6 ก.พ.63 - ที่รัฐสภา เกียกกาย นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมด้วย ส.ส. พรรค ร่วมแถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้มีการไต่สวนพยานในคดีพรรค อนค. กู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนัดวันอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 21 ก.พ. 63 ว่า พวกเราพรรค อนค. ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ เพราะมีข้อเท็จจริงปรากฎแล้วว่า มีเอกสารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลุดออกมา ยืนยันว่า กกต. ดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยมิชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และระเบียบของ กกต. เนื่องจาก กกต. ได้ส่งเรื่องพรรค อนค. เข้าอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน และมีการยกคำร้องโดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึง 2 คณะ ซึ่งตามกฎหมายเรื่องต้องยุติทันที แต่ กกต. ยังคงยืนยันเดินหน้าดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป
อีกทั้งการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องอ้างฐานความผิดการได้เงินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือแหล่งที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 72 เพื่อไปร้องขอยุบพรรค กรณีที่กล่าวหาพรรค อนค. เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด และไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรค อนค. ต่อสู้คดีในฐานความผิดตามมาตรา 72 แต่อย่างใด รวมทั้งเอกสารหลุดของ กกต. ทางพรรคตั้งใจไว้ว่าจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดกระบวนการไต่สวน เพื่อเรียกเอกสารดังกล่าวออกมาจาก กกต. และนำมาพิสูจน์กันในศาล ซึ่งเราทราบดีว่า กกต. ยังไม่ยอมรับว่า เป็นของจริง หรือไม่จริง และไม่มีการอธิบายให้ศาลได้รับฟังว่า กระบวนการพิจารณาชั้น กกต. ทำกันอย่างไร มีการข้ามขั้นตอนหรือไม่ แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดโอกาสนี้ไป
“พยานบุคคล 17 ราย ที่พรรคได้ยื่นรายชื่อให้กับศาลรัฐธรรมนูญ หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่มีความเห็นว่าพรรค อนค. ไม่มีความผิด สามารถกู้เงินได้ และหลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. ที่มติยกคำร้องของพรรค อนค. ว่าไม่มีความผิดในข้อหาดังกล่าว ดังนั้น เราต้องการเรียกพยายนบุคคลเหล่านี้ ให้มาพิสูจน์ ชี้แจงต่อหน้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 ท่าน แต่น่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดโอกาสให้เราสู้ในศาล การไม่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวน ทำให้พรรค อนค. เสียโอกาสในการสืบพยานสำคัญในชั้นศาล และเมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ของศาลในทำนองเดียวกันใสนอดีต เช่น กรณีการบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด พบว่า มีการาต่อสู้ และเปิดโอกาสไต่สวนในศาล แต่คดีของเรากับปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจ วินิจฉัยว่า ไม่จำเป็นต้องเปิดกระบวนไต่สวนพยานหลักฐานในชั้นศาล”
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หากดูตามจังหวะเวลาแล้ว จะเห็นได้ว่าเมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดำรินัดพรรคร่วมฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลมานั่งคุยกันเรื่องการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ สุดท้ายช่วงบ่ายได้ข้อสรุปว่า การอภิปรายเริ่มต้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ แต่ตกมาช่วงเย็น ศาลรัฐธรรมนูญก็มีข่าวออกมาระบุว่าพรรค อนค. ไม่มีโอกาสขอไต่สวนพยานหลักฐานในชั้นศาลรัฐธรรมนูญพร้อมกับกำหนเวันอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 15.00 น. ตารางเวลาที่ตนพูดมาทั้งหมดนี้ทำให้พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนจำนวนมากวิเคราะห์ไปต่างๆ นาๆ ว่า อย่างนี้มีโอกาสที่พรรค อนค. มีโอกาสที่จะถูกยุบพรรคก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะทำให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ และไม่มีโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปจนถึงว่าหากพรรค อนค.ถูกยุบส.ส.ของพรรคจะย้ายไปสนับสนุนรัฐบาล ทำให้สภาวะเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลหมดไปได้ ฯลฯ แต่ตนเรียนเสมอว่า ภาพยนตร์ที่เรียกว่ายุบพรรค ดำเนินการมาแล้วหลายครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา เรารู้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนต์ว่าต้องการดึงส.ส. ต้องการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ต้องการทำลายอุดมการณ์ของพรรคการเมือง ไม่ให้เขาได้ต่อสู้ทางการเมืองต่อไป วิธีการต่อสู้ กับการยุบพรรที่ดีที่สุดคือ การทำให้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนตร์ที่ชื่อว่ายุบพรรคไม่สมหวังให้ได้
“เรายังเชื่อมั่นในความยุติธรรม เรายังคงเชื่อมั่นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีนี้อย่างถูกต้อง และเป็นธรรม และพวกเราพรรคอนค.ยืนยันว่าจะทำให้วัตถุประสงค์ของการยุบพรรคครั้งนี้ไม่สำเร็จให้จงได้ เรายืนยันว่าส.ส.ของพรรคอนค.จะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกในนามพรรคอนค.อย่างแน่นอน และในท้ายที่สุด ต่อให้ผู้กำกับภาพยนต์เรื่องนี้จะเดินหน้ายุบพรรคให้ได้ก็ยืนยันว่า ส.ส.ของพรรค แม้พรรคจะถูกยุบก็จะเดินหน้าอภิปราย 6 รัฐมนตรี อย่างเอาการเอางาน จริงจัง และแข็งขันต่อไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคอนค. เตรียมประเด็น และข้อมูล ทั้งยังมีประเด็นใหม่ๆที่ไม่เคยมีปรากฎในสื่อมาก่อน และมีประเด็นหนักๆที่อาจทำมห้รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งไม่ได้ รวมถึงมีประเด็นชี้ขาดสำคัญที่ทำให้รัฐบาลเสียความชอบธรรมลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ หากพรรคอนค.ถกยุบจริงๆ นายธนาธร จึงรุ่งรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. และตน จะเดินสายอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน นอกสภาเพื่อผสมผสานกับส.ส.ในสภาต่อไป” นายปิยบุตร กล่าว
เมื่อถามถึง ข้อชี้แจงต่างๆที่ ได้ชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ นายปิยบุตร กล่าวว่า เอกสารที่เราได้มอบให้ศาลรัฐธรรมนูญมีทั้งหมด 19 หน้า ซึ่งเราจะมีการเผยแพร่ลงเพจ และเว็บไซต์ของพรรคต่อไป ตั้งแต่ประเด็นกระบวนการพิจารณาของ กกต.ไปถึงเรื่องกฎหมาย ว่าการกู้เงินนั้นสามารถทำได้ นอกจากนั้นยังมีบันทึกการพบหลักฐานและพยานบุคคล
ถามว่า เมื่อมีแนวโน้มว่าอาจมีการยุบพรรค เป็นไปได้ไหมว่า กรรมการบริหารพรรคจะลาออกเพื่อเปิดทางให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน นายปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันเช่นเดียวกับคดีก่อนหน้านี้ ว่าเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ และพรรคจะไม่ถูกยุบ การใช้วิธีการให้กรรการบริหารพรรคลาออกจาก ส.ส. นั่นแสดงให้เห็นถึงการยอมจำนวนต่อความอยุติธณรม พรรคอนาคตใหม่ไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม และจะต่อสู้ถึงที่สุด ทุกอย่างยังมีหนทางของมัน
ถามต่อว่า ถ้าหากไม่ได้เป็น ส.ส.แล้ว นาย ปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันว่าจะทำงานการเมืองต่อไปแน่นอน เมื่อไรก็ตามถ้านายธนาธร หรือตน หรือกรรมการบริหารพรรคคนใดก็ตามหยุดการต่อสู้ทางการเมือง เท่ากับว่านั่นกำลังเข้าทางผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเขาต้องการให้พวกผมหยุด แต่ผมยืนยันว่าเราไม่หยุด
“ทุกวันนี้ก็คุยกับเพื่อนสมาชิกในพรรค ว่าเราสู้ต่อแน่นอน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นแค่ร่างกายในรูปของพรรคการเมืองเท่านั้น แต่เป็นจิตวิณญาณ อุดมการณ์ และความคิด แม้ร่างกายจะถูกทำลายไปอย่างไร แต่สิ่งเหล่านี้จะยังคงอยู่และสืบเนื่องต่อไป”นายปิยบุตร กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการย้ายไปพรรคใหม่หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า มีการตระเตรียมกันไว้เรียบร้อย และเราจะทำให้วัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนต์เรื่องนี้ไม่สำเร็จให้จงได้ ถ้าเข้าอยากดูด ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ไปเขาจะไม่ได้ อยากให้ผมหรือธนาธรหยุดเล่นการเมืองเขาจะไม่เห็น หากจะทำลายความคิดแบบพรรคอนาคตใหม่ จะทำไม่สำเร็จ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |