน 24 ประเทศและดินแดน แม้การรวบรวมข้อมูลของสื่อต่างประเทศจะระบุว่ามีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 460 รายในเกือบ 30 ประเทศและดินแดน โดยมีผู้เสียชีวิต 2 รายที่ฟิลิปปินส์และฮ่องกง
     ดับเบิลยูเอชโอกำลังจัดประชุมร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ประมาณ 400 คนที่นครเจนีวา เอเอฟพีรายงานว่า ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวเตือนในที่ประชุมเมื่อวันอังคารว่า ผู้ติดเชื้อ 99% พบในจีน การแพร่ระบาดครั้งนี้จึงเป็นภาวะฉุกเฉินมากๆ สำหรับจีน แต่ขณะเดียวกันก็ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงมากต่อประเทศอื่นๆ ในโลก
    มีตัวอย่างกรณีที่น่าวิตกเมื่อพบว่าชายชาวอังกฤษรายหนึ่งกลายเป็น "ยอดนักแพร่เชื้อ" เมื่อเขาคนเดียวแพร่ไวรัสติดคนอื่นอย่างน้อย 11 ราย ทั้งที่เขาไม่เคยเดินทางไปจีน ชาวอังกฤษรายนี้ติดไวรัสจากการเข้าร่วมการประชุมธุรกิจที่สิงคโปร์ แล้วต่อมาเขาแพร่เชื้อติดชาวอังกฤษด้วยกัน 5 คนระหว่างพักผ่อนที่เทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส ก่อนที่ตัวเขาจะกลับอังกฤษและตรวจพบว่าติดเชื้อ ยังมีชาวฝรั่งเศส 5 คน และชาวสเปนจากเกาะมายอร์กาอีก 1 คนติดเชื้อจากเขา
    ทีโดรสกล่าวว่า การตรวจพบผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่รายอาจเป็นประกายไฟที่ลามเป็นไฟไหม้ใหญ่ได้ ประเทศทั้งหลายควรฉวยจังหวัดช่วง "หน้าต่างแห่งโอกาส" ป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างขึ้น
    เมื่อวันอังคาร ทางการฮ่องกงตรงพบว่าผู้พักอาศัยในอาคารสูง 35 ชั้น 2 รายจากคนละอพาร์ตเมนต์ติดเชื้อไวรัสนี้ จึงได้สั่งอพยพผู้พักอาศัยมากกว่า 100 คนออกจากอาคารดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสอบว่าไวรัสนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วตึกหลังนี้ซึ่งมีผู้พักอาศัยราว 3,000 คนหรือไม่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"