คลั่งยิงตายเกลื่อน 'จ่าสิบเอก'โหด!ไล่ฆ่าจับตัวประกันกลางห้างเมืองโคราช


เพิ่มเพื่อน    

     จ่าสิบเอกคลั่งยิงผู้บังคับบัญชาพร้อมคนใกล้ชิด 3 ศพ แล้วบุกคลังกระสุน ขนอาวุธสงคราม ขับฮัมวีกราดยิงประชาชนวัดป่าศรัทธารามอีก 9 ศพ ก่อนเข้าเมืองยิงไม่เลือกหน้าบริเวณศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราชอีกจำนวนหนึ่ง แล้วหลบหนีเข้าไปในห้างที่มีประชาชนอยู่หลายพันคน
    เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านถนนหัก หมู่ 3 ตำบลหนองกระทุ่ม อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตถูกยิงจำนวน 3 ราย เป็นชายและหญิง อายุประมาณ 30 ปี จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี นายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ได้ขับรถยนต์หลบหนีเข้าไปในค่ายสุรธรรมพิทักษ์  
    สำหรับผู้เสียชีวิตคือ พ.อ.อนันตโรจน์ กระแสร์ นายทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ พร้อมด้วยหญิงอายุ 63 ปี และพลทหาร รวม 3 คน  
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองฯ ได้ประสานทางวิทยุสื่อสารให้สารวัตรทหารช่วยสกัดจับผู้ก่อเหตุซึ่งเข้าไปโจรกรรมอาวุธปืนในคลังกระสุน พร้อมใช้อาวุธปืนยิงพลทหารที่เข้าเวรรักษาการณ์ คนร้ายได้นำอาวุธปืนสงครามทั้งเอสเคและปืนกลพร้อมเครื่องกระสุนขึ้นรถฮัมวี ทะเบียนกงจักร 2563 ขับหลบหนีไปทางตำบลโพธิ์กลาง อ.เมืองฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับค่ายทหาร เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับคนร้ายซึ่งใช้เส้นทางหลบหนีไปทางโรงเรียนบุญวัฒนา ต.หัวทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองนครราชสีมา
    เจ้าหน้าที่สายตรวจได้ขับรถสกัดจับคนร้ายและเกิดการยิงต่อสู้ คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามที่มีอานุภาพรุนแรงกว่า เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายได้ขับรถหลบหนีเข้าไปในวัดป่าศรัทธาราม พบประชาชนที่กำลังสัญจรไปมา ได้ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า พระเณร แม่ชี ต่างพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่วิถีกระสุนถูกประชาชนเสียชีวิตคาที่รวม 9 ราย 
    จากนั้นคนร้ายวิ่งขึ้นรถขับหลบหนีเข้าไปในเมือง มุ่งหน้าไปศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อไปถึงลานจอดรถยนต์ชั้นที่สอง ได้กราดยิงประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมกับยิงถังแก๊สจนไฟลุกท่วม ขณะที่มีประชาชนติดค้างอยู่ในห้างจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมพร้อมอพยพประชาชนออกมาด้านนอกให้ได้มากที่สุด 
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุกราดยิงในพื้นที่บริเวณวัดป่าศรัทธาราม ใกล้ รร.บุญวัฒนา และบริเวณห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ว่าได้รับรายงานเบื้องต้นว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ได้ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย พร้อมทั้งใช้รถยนต์ฮัมวีสีเขียว (ทหาร) ในการก่อเหตุหลบหนี
    พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุเพียงสั้นๆ ว่า กำลังรวบรวมรายละเอียดเพื่อให้รายละเอียดในกรณีดังกล่าวต่อไป
    พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า ได้นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม จำนวน 12 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมาด้วยตนเอง เพื่อร่วมไล่ตามจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าจะมีอาวุธปืนพกและอาวุธสงครามพร้อมกระสุนจำนวนมาก โดยขณะนี้กำลังนำกำลังไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่กองบินตำรวจถนนรามอินทรา
    ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบสถานการณ์ พร้อมได้สั่งการให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บังคับบัญชากองทัพบก ติดตามสถานการณ์ สอบสวนหาสาเหตุ และดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด พร้อมกำชับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่สะดวกอย่างดีที่สุด
    นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นอาวุธที่คนร้ายนำมาก่อเหตุนั้น นำมาจากการแย่งชิงและทำร้ายเจ้าหน้าที่คลังเก็บอาวุธ ทั้งนี้ รายละเอียดอื่นๆ ขอให้รอผลการพิสูจน์ทราบอีกครั้ง
    "นายกรัฐมนตรีขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทุกราย และจะเร่งหาสาเหตุอาการคลุ้มคลั่งที่มาของการก่อเหตุครั้งนี้ รวมทั้งการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว" ศาสตราจารย์นฤมลกล่าว 
    จ.ส.อ.จักรพันธ์ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า jakrapanth thomma ได้โพสต์ข้อความต่อเนื่องขณะก่อเหตุ โดยในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. ได้โพสต์ข้อความ "พวกมึงอยากลองของใช่มั้ย" จากนั้นโพสต์ภาพปืน คู่กับพระเครื่องพร้อมข้อความ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงช่วยให้วันนี้ผ่านไปได้อีกวัน"
    ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 8 ก.พ. ซึ่งเป็นวันก่อเหตุ ได้โพสต์ข้อความว่า "ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบคนอื่น มันคิดว่ามันจะเอาเงินไปใช้ในนรกได้รึไง" ก่อนที่จะเกิดเหตุยิง 2 ศพแรก จากนั้นเวลา 17.00 น. โพสต์ว่า "ยังไงก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน"
     เวลา 19.00 น. หลังจากยิงประชาชนบริเวณห้างเทอร์มินอล 21 เสียชีวิตไปหลายรายแล้ว ได้อัพเดตข้อความติดๆ กัน ทั้ง "ซวยละ เป็นตะคริว", "ยอมแพ้ดีมั้ยนะ", "นี่ก็หยุดแล้วนะ" และ  "มันตายมั้ยไอ้ 3 คนนั่น" ซึ่งข้อความทั้งหมดนี้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นด้วยความไม่พอใจเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ให้เจ้าหน้าที่วิสามัญฯ จ.ส.อ.จักรพันธ์ 
     โดยส่วนหนึ่งมีการโพสต์ตอบโต้กับเพื่อนในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุเข้าไปคอมเมนต์บอกว่า "สติเพื่อน",          "เหนื่อยก็หยุดนะเพื่อน", "พี่ยอมเถอะพี่ชาย", "มึงคิดไรของมึงวะ" , "ยอมเถอะเพื่อน เป็นห่วงมึงนะ"  โดย จ.ส.อ.จักรพันธ์ได้คอมเมนต์ตอบกลับว่า "ตายดีกว่าที่จะยอม"
    เป็นที่น่าสังเกตว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ฆ่าชิงทองที่ลพบุรีด้วย 
    ในช่วงค่ำมีรายงานว่า สถานการณ์ยังคงตึงเครียด เนื่องจากยังคงมีประชาชนติดอยู่ในห้างจำนวนมากหลายร้อยคน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้อาวุธในการตอบโต้ได้ และยังมีรายงานว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์จับประชาชนไว้เป็นตัวประกัน 15 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ยุ่งยากขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่สไนเปอร์เข้าประจำตามจุดต่างๆ ขณะที่การไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กถูกเจ้าหน้าที่ขอให้ระงับ เนื่องจากเกรง จ.ส.อ.จักรพันธ์รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"