ตร.ยังหาสาววัย 18 ปีไลฟ์สดโดดลงสะพานพระราม 8 ไม่พบ เร่งประสานกู้ภัย เรือโดยสารช่วยตรวจสอบ "ผกก.บวรมงคล" ระบุวิน จยย.ช่วยถ่ายภาพให้ยังไม่มีความผิด เหตุไม่รู้จะโดดลงน้ำ เจอ "โฆษก ตร." สวนแค่นั่งบนราวสะพาน ดื่มสุรา ก็ต้องห้ามปรามแล้ว ระบุเข้าข่ายผิดมาตรา 374  "ยาย" เศร้าหลานเพิ่งโทร.อวยพรปีใหม่ก่อนหน้าเกิดเหตุ
    ความคืบหน้าคดี น.ส.นิตยา สวัสดิวรรณะ อายุ 18 ปี เผยแพร่ภาพสดผ่านทางเพจเฟซบุ๊กไลฟ์ของตนเอง โดยให้ชายหนุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นคนช่วยถ่ายไลฟ์สดให้ขณะกระโจนสะพานพระราม 8 จมหายลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างไร้ร่องรอย ช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
    เมื่อวันที่ 3 ม.ค. พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บวรมงคล กล่าวว่า ขณะนี้ก็ยังไม่เจอตัว น.ส.นิตยา จึงยังไม่สามารถจะรับรองได้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย เรือโดยสาร ให้ช่วยตรวจสอบ หากพบให้แจ้งตำรวจทันที
    "ในส่วนนายภัทรดนัย คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่เป็นคนไลฟ์สดเหตุการณ์ขณะ น.ส.นิตยากระโดดสะพาน พนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้ว เบื้องต้นนายภัทรดนัยระบุไม่ทราบว่า น.ส.นิตยาจะกระโดดลงไปในน้ำ จึงไม่ได้ห้าม และจากการสอบสวนยังไม่พบว่านายภัทรดนัยมีความผิด จึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ" พ.ต.อ.วิรดลกล่าว
    ผกก.สน.บวรมงคลกล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังได้สอบปากคำญาติของ น.ส.นิตยาที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งระบุว่าไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน และไม่ทราบว่า น.ส.นิตยาทำอาชีพอะไร เพราะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ทราบ ส่วนแฟนหนุ่มของ น.ส.นิตยายังไม่สามารถติดต่อได้
    ถามถึงกรณีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กระบุกรณีคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไลฟ์สดเฟซบุ๊กหญิงสาวกระโดดสะพาน แต่ไม่ห้ามอาจมีความผิดทางอาญา มีโทษถึงจำคุก ผกก.สน.บวรมงคลกล่าวว่า  ต้องตรวจสอบเจตนาของผู้ถ่ายภาพว่าทราบหรือไม่หญิงสาวจะฆ่าตัวตาย ส่วนความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องตรวจสอบการนำภาพไปเผยแพร่ต่อว่าจะมีความผิดหรือไม่
    ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีคนที่ไลฟ์สดหรือคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิตซึ่งตนอาจช่วยได้ แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
    "ที่คนขี่จักรยานยนต์รับจ้างอ้างไม่ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวจะโดดสะพานนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ได้  ตามหลักวิญญูชนแล้ว แค่เห็นคนขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน ดื่มสุราจนเมา มีท่าทางเศร้าโศก ยืนหันหน้าไปทางฝั่งแม่น้ำทำท่าจะกระโดด ก็ต้องห้ามปราม หยุดยั้ง แค่ลักษณะขึ้นไปบนคอสะพานก็รู้แล้วว่าเป็นอันตราย มีความเสี่ยง เพราะคนทั่วไปคงไม่ไปถ่ายรูปเล่นในลักษณะนั้น" พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว
    โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ขอฝากไปถึงประชาชนทั่วไป ถ้าเห็นคนกำลังฆ่าตัวตาย หรือกำลังได้รับอันตราย แต่ไม่ช่วย ก็จะมีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ถ้าหากเป็นกรณีอุบัติตามท้องถนน หากมีคนเห็นแล้วพอช่วยเหลือได้ แต่ไม่ช่วย ก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 374 ด้วย โดยมาตรานี้มุ่งหวังให้คนได้รับความช่วยเหลือ
    วันเดียวกัน ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เสนอข่าวการสัมภาษณ์นายภัทรดนัย อายุ 25 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างว่า ไปรับวัยรุ่นสาวตอนเวลาประมาณ 23.00 น. ตอนที่เจอเห็นอีกฝ่ายถือขวดสุราอยู่ในมือ แต่ไม่เหมือนคนเมา เพราะมีสติ พูดจาโต้ตอบรู้เรื่อง และยังคอยบอกทางมาตลอดทาง แต่ระหว่างทางได้ยินเจ้าตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดเรื่องแฟน พูดว่าทำไมต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้
    "จนกระทั่งมาถึงที่หมาย ใต้สะพานพระราม 8 หญิงสาวให้เงินเพิ่ม 500 บาท ขอให้ผมนั่งอยู่เป็นเพื่อนก่อน โดยหญิงสาวไปนั่งเอาเท้าแช่น้ำอยู่ใต้สะพาน ร้องไห้ และเปิดเพลงแพ้แล้วพาลจากโทรศัพท์อยู่เพลงเดียว วนไปวนมาอยู่ประมาณ 30-40 นาที ตอนนั้นผมถามอีกฝ่ายว่าคิดจะกระโดดน้ำหรือ ไม่เอานะ หญิงสาวก็ตอบว่า หนูว่ายน้ำไม่เป็น ไม่กระโดดหรอก” นายภัทรดนัยเล่า
    วินจักรยานยนต์รับจ้างรายนี้ระบุว่า กระทั่งหญิงสาวหยุดร้องไห้ เหมือนหายเศร้าแล้ว ก็หันมาบอกว่า ให้ช่วยขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานให้หน่อย จึงพากันเดินขึ้นไปจนถึงกลางสะพาน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดไลฟ์สดในเฟซบุ๊กยื่นมาให้ช่วยถ่ายให้ แล้วก็ขอให้ช่วยถ่ายภาพนิ่งให้ด้วย จึงเอาอีกมือที่ว่างอยู่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปให้ อีกมือก็ถือโทรศัพท์ของหญิงสาวถ่ายไลฟ์ไป เป็นเวลาประมาณ 4-5 นาที จู่ๆ หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงไปโดยที่ตนไม่ทันตั้งตัว
    "หลังเกิดเหตุผมก็รีบโทร.แจ้งตำรวจ แล้ววิ่งลงจากสะพาน มาเจอคนในที่เกิดเหตุอีกสองคน จึงให้ช่วยกันตามหาหญิงสาว แต่ก็ไม่พบ ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุก็ยังเสียใจ ถ้าตอนนั้นผมเข้าไปห้ามตั้งแต่แรก ไม่มัวถ่ายคลิปตามที่อีกฝ่ายขอ ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้" วินจักรยานยนต์รับจ้างรายนี้ระบุ
    ที่ จ.ระนอง นางกาญจณา อายุ 73 ปี คุณยายของ น.ส.นิตยา หรือน้องเคลียร์ กล่าวว่า ปกติหลานเป็นคนร่าเริง อยู่ที่บ้านไม่เคยมีปัญหาอะไร ที่บ้านเลี้ยงดูอย่างดี ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่หลานน่าสงสาร เพราะไม่มีพ่อแม่ เนื่องจากเสียชีวิตไปหมดแล้ว หลังจากหลานเรียนจบ ม.3 ตามประสาวัยรุ่นที่อยากจะใช้ชีวิตส่วนตัว จึงเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อทำงาน
    คุณยายของ น.ส.นิตยาเล่าว่า พ่อแม่เขาเสียไปหมดแล้ว ลูกยายอีกคนเป็นน้าชายเขาก็ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ ส่งเสียให้เรียนทุกอย่าง ไม่ว่าอยากเรียนอะไร ยายเลี้ยงเขาไม่เคยให้ลำบาก ที่บ้านไม่เคยให้ไปไหนเอง ลุงจะไปรับ-ส่งที่โรงเรียนตลอด แต่พอจบ ม.3 เขาก็หนีไปกรุงเทพฯ บอกอยากไปใช้ชีวิตของตัวเอง เพราะยายแก่แล้ว ถ้ายายยังมีชีวิตอยู่ก็เลี้ยงเขาได้ แต่ถ้าไม่มียายแล้ว ถ้าเขาไม่ไปแบบนี้ เขาก็เลี้ยงตัวเองไม่ได้
    "เมื่อวันที่ 1 ช่วงเย็นๆ หลานโทร.มาอวยพรปีใหม่ แต่น้ำเสียงเหมือนกำลังร้องไห้ ยายจึงถามไปว่าเป็นอะไร แล้วสายก็ตัดไปเลย ติดต่อไม่ได้ มารู้ข่าวตอนเช้าที่ลูกโทร.มาบอก" คุณยายของ น.ส.นิตยาระบุ.