ระทึก! 21 ก.พ.หรือจะเป็น 'เผาจริง' พรรคอนาคตใหม่


เพิ่มเพื่อน    

        ดูเหมือนว่าวันชี้ชะตาของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จะมาเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญประกาศวันอ่านคำวินิจฉัยปม "เงินกู้พรรค" ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ โดยไม่ต้องมีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะเฮกันได้ไม่เต็มเสียงนัก จากเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่เป็นการ "เผาหลอก" จากการหลุดข้อหา "ล้มล้างการปกครอง" ไปแล้ว

      อย่างไรก็ดี "ปมล้มล้างการปกครอง" ที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับองค์กรทฤษฎีสมคบคิดอย่าง "อิลลูมินาติ" นั้น เชื่อว่าคอการเมืองหลายคนเห็นแล้วก็คงแอบขำอยู่ลึกๆ และส่วนใหญ่อีกเช่นกันก็น่าจะวิเคราะห์กันไปว่าไม่น่าจะลามถึงการยุบพรรคได้ ซึ่งผิดกับคดีเงินกู้พรรคที่มีหลักฐานชัดเจน จากที่พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค วงเงิน 191.2 ล้านบาท ที่ดูจะเป็นน้ำ เป็นเนื้อกว่าเยอะ

      เบื้องต้นพรรคอนาคตใหม่แก้เกมโดยการส่ง น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยทีมทนายความพรรค ยื่นเอกสารเพิ่มเติมพร้อมคำร้องสอดขอให้ศาลขยายระยะเวลาชี้แจงอีก 30 วัน และขอให้ศาลเปิดการไต่สวนพยาน เบื้องต้นฝ่ายธุรการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้แล้ว แต่จะขยับแบบไหนต่อก็คงต้องรอดูกัน

      อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคดีกู้เงินดังกล่าวคือ นอกจากพรรคอนาคตใหม่แล้วยังมีพรรคการเมืองอีกอย่างน้อย 31 พรรค (รวมพรรคอนาคตใหม่เป็น 32 พรรค) ที่สื่อมวลชนและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาแฉว่ามีการกู้ยืมเงินเช่นเดียวกัน ผ่านรายงานงบการเงินของพรรคการเมืองปี 2561 ที่รายงานแก่ กกต.

      คำถามคือ 31 พรรคที่เหลือ มีลักษณะการกู้ยืมเงินเหมือนหรือแตกต่างจากพรรคอนาคตใหม่?

      กฎหมายเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ได้แก่ มาตรา 66 บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองเกิน  10 ล้านบาท/พรรค/ปี มิได้ และมาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากผู้ใดทำผิดตามมาตรา 72 กกต. สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคได้

      ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น พบว่าพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินนายธนาธรจริง มีหลักฐานการกู้ยืมเงินที่นายธนาธรแจ้งในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. และสัญญาการกู้ยืมเงินในหมายเหตุงบการเงินของพรรคอนาคตใหม่ที่แจ้งต่อ กกต. และอีก 31 พรรคอื่นๆ มีการกู้ยืมเงินจริงเช่นกัน ปรากฏหลักฐานจากหมายเหตุงบการเงินของพรรคต่างๆ ที่แจ้งต่อ กกต.

      อย่างไรก็ตามยังมีความแตกต่างกัน เมื่อพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน "บุคคลเดียว" คือนายธนาธร วงเงิน 191.2 ล้านบาท ตามการตีความของ กกต. ตามมาตรา 66 คือเป็นการรับ "ประโยชน์อื่นใด" ที่พรรคการเมืองมิควรได้เกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี จึงเข้าสู่มาตรา 72 คือรู้หรือควรรู้ว่าได้รับ "ประโยชน์อื่นใด" โดยมิชอบ จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ไม่ใช่กรณี "รับเงินบริจาค" อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน

      ขณะที่ 31 พรรคที่เหลือ ส่วนใหญ่แจ้งในหมวดหนี้สินว่ามีการให้กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค "จ่ายเงินทดรองจ่าย" ไปก่อน ซึ่งแตกต่างจากการทำสัญญา "กู้ยืมเงิน"

      อย่างไรก็ตามมีอย่างน้อย 7-8 พรรค ที่เขียนระบุชัดเจนว่าเป็นการ "กู้ยืมเงิน" แต่จำนวนเงินที่กู้ยืมนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดย 7-8 พรรคเหล่านี้กู้ยืมเงินหลักล้าน หลักสิบล้านบาทเท่านั้น ไม่มียอดถึงร้อยล้านบาทแต่อย่างใด

       นี่คือข้อแตกต่างสำคัญระหว่างคดีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ กับ 31 พรรคการเมืองที่เหลือ แต่อย่างน้อยที่สุดมี 7-8 พรรคที่แจ้งทำสัญญากู้ยืมเงินลักษณะเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ที่ กกต.จำเป็นต้องทำการตรวจสอบต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว

      แม้พรรคอนาคตใหม่จะแก้เกมด้วยการพยายามยกประเด็นเอกสารหลุดตั้งแต่ชั้น กกต. ว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนมีเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควร "ยกฟ้อง" โดยเรื่องไม่ต้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับในแง่กฎหมาย ที่พรรคอ้างว่าไม่มีข้อกฎหมายไหนห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน และ เงินกู้ไม่ใช่รายได้และไม่ใช่เงินบริจาค แต่เรื่องนี้ก็ไม่มีมรรคผลใดๆ เมื่อมีจดหมายข่าวจาก กกต.ออกมาระบุชัดเจนแล้วว่า 21 ก.พ.นี้ "รู้เรื่อง"

      หมายความว่าหากพรรคอนาคตใหม่ถูก "เผาจริง" ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ พรรคอื่นที่เข้าข่ายก็ต้องเตรียมดอกไม้จันทน์เพื่อรอวันฌาปนกิจด้วยเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้คงไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสังคมมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ต่างจับจ้องถึงเส้นทางบนเวทีการเมืองของ "พรรคอนาคตใหม่" เป็นสาระสำคัญว่า ท้ายที่สุดแล้วชื่อของพรรคจะยังปรากฏอยู่ในสารบบการเมืองไทยอยู่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ จะนำไปสู่เหตุการณ์อะไรในสนามการเมืองต่อไป… 

ใบไม้ห้าแฉก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"