(ล้างจมูกอย่างถูกวิธี ลดปัญหาฝุ่นละอองอุดตันในช่องจมูก ช่วยทำให้หายใจได้สะดวก ในช่วงที่บ้านเราต้องประสบปัญหาฝุ่นควันพิษ และฝุ่นละอองจำ�นวนมากในอากาศ)
อันตรายและสามารถแพร่กระจาย กระทบต่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว สำหรับ 2 ปัจจัยกระทบสุขภาพของผู้สูงอายุที่ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนวัยอื่นๆ ทั้งปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ปอดเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในบ้านที่ปัจจุบัน ปัญหาฝุ่นควันพิษเป็นๆ หายๆ แต่ก็ไม่จางหายไปเสียทีเดียว ขณะที่เรื่องของการได้รับเชื้อไวรัสโคโรนานั้นมีการคัดกรองและเฝ้าติดตาม ตลอดจนรักษาอาการของผู้ป่วย กระทั่งหลายรายรักษาหายจากโรคและกลับบ้านได้ แต่ทั้งนี้การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา เพราะปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยาว งานนี้ “พญ.ศรันยา สาครินทร์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ปราศจากทั้ง 2 โรคในผู้สูงวัยไว้น่าสนใจ
(พญ.ศรันยา สาครินทร์)
พญ.ศรันยา สาครินทร์ บอกว่า “ผู้สูงอายุในบ้านเราตอนนี้ได้รับทั้งฝุ่นควันพิษและเชื้อไวรัสโคโรนา ดังนั้นการดูแลสุขภาพที่สำคัญต้องเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันเป็นหลัก โดยการเอาของเสียออก อันดับแรกนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เน้น “การบริโภควิตามินซี” เป็นสำคัญ อย่างเช่น ผักผลไม้รสเปรี้ยววันละ 1 กิโลกรัม หรือกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม โดยกินในตอนเช้า หรือหากอยู่ในแหล่งที่มีมลพิษเยอะมากก็ให้กินวิตามินซี เช้าและเย็นครั้งละ 1 เม็ด แต่เวลาที่เรากินวิตามินซีนั้น ผู้สูงอายุจะต้องดื่มน้ำให้เยอะมากๆ เพราะเวลาที่วิตามินซีไปจับอนุมูลอิสระในร่างกาย ก็จะไปตกตะกอนอยู่ที่ไต ดังนั้นต้องกินน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย และป้องกันโรคนิ่วในไตไปด้วย ในกรณีที่เราจำเป็นต้องกินวิตามินซีเพื่อต่อสู้กับมลพิษฝุ่นพิษจิ๋วดังกล่าว อีกอันหนึ่งคือ การที่ร่างกายจะต้องขับโลหะหนักในฝุ่น PM 2.5 คือการเอาสารคลอโรฟิลล์เข้าสู่ร่างกาย เช่น “การกินผักใบเขียวเข้ม” ที่มีฤทธิ์จับโลหะหนักออกอยู่แล้ว ดังนั้นหมอแนะนำให้ผู้สูงอายุกินผักบุ้ง บร็อกโคลี สาหร่ายสีเขียวได้หมด
(ผู้สูงอายุกินผลไม้วิตามินซีสูงและผักใบเขียวช่วยขจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย วิธีรับมือฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วยตนเอง)
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ การที่ผู้สูงอายุมักจะได้รับฝุ่นละอองมากเช่นกันในช่วงนี้ ดังนั้นวิธีแยกฝุ่นละอองออกจากร่างกาย คือการใช้วิธีล้างจมูก เนื่องจากโมเลกุลของฝุ่นจะมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ หมอแนะนำให้เอาน้ำเกลือล้างแผล 0.9 นอร์มอลซาไลน์เปอร์เซ็นต์ โดยการกลั้นหายใจ และเอียงจมูก 1 ข้าง จากนั้นค่อยๆ ฉีดน้ำเกลือเข้าจมูก เพื่อล้างขนจมูกและนำเอาสิ่งสกปรกให้ไหลออกอีกด้านหนึ่งของจมูก หลังจากนั้นก็ให้ล้างอีกด้านหนึ่ง พอไม่มีฝุ่นละอองแปะอยู่ที่จมูก น้ำมูกของผู้สูงอายุก็จะน้อยลง เพราะเวลาที่ได้รับฝุ่นละอองนั้น ขนจมูกจะเป็นตัวที่ช่วยกรองฝุ่น และเมื่อฝุ่นเป็นสิ่งแปลกปลอมก็ทำให้หายใจไม่สะดวก และภายในจมูกก็จะสร้างเมือก ทำให้มีน้ำมูก ซึ่งการสร้างน้ำมูกเกิดจากการที่เซลล์เนื้อเยื่อจมูกเกิดอาการบวมพองจากฝุ่น ถ้าเราล้างจมูก จมูกก็จะไม่ตัน ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง ดังนั้นควรล้างเช้า-เย็นทุกวัน ล้างวันนิด ฉีดน้ำเกลือช้าๆ เพื่อป้องกันการสำลัก โดยทำความสะอาดจมูกทีละข้าง
(ผู้สูงอายุควรสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องอยู่ในที่ชุมชน ที่สำคัญควรหมั่นล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา ที่แพร่กระจายด้วยการสัมผัสและการหายใจรดกัน)
ส่วนการป้องกันไวรัสโคโรนาที่สำคัญซึ่งสามารถแพร่กระจายด้วยการหายใจรด การสัมผัสเชื้อโรคที่เกาะอยู่ในที่สาธารณะต่างๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญมากที่สุดคือการใส่หน้ากากอนามัย และไม่ไปที่ชุมชนเยอะๆ เพราะผู้สูงวัยภูมิคุ้มกันตก และเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ค่อนข้างง่าย ดังนั้นควรกินวิตามินซีสู้ไปก่อนเพื่อป้องกันโรค หรือจะเลือกวิธีการกินร้อนและใช้ช้อนกลางร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |