24 มี.ค.61- นางสาวนิภาพร รุจนรงค์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ ด้านการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, รองอธิบดีอัยการภาค 7, รองอธิบดีอัยการ สํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน, ผู้อํานวยการ สํานักงานกิจการและโครงการในพระดําริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, อัยการพิเศษฝ่าย, อัยการจังหวัด ผู้แทนจากส่วนราชการ สถานประกอการภาคอุตสาหกรรม เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมเซ็นทรัลเพลส ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัด สมุทรสาคร
โดยปัจจุบันมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นจํานวนมาก ภาครัฐและเอกชนจึงควรต้องตระหนักถึงความสําคัญของการคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทํางานในประเทศไทย ซึ่งหากเป็นการเดินทางเข้ามาทํางานโดยผิดกฎหมายก็อาจ ก่อให้เกิดปัญหาแก่ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งนับวันได้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลําดับ เพราะการกระทําดังกล่าวนอกจากจะถือได้ว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสวัสดิภาพของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็กและสตรีแล้ว ยังพบว่าขบวนการการค้ามนุษย์มีความเชื่อมโยงกับ การประกอบอาชญากรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะถูกใช้เป็นช่องทางในการหารายได้ ให้แก่กลุ่มก่อการร้ายและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งสหประชาชาติได้ให้ความสนใจ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานต่างด้าวของไทยเป็นอย่างมาก ประกอบกับจากรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ประเทศไทยได้รับการจัด อันดับให้อยู่ในกลุ่มที่ ๒ บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2) รัฐบาลจึงให้ความสําคัญ กับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง
ทางด้านสํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ สํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้นเพื่อจะได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงานต่างด้าว กฎหมายคนเข้าเมืองและกฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ รวมถึงการน้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นแนวพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สู่หลักนิติธรรม ซึ่งสํานักงานว่าด้วยยาเสพติด และอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายตําแหน่งทูตสันถวไมตรี ด้านหลักนิติธรรม สําหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อนํามาใช้เป็นหลักในการดํารงชีวิตและในการประกอบกิจการ
ภายในงานมีการจัดวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ ด้านในกฎหมายดังกล่าวจากผู้อํานวยการ สํานักพัฒนามาตรฐานแรงงาน กรมสวัสดิการและ คุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ผู้กํากับการ กลุ่มงานความมั่นคง กองแผนงานกิจการพิเศษ สํานักงานยุทธศาสตร์ตํารวจ ผู้อํานวยการ สํานักงานกิจการและโครงการในพระดําริพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สํานักงานอัยการสูงสุด และอัยการผู้เชี่ยวชาญ สํานักงาน อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย สํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย แก่ประชาชน สํานักงานอัยการสูงสุด ที่มาให้ความรู้ด้านต่างๆ ผู้เข้าร่วมโครงการได้นําไปใช้ในการปฏิบัติงานและการประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และในขณะเดียวกันก็เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่จะได้รับรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดเอาเปรียบ หรือล่วงละเมิดได้ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศที่สําคัญ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |