จากการสำรวจประชามติหลายครั้งหลายครา ปรากฏว่าชื่อของพลเอกประยุทธ์  จันทรโอชา ขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของบุคคลที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายคนๆเมือเห็นผลงานการวิจัยดังกล่าวแล้วก็เห็นด้วยว่าท่านน่าจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกสัก 2 สมัย เพราะที่ผ่านมานั้นแม้ว่าผลงานทางด้านเศรษฐกิจจะไม่ค่อยถูกใจประชาชนเท่าใดนักตาประชาชนก็ชื่นชมการทำงานของท่านในหลายๆด้าน

•    ประชาชนมองว่าท่านมีความตั้งใจจริงในการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศที่หมักหมม มานาน

•    ประชาชนมองว่าท่านมีความตั้งใจมาวางพื้นฐานของประชาธิปไตย ของประเทศเพื่อให้ประเทศไทยมีความความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

•    ประชาชนมองว่า เมื่อท่านเข้ามาแล้ว ท่านสามารถยับยั้งปัญหาต่าง ๆของประเทศได้หลายเรื่อง ตามที่ประชาชนต้องการอยากเห็น

•    ประชาชนมองว่า ท่านสามารถนำความสงบสุขมาสู่บ้านเมืองได้ ไม่มีการยิงกัน ไม่มีระเบิด ไม่มีการชุมนุมใดๆให้วุ่นวาย

•    ประชาชนมองว่าท่านเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง และท่านก็ทำได้จริงๆ โดยที่จัดการเอาข้าราชการที่รับเงินทอนมาลงโทษ

•    ประชาชนมองว่าคณะรัฐบาลของท่านไม่มีเรื่องราวของการโกงกินที่มีความจริงเชิงประจักษ์ จะมีก็เพียงวาทกรรมการกล่าวหาของฝั่งตรงกันข้าม

•    ประชาชนมองว่าท่านเข้ามาสะสางคดีต่างๆที่คั่งค้าง โดยที่ไม่แทรกแซงการทำงานของศาล ทำให้คดีต่างๆที่คั่งค้างได้รับการสะสางตัดสินถึงที่สุดหลายคดี

•    ประชาชนมองว่าท่านเป็นประชาธิปไตยมากกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะท่านไม่ได้ใช้อำนาจเผด็จการ แม้ว่าท่านสามารถใช้มาตรา 44 ได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ท่านอาจจะติดกับดักปรองดอง เพราะท่านให้เหตุผลในการทำรัฐประหารว่า “ประชาชนทะเลาะกัน” เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจึงให้ความสำคัญกับการปรองดอง ท่านไม่ต้องการให้สองฝ่ายที่ตรงกันข้ามกัน หยุดด่ากัน หยุดว่ากัน แม้สิ่งที่ว่านั้นจะเป็นความจริงก็ตาม ท่านมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อหยุดด่า หยุดว่ากันแล้ว ประชาชนจะปรองดองกันได้ เวลาผ่านไป 4 ปีแล้ว เราไม่เห็นทีท่าว่าประชาชนทั้งสองข้างจะปรองดองกันได้ เพราะฝ่ายหนึ่งต่อสู้เพื่ออำนาจของใครบางคนและผลประโยชน์ของฝ่ายตน ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งต่อสู้เพื่อประเทศชาติ กำจัดคนชั่วไม่ให้มีอำนาจในการบริหารประเทศ เพราะทำงานโดยไม่มีจริยธรรมตามหลักของ        ธรรมาภิบาล เวลาผ่านไปถึง 4 ปีแล้ว ไม่มีวี่แววว่าทั้งสองข้างจะปรองดองกัน เพียงแค่หยุดด่ากันตามความต้องการของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่อยากให้การทำรัฐประหารของท่านเสียของ ท่านคงต้องให้เหตุผลในการทำรัฐประหารเสียใหม่ว่ารัฐบาลที่ท่านออกมากำจัดให้หลุดพ้นจากอำนาจนั้น เป็นรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้บริหารประเทศด้วยหลักธรรมาภิบาล เป็นรัฐบาลที่ฉ้อราษฎร์   บังหลวง เป็นรัฐบาลที่ไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นรัฐบาลที่มุ่งหาผลประโยชน์เพื่อตนและพวกพ้อง สิ่งเหล่านี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์จากการตัดสินของศาลตามที่พวกเราได้ฟังจากการอ่านคำพิพากษา หากท่านไม่ยอมพูดในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ คนที่พอใจพรรครัฐบาลเดิม ก็จะลงคะแนนเลือกตั้งเหมือนเดิม ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในวังวนเดิม ไม่มีทางที่จะแก้ไขได้ การปฏิรูปประเทศที่หลายคนปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้การทำรัฐประหารของท่านเสียของท่านคงจะต้องทำอะไรหลายๆอย่างในช่วงเวลานี้ ไปจนกว่าถึงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธุ์ 2562 

•    ท่านจะต้องหลุดออกมาจากกับดักของการปรองดอง ด้วยการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและนักวิชาการที่รู้ความจริงสามารถพูดถึงปัญหาจริยธรรมและธรรมาภิบาลของรัฐบาลที่ท่านได้กำจัดออกไป เพราะถ้าหากว่าท่านไม่พูดเอง รัฐมนตรีในคณะของท่านไม่พูด และข้าราชการในกระทรวงทบวงกรมที่เสียผลประโยชน์จากการบริหารประเทศอย่างไร้จริยธรรมไม่พูด คนที่เขารักเขาชอบพรรคนั้น ก็ยังจะคงลงคะแนนเสียงเลือกตั้งพรรคนั้นต่อไป แล้วทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม นั่นคือ “เสียของ”

•    ท่านจะต้องชี้ผิดชี้ถูกในเรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของประชาชนสองฝ่าย ไม่มองว่าผิดด้วยกันทั้งคู่ที่ทะเลาะกัน เพราะจริงๆแล้ว ประชาชนไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ประชาชนสองฝ่ายออกมาชุมนุมด้วยเหตุผลที่ต่างกัน คือฝ่ายหนึ่งออกมาเพื่อดำรงรักษาอำนาจของพวกตน แต่อีกฝ่ายหนึ่งออกมาปกป้องประเทศชาติไม่ให้ล่มสลายไปเพราะการบริหารของผู้มีอำนาจที่ไร้จริยธรรม

•    ท่านจะต้องประกาศอย่างชัดเจนว่าท่านพร้อมที่จะบริหารประเทศต่อไป เพราะคราวนี่ท่านจะเข้ามาตามครรลองของประชาธิปไตยที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย เป็นการครองอำนาจต่อไปในช่วงเวลาที่เรากำลังต้องการปฏิรูปประเทศ เพราะประชาชนเชื่อว่าหากท่านเป็นผู้ครองอำนาจบริหารประเทศต่อไป การปฏิรูปประเทศที่ประชาชนต้องการจะเกิดขึ้นได้ แต่หากได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากหัวหน้าพรรคของพรรคที่มีแววว่าจะชนะการเลือกตั้ง การปฏิรูปประเทศที่ประชาชนต้องการอาจจะไม่เกิดขึ้น

จึงใคร่ขอโอกาสนี้วิงวอนท่านนายกรัฐมนตรี โปรดอย่าให้การทำรัฐบาลประหารของท่านเสียของ ด้วยการปล่อยให้ประเทศไทยต้องกลับสู่วังวนทางการเมืองที่ไม่พึงปรารถนา โปรดอย่าปฏิเสธการครองอำนาจในการบริหารบ้านเมืองต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยได้มีการเดินหน้าปฏิรูปต่อไป เพราะบัดนี้มีการนับหนึ่งกันแล้ว หากท่านอยู่ต่อก็จะนับสอง นับสาม นับสี่...ได้ต่อๆไป.