ปรับเพิ่มเรื่อยๆ กระทรวงกลาโหมสหรัฐยอมรับอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บทางสมองระดับ "เล็กน้อย" จากเหตุการณ์อิหร่านยิงมิสไซล์โจมตีฐานทัพในอิรักเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบนาย รวมเป็นมากกว่า 100 นายแล้ว
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 อ้างแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ว่า จนถึงวันนี้ มีทหารอเมริกัน 109 นาย ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการบาดเจ็บทางสมองเล็กน้อย หรือ mTBI ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากรายงานก่อนหน้านี้ 45 นาย
อย่างไรก็ดี ในจำนวนทหารบาดเจ็บ 109 นายนั้น มี 76 นายที่สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้แล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการประเมินอาการและรับการรักษา
กองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธหลายลูกโจมตีฐานทัพ 2 แห่งในอิรักที่ทหารอเมริกันประจำการอยู่เมื่อเช้ามืดวันที่ 8 มกราคม 2563 เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้ส่งโดรนยิงจรวดโจมตีใกล้สนามบินนานาชาติในกรุงแบกแดดของอิรักเมื่อวันที่ 3 มกราคม สังหารนายพลกาเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ของอิหร่านพร้อมกับทหารติดตามหลายนาย รวมถึงแกนนำกองกำลังพันธมิตรอิหร่านในอิรัก
เดิมทีสหรัฐยืนยันว่าไม่มีทหารอเมริกันได้รับบาดเจ็บทางร่างกายทันทีหรือเสียชีวิตจากการโจมตีฐานทัพไอน์อัลอาซัด ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังพยายามผ่อนสถานการณ์ให้ดูเบาลง ท่ามกลางความตึงเครียดว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่านจะบานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ โดยทรัมป์ยืนกรานว่าไม่มีชาวอเมริกันบาดเจ็บ แม้ราว 1 สัปดาห์ต่อมาเจ้าหน้าที่จะรายงานว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บ 11 นาย จากภาวะสมองกระทบกระเทือนและภาวะบาดเจ็บทางสมองแบบอื่นๆ
ทรัมป์ยังคงปฏิเสธรายงานเกี่ยวกับทหารบาดเจ็บว่าเป็นเพียงอาการปวดศีรษะ หรืออาการอื่นๆ ที่ไม่ได้ร้ายแรงมายมายเท่าใด และเมื่อถูกตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของอาการบาดเจ็บทางสมอง (TBI) ทรัมป์ก็กล่าวว่า เขาไม่มองว่าอาการแบบนี้เป็นอาการบาดเจ็บร้ายแรงมากๆ หากเปรียบเทียบกับอาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่เขาเคยเห็นมา
อาการของความบาดเจ็บจากการกระแทกกระเทือนทางสมองนั้น รวมถึงปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, อ่อนไหวต่อแสง และคลื่นไส้
กองทัพสหรัฐเคยเตือนไว้ว่า กองทัพคาดคะเนว่าจำนวนของทหารบาดเจ็บจากการโจมตีของอิหร่านครั้งนั้นจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์หลังเหตุการณ์ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจปรากฏขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจใช้เวลาสักระยะกว่าทหารจะรายงานว่ามีอาการ
แม้เจ้าหน้าที่เพนตากอนจะพากันย้ำแล้วย้ำอีกว่า พวกเขาไม่ได้พยายามถ่วงเวลาการเปิดเผยข้อมูล หรือทำให้เรื่องภาวะบาดเจ็บจากการกระแทกกระเทือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุด แต่การเปิดเผยข้อมูลล่าสุดทำให้เกิดการตั้งคำถามอีกครั้งถึงนโยบายของกองทัพสหรัฐ ว่ากองทัพจัดทำรายงานภายในเรื่องภาวะต้องสงสัยว่ามีอาการบาดเจ็บทางสมองอย่างไร และทหารที่ได้รับบาดเจ็บทางสมองนั้นได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนแบบเปิดเผยเหมือนกับอาการบาดเจ็บเช่นการสูญเสียแขนขาหรือการสูญเสียชีวิต หรือไม่
หลายปีมานี้ กลุ่มแพทย์และสาธารณสุขหลายกลุ่มพยายามเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับความร้ายแรงของภาวะบาดเจ็บทางสมอง ซึ่งรวมถึงการกระแทกกระเทือน ทั้งนี้ข้อมูลของเพนตากอนบ่งชี้ว่า นับแต่ปี 2543 มีทหารอเมริกันราว 408,000 นาย ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการบาดเจ็บทางสมอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |