อืมม์ม์ม์...ดูๆ ชักทำท่าออกอาการ สั่นๆ ขึ้นมามั่งแล้ว สำหรับฝ่ายรัฐบาลต่อการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ช่วงปลายเดือนกุมภาฯ ที่กำลังใกล้จะมาถึง แม้ว่าตัวผู้ถูกอภิปรายในแต่ละราย ไม่ว่า บิ๊กตู่, บิ๊กป้อม, บิ๊กป๊อก ฯลฯ ออกจะนิ่งๆ เฉยๆ เก็บอาการได้ดีพอสมควร แต่บรรดา องครักษ์พิทักษ์นาย ทั้งหลายนี่สิ!!! ชักจะ พั่บ-พั่บ-พั่บ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

                                       ------------------------------------------

                คือถ้าดูจาก แผนการเล่น ของฝ่ายรัฐบาล ในการเตรียมการรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ ดูๆ มันจะไม่ได้เป็นไปตามแผนการเล่นโดยแบบฉบับมาตรฐาน อย่างประเภท 4-4-2, 4-3-3 หรือ 4-3-2-1 อะไรต่อมิอะไรมากมายซักเท่าไหร่ เพราะดูแล้ว...น่าจะหนักไปทาง 0-0-10 นั่นแหละเป็นหลัก หรือถอยมาออกันอยู่ที่หน้าประตู อุดประตู คอยทำหน้าที่พิทักษ์และปกป้องผู้นำรัฐบาล กันซะเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ บิ๊กตู่, บิ๊กป้อม ท่านต้องการให้เป็นไปเช่นนั้น หรือไม่ต้องการให้เป็นไปเช่นนั้น ก็ยังยากที่จะสรุปได้...

                                      -----------------------------------------

                แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ไม่ว่าจะ แรมโบ้, แรมบ้า, แรมบ๊องส์ ฯลฯ หรือแรมอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ดูจะพยายามแสดงบทบาทในการอุดประตู การพิทักษ์ ปกป้อง ผู้ถูกอภิปรายอย่างนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี แบบชนิดออกจะรกรุงรัง เกินไปซะหน่อย ออกมาห้ามโน่น ห้ามนี่ ขู่โน่น ขู่นี่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะอาการ แบบ ปากกล้า-ขาสั่น อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ทั้งๆ ที่น่าจะปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ น่าจะเหมาะกว่า หรือน่าจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา ต่อระบบและระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องถือเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา สำหรับกระบวนการตรวจสอบทั้งหลาย...

                                      ----------------------------------------------

                การถอยมาตั้งรับ อุดประตู โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามทำประตูได้เลยนั้น...แม้จะเป็นอะไรที่ เซฟ ที่ปลอดภัยเอาไว้ก่อน แต่มันก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ มิใช่น้อย อีกทั้งเป็นแผนการเล่นที่ไม่ว่าทีมฟุตบอลสโมสรไหนๆ ถ้าคิดจะงัดมาใช้ ก็มักต้องถูก แฟนบอล แม้แต่สโมสรตัวเอง โห่ไล่ โห่ฮาป่า กันไปเสมอๆ คืออย่างน้อย...ก็ควรแสดงออกถึงอาการที่คิดจะฮึดสู้เอาไว้มั่ง เช่นทิ้งกองหน้า เอาไว้หน้าปากประตูของฝ่ายตรงข้ามไว้ซักราย สองราย ได้จังหวะฝ่ายบุก ฝ่ายรุก เกิดผิดพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ ยังมีสิทธิ์สาดยาว มีสิทธิ์โจมตี โต้กลับ แบบ เคาน์เตอร์ แอทแทค และอาจช่วยให้กองหลังฝ่ายตรงข้าม ไม่กล้าดันขึ้นมาสูง อันเป็นการช่วยผ่อนคลายแนวตั้งรับของตัวเองไปในตัว...

                                   ------------------------------------------------

                แต่ถ้าลองคิดจะวางแผนการเล่น แบบ 0-0-10 หรือแบบไม่คิดจะทิ้งกองหน้า กองกลาง เอาไว้เลย แต่ละคน แต่ละราย ลงมาอุดประตู ลงมาล้อมกรอบ พิทักษ์และปกป้องผู้ถูกอภิปราย ปานประดุจ ไข่ในหิน อันนี้...แม้ว่าฝ่ายค้านจะยิงประตูไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว แต่ก็ใช่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะมีโอกาสได้รับความชื่นชม ยินดี ได้เป็นที่ยกย่อง สรรเสริญ ต่อบรรดาแฟนบอล หรือบรรดากองเชียร์ทั้งหลายก็หาไม่ เผลอๆ...อาจถูกโห่ ถูกฮาป่า อย่างที่ว่าเอาไว้แล้ว ยิ่งโดยแผนการเล่นของฝ่ายค้าน ที่ถูกออกแบบ ดีไซน์ เอาไว้โดยอภิมหาโค้ช ระดับ มูรินโญ มาเอง อย่าง สารวัตรเหลิม นั้น ดูจะไม่ได้หวังผลแพ้-ชนะ ภายในสนาม หรือภายในช่วงเวลา 90 นาที หรือ 120 นาที แต่อย่างใด...

                                     ------------------------------------------------

                แต่กะจะไปเอาแพ้-เอาชนะกัน นอกสนาม นั่นแหละเป็นหลักใหญ่ จะโดยอาศัยบรรดา ฮูลิแกน ที่ดักรอ ซุ่มรอ คอยเล่นงานฝ่ายรัฐบาล หรือกองเชียร์รัฐบาล กันอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ หรือจะโดยอาศัย บรรดา ฮูลิเกรียน ในโลกโซเชียล มีเดีย ที่เตรียมตัดแต่ง ตัดต่อ เตรียมโพสต์ เตรียมแชร์ ไม่ว่าข่าวจริง หรือข่าวปลอม กันอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ดังนั้น...ถ้าหากฝ่ายรัฐบาลดันงัดเอาแผนการเล่นแบบ 0-0-10 ออกมาใช้ ก็ยิ่งเท่ากับเข้าทาง เข้าเท้า และเข้าตีน มูรินเหลิม อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                    ------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...ก็อย่าถึงกับต้องไปกลัว ต้องออกอาการขาสั่นพั่บ-พั่บ-พั่บ กันก่อนล่วงหน้า ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สบายๆ ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกลัว น่าจะเข้าท่ากว่า เป็นไปในแบบที่ คุณปู่ใจดี อย่าง บิ๊กป้อม ท่านสรุปเอาไว้สั้นๆ นั่นแหละว่า...ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร...แค่พูดเรื่องจริงก็จบ...ใช่ก็ใช่-ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อะไรประมาณนั้น ส่วน เรื่องจริง ที่ว่า มันจะจริง-ไม่จริง ใช่-ไม่ใช่ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นภาระ หน้าที่ ของบรรดากองเชียร์ หรือบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย เก็บไปนั่งคิด นอนคิด เป็นการบ้านเอาเองก็แล้วกัน...

                                 ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Leo Rosten ... “Don’t add to the truth; if you do, you will subtract from it. – จงอย่าเพิ่มเติมความจริง เพราะหากท่านเพิ่มเติม ความจริงจะลดลง...”

                              --------------------------------------------------------