10 ก.พ. 63 – นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่โคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 คน และบาดเจ็บ 58 คน สร้างความสะเทือนขวัญและหดหู่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐทุกท่านที่ทุ่มเททำงานจนผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับความชื่นชมอย่างมากในเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้อยากให้กองทัพได้ศึกษาบทเรียนและหาทางป้องกันและควบคุมการเข้าถึงและการใช้อาวุธร้ายแรง เพราะประชาชนจำนวนมากไม่เข้าใจว่าทำไมทหารผู้ก่อเหตุถึงได้มีอาวุธมากมายขนาดนี้ และจะป้องกันได้อย่างไรที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
     
จากการศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศพบว่า การเกิดเหตุการณ์กราดยิงจนทำให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในลักษณะนี้ มีโอกาสสูงที่จะเกิดการลอกเลียนแบบได้ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ แม้กระทั่งการกราดยิงในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย ในที่ทำงาน และในห้างสรรพสินค้า ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังเกิดขึ้นกันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งสร้างมาตราป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก รวมถึงการดูแลสภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา โดยเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้คนปกติสามารถกระทำการอันอุกอาจขนาดนี้ได้ ต้องเกิดมาจากความเครียดอย่างรุนแรง ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องหาทางแก้ไขไม่ให้ประชาชนเครียดกันมาก โดยเฉพาะความเครียดรุนแรงทางเศรษฐกิจ เพราะปีนี้เศรษฐกิจจะเลวร้ายยิ่งกว่าปีที่แล้ว และประชาชนจะยิ่งเครียดกันอย่างมาก
      
ประชาชนจำนวนมาก ไม่พอใจกับการแสดงออกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เดินทางไปแถลงข่าวที่โคราช จากพฤติกรรมคล้ายการหาเสียงมากกว่าจะไปแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมในภาวะการณ์ที่เศร้าสลดเช่นนี้ โดยอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ศึกษาว่าผู้นำประเทศที่มีชื่อเสียงจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาแสดงอากัปกิริยาสำรวมอย่างไรในภาวะเช่นนี้ ผลการกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้แฮชแท็กที่ขึ้นอันดับหนึ่งคือ #ผนงรจตกม เหมือนป้ายที่นักศึกษาถือในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึง ประชาชนส่วนใหญ่ผิดหวังในภาวะผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์อย่างมาก และในหลายวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เคยแสดงภาวะผู้นำให้เป็นที่ประจักษ์เลย ประชาชนจึงไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์ต่างๆไปได้โดยเฉพาะวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังถาถมเข้ามา และจะยิ่งทำให้ประชาชนลำบากกันมากขึ้น.