ทนายตั้มเอาคืน แจ้งกลับตำรวจ


เพิ่มเพื่อน    


    ตำรวจมีนบุรีบุกสอบแฟนเอมี่ในเรือนจำคลองเปรม หลังทนายตั้มระบุเป็นผู้นำเอกสารทางคดีมาให้ ด้านเจ้าตัวแจ้งดำเนินคดีตำรวจกระทุ่มแบนปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เหตุไม่ยอมรับมอบตัว แต่กลับส่งกำลังไปจับ
    เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (รอง ผบก.น.3) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรีได้ไปสอบปากคำนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ แฟนหนุ่มของเอมี่ อาเมเรีย จาคอป นางเอกชื่อดังที่ถูกดำเนินคดีพร้อมแฟนในคดียาเสพติด ในเรือนจำคลองเปรม ตามที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหา ร่วมกันนำสืบ/แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ/และเบิกความเท็จต่อศาลมีนบุรี ในคดีเอมี่ให้การว่าแฟนหนุ่มของเอมี่เป็นผู้นำเอกสารมาให้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดการสอบสวนได้ หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำพยานแวดล้อมเพื่อหาพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลเพิ่มเติม ก่อนจะรวบรวมสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอน ส่วนการติดตามตัวนายทอมมี่ จาคอป น้องชายของเอมี่ จากการตรวจสอบได้เดินทางไปอยู่กับครอบครัวในต่างประเทศก่อนที่จะมีการออกหมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการติดตามตัวไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
    ด้านความเคลื่อนไหวของนายษิทรา มีรายงานว่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา นายษิทราได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากทราบข่าวว่าถูกออกหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรสาครในข้อหา นำสืบหลักฐานอันเป็นเท็จ จึงรีบเดินมางมามอบตัวเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ อ้างว่ายังไม่เห็นหมายจับดังกล่าว นายษิทราจึงเดินทางกลับไป
    ทั้งนี้ พ.ต.ท.ธนนท์ ล้นเหลือ รอง ผกก.สืบสวน สภ.กระทุ่มแบน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่เห็นหมายจับนายษิทรา ก็คงยังไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างใด และก็มิได้รับแจ้งความจากนายษิทราด้วย 
    ต่อมาเวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรสาครออกหมายจับนายษิทรา กับพวก ในข้อหาร่วมกันนำสืบ แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เบิกความเท็จต่อศาลจังหวัดสมุทรสาครเป็นคดีที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่สำนักงานของนายษิทรา
    หลังจากนั้นไม่กี่นาที นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้ามายัง สภ.กระทุ่มแบน เพื่อมอบตัวในคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ตามมาตรา 180 วรรค 2 จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีทีมงานติดตามมาด้วย 4-5 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ได้นำตัวทนายตั้มเข้าห้องสอบสวน 
    จนถึงเวลา 13.10 น. หลังสอบปากคำเสร็จ ทนายตั้มได้ออกหมายจากห้องสอบสวน พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองถูกตำรวจกระทุ่มแบนกลั่นแกล้ง โดยได้มาขอมอบตัวที่สถานีตำรวจตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมรับมอบตัว กลับให้กลับบ้านไปก่อน โดยมีเจตนาที่จะจับตนในวันนี้เพื่อให้เรื่องอึกทึกครึกโครมเป็นข่าว ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงขอแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    นอกจากนี้ ทีมงานของทนายตั้มยังได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 แสนบาท เพื่อประกันตัวสู้คดีต่อไป
    สำหรับคดีที่ทรายตั้มเข้าแจ้งความ ระบุว่า รอง ผกก.สภ.กระทุ่มแบนนายหนึ่งละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 
    ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. นายษิทราได้เดินทางเข้ามาแสดงตนขอมอบตัวต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบนแล้ว หลังทราบว่าตัวเองถูกออกหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึง สภ.กระทุ่มแบน กลับไม่มีตำรวจคนไหนออกมารับมอบตัว ทั้งๆ ที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวก็อยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยอ้างเหตุว่าหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครยังมาไม่ถึง และหมายจับยังไม่เรียบร้อย ต้องแก้ไขเอกสารเพิ่มเติม ทำให้นายษิทราต้องเดินทางกลับบ้านไปก่อน จนกระทั่งในช่วงเช้า ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นที่สำนักงานทนายความของนายษิทรา เพื่อควบคุมตัวบุคคลตามหมายจับ ทำให้นายษิทราและผู้ที่เกี่ยวข้องเกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"