ลำดับการเลือกตั้งใหญ่ สนามกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.ยกจังหวัด ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายไผ่ ลิกค์ เขตเลือกตั้งที่ 2 พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายอนันต์ อำนวยผล และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย
ต่อมาศาลพัทยาอ่านคำพิพากษาให้จำคุก พ.ต.ท.ไวพจน์ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากคดีที่ 13 นปช.ร่วมกันชุมนุม บุกรุกไปยังโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช พัทยา ก่อความวุ่นวายขัดขวางการประชุมอาเซียนซัมมิท ปี 2552
ส่งผลให้ พ.ต.ท.ไวพจน์ ขาดการความเป็นสมาชิกภาพส.ส.
ด้านสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศให้มีการจัดเลือกตั้งซ่อม ในวันที่ 23 ก.พ. ทั้งนี้ เขตเลือกตั้งที่ 2 ครอบคลุมอำเภอพรานกระต่าย อำเภอลานกระบือ อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอไทรงาม (เฉพาะตำบลมหาชัย ตำบลหนองคล้า ตำบลหนองทอง และตำบลพานทอง) อำเภอเมืองกำแพงเพชร (เฉพาะตำบลสระแก้ว)
ในรอบนี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 3 คน ในส่วนของแชมป์เก่าส่งนายเพชรภูมิ อาภรรัตน์ ซึ่งเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.ไวพจน์ ลงสนาม ส่วนพรรคเพื่อไทยส่ง นายกัมพล ปัญกุล ซึ่งถือเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ท้าชิง ปิดท้ายด้วย นายอิทธิพล แตงเล็ก จากพรรคภาคเครือข่ายไทย
อย่างไรก็ตาม ในรอบการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่มีปัญหาอยู่นี้ ผู้ที่ได้คะแนนเป็นอันดับสอง ได้แก่ อดุลรัตน์ แสงประชุม 18,626 คะแนน และอันดับที่สาม ได้แก่ สุขวิชชาญ มุสิกุล 13,261 คะแนน
ทว่า พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ในรอบการเลือกตั้งซ่อม เพราะยึดถือเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับพื้นที่ที่เคยมีการเลือกตั้งซ่อม ว่าจะไม่ส่งผู้สมัครตัดคะแนนกับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเป็นมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาล
โดยยึดเกณฑ์จากคะแนนเมื่อครั้งเลือกตั้ง 24 มี.ค. หากใครได้คะแนนมากที่สุดก็จะมีสิทธิ์ส่งผู้สมัครแก้มือในรอบเลือกตั้งซ่อม ส่วนพรรคใดได้คะแนนน้อยก็ต้องถอยให้ ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงตัดสินใจไม่ส่ง “สุขวิชชาญ” ซึ่งผู้สมัครรายนี้ก็เข้าใจในเงื่อนไขดี
แต่สำหรับ นพ.ปรีชา มุสิกุล อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นบิดาของ “สุขวิชชาญ” เหมือนไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ จนนำสู่การยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรค เพื่อขอลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อยเมื่อ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
เนื่องจากเห็นว่า “สุขวิชชาญ” มีเปอร์เซ็นต์ที่จะได้เดินเข้าสภา เพราะทางฝั่งพลังประชารัฐ แม้จะเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.ไวพจน์ แต่ยังอายุเพียง 28 ปี ถือเป็นเด็กน้อยทางการเมือง แม้อำนาจของพ่อยังมีอยู่ แต่รอบนี้คงใช้ได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิมแล้ว
ส่วนพรรคเพื่อไทยที่ส่งก็เพราะรักษาสถานะ และเป็นการเช็กคะแนนนิยมของชาวเมืองกล้วยไข่ที่มีต่อเพื่อไทยด้วย
สำหรับเหตุผลเรื่องมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อครั้งสมัยเลือกตั้งใหญ่ที่นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมาเป็นอันดับสองรองจากพรรคอนาคตใหม่ อันดับที่สาม พรรคพลังประชารัฐ และอันดับที่สี่ พรรคชาติไทยพัฒนา
เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตนี้ ถ้าตามมารยาทพรรคร่วมรัฐบาลที่มีสิทธิ์ส่งผู้สมัครต้องเป็นพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียว แต่ในความเป็นจริง พรรคชาติไทยพัฒนา ลงแข่งด้วย โดยที่พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐไม่คัดค้านแต่อย่างใด
ดังนั้น การเลือกตั้งซ่อมเมืองกล้วยไข่ ประชาธิปัตย์ก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับพลังประชารัฐ
ด้วยประการฉะนี้ “นพ.ปรีชา” จึงน้อยใจ งอนให้กับผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ จึงร่อนจดหมายไขก๊อก
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารงานของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” มีทั้ง ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. และบุคลากรคุณภาพ ทยอยลาออก อาทิ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นต้น สะท้อนถึงความขัดแย้งและความเป็นเอกภาพที่หัวหน้าพรรคเอาไม่อยู่ ทั้งที่ในภาวะเช่นนี้ควรจะรักษาแนวร่วมไว้ให้ได้มากที่สุด
แต่สุดท้ายก็จากไปอีกหนึ่ง ที่สำคัญคนที่อยู่ในพรรคตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมีใจให้ “จุรินทร์”!!!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |