พอเถอะครับ...ท่าน ส.ส.
ช่วงเวลานี้
ประชาชนในชาติ เจ็บปวด บอบช้ำ อยู่ในห้วงทุกข์ จากเหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกที่โหมกระแทก เกินพอแล้ว
ยิ่งมาเจอสถานการณ์.......
"จ่าคลั่ง" กราดยิง ๓๐ ศพ ที่โคราช เมื่อ ๘ ก.พ.เข้าอีก
ใจที่อ่อนล้า....
มันริกๆ จะขาดรอนๆ!
ฉะนั้น ได้โปรดเถอะ ท่านผู้ทรงเกียรติ อยากเป็น ส.ส.ก็ได้เป็นกันแล้ว อยากมีสภา ก็มีให้แล้ว
ในเมื่อ ใช้สิ่ง "ที่เป็น-ที่มี" ให้เป็นที่พิงหลัง ที่พักใจชาวบ้านยามนี้ไม่ได้
อยู่เฉยๆ
จะเป็นประโยชน์กว่าฉกฉวย "โศกชาติ-ทุกข์ประชาชน"
ไปตั้งกระทู้-ญัตติ ด่านายกฯ กระแทกกองทัพ และคนทำงาน
เลวระดับ "จ่าคลั่ง"
แค่ใช้ "ปืน" ก่ออาชญากรรม ฆ่าคน
แต่เลวระดับ "ส.ส.งั่ง"
ใช้ "สภา" ก่ออาชญากรรม ฆ่าประเทศ!
ดังนั้น ส.ส.อย่าทำให้เกิดคำถามในหมู่ประชาชน "สภามีไว้ถ่วงชาติหรืออย่างไรกัน"?
การตั้งกระทู้-ตั้งญัตติ ไม่ผิด
แต่การฉกฉวย "อุบัติเหตุทางสังคม" แทนที่จะช่วยกันแก้หรือประคับ-ประคองสถานการณ์
กลับใช้ไปเป็นเครื่องมือ มุ่งหวังทางโค่นล้มกันทางการเมือง อย่างที่ทำกันขณะนี้
นอกจากไม่เป็นคุณ และไม่เป็นการช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว
ด้วยโมหะ-อคติ ของ ส.ส.บางพวก-บางกลุ่ม นั้น กลายเป็นตัว "เพิ่มทุกข์ในทุกข์-เพิ่มปัญหาในปัญหา"
ทำให้ประชาชนต้อง "ว้าวุ่น-รำคาญ" หนักขึ้น นำไปสู่ทัศนคติ "เบื่อ-เกลียด-รังเกียจ"
ว่าประชาธิปไตยเลือกตั้ง เป็นแหล่งกำเนิด "เชื้อชั่ว"
"ชังชาติ" ขยายตัว ก็จากแหล่งเพาะนี้!
เหตุการณ์ ๘ กุมภา ที่ห้างเทอร์มินอล ๒๑ กลางเมืองโคราช นั้น ในขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน เป็นหนอน, ปลวกแทะซาก
ถ้าเราถอยห่างจากจุดสร้างทุกข์นั้น
แล้วมองกลับเข้าไป ด้วยดวงตาห่วงหา, โอบเอื้อและแสวงหาคุณค่าต่อกัน
เราจะเห็น.........
ปรากฏการณ์มหัศจรรย์จากพี่น้องชาวโคราชและชาวอีสานจังหวัดใกล้-ไกล
ในขณะที่คนทั้งประเทศหวาดผวาตกใจ และวิจารณ์กันไปหน้าจอ
จากบ่ายวันที่ ๘ กุมภา ข้ามคืนไปจนรุ่งเกือบเที่ยงของวันที่ ๙ กุมภา
คิดดูซิว่า "งานใหญ่ที่ไร้เจ้าภาพ" ข้ามวัน-ข้ามคืนอย่างนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งคนอื่นๆ รวมแล้วเป็นร้อย-เป็นพัน รวมกันอยู่ที่นั้น
จะเอาอาหารที่ไหนกิน จะเอาน้ำที่ไหนดื่ม แค่ห้องน้ำอาศัยถ่ายหนัก-เบา จะเอาที่ไหน?
ความจริงที่ประจักษ์ คือ...........
ด้วยใจ "คนโคราช" กันเองแท้ๆ ต่างคน-ต่างมา ใครมีน้ำ เอาน้ำมาแจก ใครมีอาหาร นำอาหารมาแจก
ใครมีขนม เอาขนมมาแจก ใครมีกาแฟ เอากาแฟมาแจก ใครมีบ้าน เปิดบ้านให้ มอเตอร์ไซค์แกร็บ รับ-ส่งฟรี
เลือดขาด.........
ประกาศเปรี้ยง ทั้งพี่น้องโคราช ทั้งพี่น้องอีสาน ไม่รู้จังหวัดไหน-ต่อไหน
ไม่พูดจา ไม่ต่อรอง ไม่ร้องขอ ไม่ตีโพย-ตีพาย ดุด่าว่ากล่าวโทษใคร
ต่างมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล ทั้งใจ-ทั้งเลือด ให้หมด!
พี่น้องโคราช-อีสาน ทุกคน ทำหน้าที่เจ้าภาพ โดยไม่ต้องมีใครเกณฑ์ มีใครนัดหมาย หรือเรียกร้อง
ทุกคน ทำ.......
ทำโดยไม่ปริปาก ไม่เรียกร้อง ไม่ต้องการเอาหน้าออกสื่อ ซ่อนเจ็บปวดจากวิบัติ-สูญเสียของบ้านเกิดไว้ส่วนลึกที่สุดของใจ
จิตสาธารณะ จิตบริการ จิตเสียสละเพื่อส่วนรวมเต็มเปี่ยม
"บ่น-ก่นโทษ-ก่นตำหนิ" ในสถานการณ์ที่เกิด
แม้คำเดียว..........
ก็ไม่มีใครได้ยินจากปากพี่น้องโคราชและอีสานใกล้เคียง!
เมื่อร้างรา ทิ้งไว้แต่เลือดกรัง จากร่างเหยื่อกระสุนจ่าโฉด พี่น้องโคราช ด้วยน้ำตาซึม-ใจเศร้า ช่วยกันทำความสะอาดโคราชบ้านของเรา
ตกเย็นค่ำ........
พี่น้องโคราช เรือนพัน-เรือนหมื่น ด้วยทุกข์หม่น แต่ละคนดุ่มเดินมารวมลานหน้าแม่ย่าโม
ขอคุณพระชัย ขอแม่ย่าโม เมตตา-รักษา-คุ้มครอง
ด้วยบริสุทธิ์แห่งใจ
อธิษฐานให้พี่น้องทั้ง ๓๐ ชีวิตที่ปลิดปลิว ขอพระชัยและแม่ย่า นำพาสู่สุคติภูมิด้วยเถิด
สูญเสียของพี่น้องโคราชครั้งนี้ สิ่งได้กลับคืนยิ่งใหญ่ คือใจผลึกผนึกเพชร ของคนโคราช-คนอีสาน จากสถานการณ์ขับเน้นให้เห็น
การรับสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยใจสงบนิ่ง ไม่ด่า ไม่ว่า ไม่โทษ ไม่ตีโพย-ตีพาย
การใช้สูญเสีย เป็นสิ่งผนึกใจ จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์
"โคราช-อีสาน" อารยชนสถาน ผู้มีใจฝึกแล้วประเสริฐ!
แม้ถึงนาทีนี้.........
ในขณะที่ ส.ส.อันเป็นคนนอก ฉกฉวยทุกข์โคราชไปสร้างปัญหาทับถมสถานการณ์ประเทศ
แต่เจ้าภาพเมือง "คนโคราช" เองแท้ๆ กลับก้มหน้า-ก้มตาแก้ปัญหาเมือง แยกแยะได้ กาลนี้ อะไรควร-ไม่ควร แค่ไหน
"ร่างไร้วิญญาณ" จำเป็นเร่งด่วน ต้องช่วยกันคนละไม้-ละมือในแต่ละภาระ
งานสาธารณะเมือง รูปธรรมเพื่อสังคมรวม ก็ออกมาวางช่อดอกไม้ มาเขียนคำอาลัยถึงผู้จากไป
ต่างๆ เหล่านี้ "เป็นภาพ-เป็นมิติสังคมใหม่"
คนโคราชทำให้เห็น "สังคมพัฒนาแล้ว" ว่าคุณภาพคนเป็นเช่นไร เห็นได้ยามวิกฤติภัย มาทดสอบใจและทัศนคติคน!
"ธนาคารออมสิน"
ขอเอ่ยด้วยชื่นชม ออกมานำ ทำหน้าที่ "สถาบันการเงินของรัฐ" ทันการณ์
"ตำรวจ-ทหาร" ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติหน้าที่และเป็นลูกค้า ธนาคารออมสิน "ยกหนี้ให้ทั้งหมด"
มอบเงิน ๑ แสนบาท ให้ครอบครัวอีกตะหาก
ประชาชนที่เป็นลูกค้า "เสียชีวิต" ลดดอกเบี้ยให้ เหลือร้อยละ ๐.๐๑ ตลอดสัญญา
"ตำรวจ-ทหาร-ประชาชน" ที่เป็นลูกค้า
"บาดเจ็บ" ลดดอกเบี้ยให้ เหลือร้อยละ ๐.๐๑ ต่อปี คงที่เป็นเวลา ๕ ปี
ขอชมวิสัยทัศน์ "ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย" ผอ.ออมสิน ตั้งแต่ท่านนี้เข้ามาบริหาร
"ออมสิน" มูลค่าในตัวเพิ่มพูนสู่ยุคใหม่ เป็นหนุ่มเปรี้ยว-สาวเปรียว จับต้องได้ ถือว่าดีมาก
แต่ดูเหมือนครบวาระบริหารในเดือนมิถุนานี้ ก็น่าเสียดาย ตอนนี้ อยู่ในช่วงสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่
อ่านตามข่าวพบ "นายฉัตรชัย ศิริไล" ผอ.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มาสมัครด้วย
ผมค่อนข้างสะดุด......
ท่านเพิ่งเติบโตขึ้นมาบริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์กระโดดมาสมัครเป็น ผอ.ออมสิน
สงสัย ด้วยเหตุใด จะทิ้งอาคารสงเคราะห์เช่นนี้ หรือมีคนส่งประกวด?
"นายวิทัย รัตนากร" เลขาฯ กบข.ปัจจุบัน เป็นอีกคนที่สมัคร
คนนี้ ดูจากประสบการณ์และผลงานผ่านๆ มาแล้ว ผมว่า "เหมาะสม-ลงตัว" จะเป็น "ผู้อำนวยการออมสิน" ที่สุด
เพราะอะไรน่ะหรือ?
คุยวันหลัง เพราะวันนี้ ต้องเคารพบรรยากาศ "พี่น้องโคราช" เขาก่อน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |