“ปิยบุตร” นำ ส.ส.อนค.ซักฟอกศาลรัฐธรรมนูญ ลั่นไม่เห็นด้วยที่ไม่เปิดไต่สวนพยานคดีกู้เงิน สงสัยนัดชี้ชะตาก่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่กี่วัน หวั่นทำให้ อนค.ถูกยุบ กก.บห.โดนตัดสิทธิ์และไม่ได้อภิปราย ยันไม่ลาออก กก.บห. พร้อมสู้ถึงที่สุด หากโดนยุบจะเดินสายอภิปราย 6 รมต.นอกสภา ยอมรับเตรียมพรรคใหม่ไว้เรียบร้อย

     ที่รัฐสภา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมด้วย ส.ส.พรรค ร่วมแถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้มีการไต่สวนพยานในคดีพรรค อนค.กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนัดวันอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า พวกเราพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ เพราะมีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่ามีเอกสารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลุดออกมา ยืนยันว่า กกต. ดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยมิชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และระเบียบของ กกต. เนื่องจาก กกต.ได้ส่งเรื่องพรรค อนค.เข้าอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน และมีการยกคำร้องโดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึง 2 คณะ ซึ่งตามกฎหมายเรื่องต้องยุติทันที แต่ กกต.ยังคงยืนยันเดินหน้าดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป 
    อีกทั้งการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องอ้างฐานความผิดการได้เงินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือแหล่งที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 72 เพื่อไปร้องขอยุบพรรค กรณีที่กล่าวหาพรรค อนค. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดและไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรค อนค.ต่อสู้คดีในฐานความผิดตามมาตรา 72 แต่อย่างใด รวมทั้งเอกสารหลุดของ กกต. ทางพรรคตั้งใจไว้ว่าจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดกระบวนการไต่สวน เพื่อเรียกเอกสารดังกล่าวออกมาจาก กกต. และนำมาพิสูจน์กันในศาล ซึ่ง กกต.ยังไม่ยอมรับว่าเป็นของจริงหรือไม่จริง แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดโอกาสนี้ไป 
    นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า พยานบุคคล 17 ราย ที่พรรคได้ยื่นรายชื่อให้กับศาล รธน.หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่มีความเห็นว่าพรรค อนค.ไม่มีความผิดสามารถกู้เงินได้ และหลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.ที่มติยกคำร้องของพรรค อนค. ว่าไม่มีความผิด ดังนั้นเราต้องการเรียกพยานบุคคลเหล่านี้ให้มาพิสูจน์ ชี้แจงต่อหน้าตุลาการศาล รธน.ทั้ง 9 ท่าน แต่น่าเสียดายที่ศาล รธน.ไม่เปิดโอกาสให้เราสู้ในศาล การไม่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวน และเมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ของศาลในทำนองเดียวกันในอดีต เช่น กรณีการบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด พบว่ามีการต่อสู้และเปิดโอกาสไต่สวนในศาล แต่คดีของเรากลับปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจวินิจฉัยว่าไม่จำเป็นต้องเปิดกระบวนไต่สวนพยานหลักฐานในชั้นศาล
    "หากดูตามจังหวะเวลาแล้ว จะเห็นได้ว่าเมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดำรินัดพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมานั่งคุยกันเรื่องการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ สุดท้ายช่วงบ่ายได้ข้อสรุปว่า การอภิปรายเริ่มต้นในวันที่ 24 ก.พ.นี้ แต่ตกมาช่วงเย็นศาลรัฐธรรมนูญก็มีข่าวออกมาระบุว่าพรรค อนค.ไม่มีโอกาสขอไต่สวนพยานหลักฐานในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับกำหนดวันอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 15.00 น. ตารางเวลาที่ตนพูดมาทั้งหมดนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนมากวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา ว่าอย่างนี้พรรค อนค.มีโอกาสที่จะถูกยุบพรรคก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะทำให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ถูกตัดสิทธิ์และไม่มีโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปจนถึงว่าหากพรรค อนค.ถูกยุบ ส.ส.ของพรรคจะย้ายไปสนับสนุนรัฐบาล ทำให้สภาวะเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลหมดไปได้  แต่เรารู้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนตร์ว่าต้องการดึง ส.ส. ต้องการตัดสิทธิ์ กก.บห. ต้องการทำลายอุดมการณ์ของพรรคการเมือง ไม่ให้เขาได้ต่อสู้ทางการเมืองต่อไป วิธีการต่อสู้กับการยุบพรรคที่ดีที่สุดคือการทำให้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนตร์ที่ชื่อว่ายุบพรรคไม่สมหวังให้ได้" 
    เลขาธิการพรรค อนค.กล่าวว่า เรายังเชื่อมั่นในความยุติธรรม เรายังคงเชื่อมั่นว่าศาล รธน.จะวินิจฉัยคดีนี้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม และพวกเราพรรค อนค. ยืนยันว่าจะทำให้วัตถุประสงค์ของการยุบพรรคครั้งนี้ไม่สำเร็จให้จงได้ เรายืนยันว่า ส.ส.ของพรรคอนค.จะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกในนามพรรค อนค. ยืนยันว่า ส.ส.ของพรรค แม้พรรคจะถูกยุบ ก็จะเดินหน้าอภิปราย 6 รัฐมนตรีอย่างเอาการเอางาน จริงจัง และแข็งขันต่อไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรค อนค.เตรียมประเด็นและข้อมูล ทั้งยังมีประเด็นใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีปรากฏในสื่อมาก่อน และมีประเด็นหนักๆ ที่อาจทำให้รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งไม่ได้ รวมถึงมีประเด็นชี้ขาดสำคัญที่ทำให้รัฐบาลเสียความชอบธรรมลงอย่างสิ้นเชิง หากพรรค อนค.ถูกยุบจริงๆ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. และตน จะเดินสายอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คนนอกสภา เพื่อผสมผสานกับ ส.ส.ในสภาต่อไป
    ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อชี้แจงต่างๆ ที่ได้ชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ นายปิยบุตรกล่าวว่า เอกสารที่เราได้มอบให้ศาลรัฐธรรมนูญมีทั้งหมด 19 หน้า ซึ่งเราจะมีการเผยแพร่ลงเพจและเว็บไซต์ของพรรคต่อไป ตั้งแต่ประเด็นกระบวนการพิจารณาของ กกต.ไปถึงเรื่องกฎหมาย ว่าการกู้เงินนั้นสามารถทำได้ นอกจากนั้นยังมีบันทึกการระบุหลักฐานและพยานบุคคล 
    ถามว่า เมื่อมีแนวโน้มว่าอาจมีการยุบพรรค เป็นไปได้ไหมว่ากก.บห.จะลาออกเพื่อเปิดทางให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน นายปิยบุตรกล่าวว่า เรามั่นใจในความบริสุทธิ์ และพรรคจะไม่ถูกยุบ การใช้วิธีการให้ กก.บห.ลาออกจาก ส.ส. นั่นแสดงให้เห็นถึงการยอมจำนนต่อความอยุติธรรม พรรคอนาคตใหม่ไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม และจะต่อสู้ถึงที่สุด ทุกอย่างยังมีหนทางของมัน หากไม่ได้เป็น ส.ส. ยืนยันว่าจะทำงานการเมืองต่อไปแน่นอน เมื่อไรก็ตามถ้านายธนาธรหรือตน หรือ กก.บห.คนใดก็ตามหยุดการต่อสู้ทางการเมือง เท่ากับว่านั่นกำลังเข้าทางผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเขาต้องการให้พวกตนหยุด แต่ยืนยันว่าเราไม่หยุด
    เมื่อถามว่าจะมีการย้ายไปพรรคใหม่หรือไม่ นายปิยบุตรยอมรับว่า มีการตระเตรียมกันไว้เรียบร้อย และเราจะทำให้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สำเร็จให้จงได้ ถ้าเขาอยากดูด ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ไป เขาจะไม่ได้ อยากให้ตนหรือธนาธรหยุดเล่นการเมือง เขาจะไม่เห็น หากจะทำลายความคิดแบบพรรคอนาคตใหม่ จะทำไม่สำเร็จ
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่รู้สิ เป็นเรื่องของศาล ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมเดินสายอภิปรายนอกสภา ก็แล้วแต่เขา.