เรือดำน้ำสหรัฐเริ่มติดตั้งมิสไซล์หัวรบนิวเคลียร์จิ๋ว


เพิ่มเพื่อน    

เพิ่มความเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์ กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศติดตั้งมิสไซล์พิสัยไกลรุ่นใหม่ติดหัวรบนิวเคลียร์ขนาดค่อนข้างเล็กที่มีอานุภาพทำลายล้างต่ำไว้ในเรือดำน้ำ เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธคล้ายกันของรัสเซีย

แฟ้มภาพ เรือดำน้ำยูเอสเอส โอไอโอ ติดมิสไซล์นำวิถีของสหรัฐ (Photo by Dave Fliesen/U.S. Navy via Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ กล่าวว่า นักวิจารณ์หลายรายแสดงความวิตกว่าอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กลงยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ของการถูกใช้งาน เนื่องจากสร้างความเสียหายน้อยกว่า ฉะนั้น จึงทำให้เกณฑ์กำหนดเส้นแบ่งความขัดแย้งด้านนิวเคลียร์ลดต่ำลงไปด้วย

    แถลงการณ์ของจอห์น รู้ด ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กล่าวว่า การวางกำลังอาวุธนิวเคลียร์อานุภาพทำลายต่ำ W76-2 มีความจำเป็นต่อการป้องปรามประเทศที่อาจเป็นศัตรูของสหรัฐ เช่น รัสเซีย จากความเชื่อที่ว่าการที่คู่แข่งมีอาวุธนิวเคลียร์อานุภาพต่ำ จะทำให้ได้เปรียบสหรัฐและชาติพันธมิตร โดยทึกทักเอาว่า การมีเพียงอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่อานุภาพทำลายล้างสูงในคลังแสงสหรัฐจะไม่ตอบโต้ประเทศอื่นที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิง "ยุทธวิธี" ขนาดเล็กในการโจมตีก่อน

    วิลเลียม อาร์กิน และฮานส์ คริสเต็นเซ็น เขียนบทความลงเว็บไซต์ของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันว่า หัวรบนิวเคลียร์ W76-2 มีอานุภาพขนาดประมาณ 5 กิโลตัน ในขณะที่หัวรบนิวเคลียร์ที่สหรัฐติดตั้งบนเรือดำน้ำปกตินั้นมีอานุภาพทำลายขนาด 455 กิโลตัน และ 90 กิโลตัน เปรียบเทียบกับระเบิดปรมาณู 2 ลูกที่สหรัฐทิ้งลงเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิของญี่ปุ่นช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2488 ซึ่งมีขนาด 15 กิโลตัน และ 21 กิโลตัน

    ทั้งคู่กล่าวว่า หัวรบนิวเคลียร์ใหม่ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กนี้ถูกติดตั้งไว้กับเรือดำน้ำ ยูเอสเอส เทนเนสซี ที่ลาดตระเวนอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก

    ก่อนหน้านี้ เพนตากอนเคยกล่าวไว้ในรายงานทบทวนท่าทีด้านนิวเคลียร์ ปี 2559 ว่าสหรัฐจะวางกำลังอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดเล็ก ท่าทีนี้เกิดขึ้นจากทัศนะที่ว่ารัสเซียกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ด้วยความคาดหมายว่าจะสามารถใช้ได้โดยไม่ยั่วยุให้เกิดการโจมตีระดับทำลายล้าง ซึ่งเป็นพื้นฐานของหลักการป้องปรามนิวเคลียร์สมัยสงครามเย็นที่ว่า การทำลายล้างที่สร้างความพินาศด้วยกันทั้งสองฝ่าย

    การวางกำลังหัวรบนิวเคลียร์ขนาดเล็กในเรือดำน้ำครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังสหรัฐถอนตัวจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางเมื่อปีที่แล้ว ข้อตกลงกับรัสเซียที่ทำไว้ตั้งแต่ยุคสงครามเย็นนี้มีเป้าหมายลดความเสี่ยงของความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ด้วยการห้ามขีปนาวุธและมิสไซล์ครูซชนิดยิงจากพื้นที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ พิสัยระหว่าง 500-5,500 กิโลเมตร โดยสหรัฐอ้างว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงจากการพัฒนามิสไซล์ SSC-8

    นอกจากนี้ สหรัฐและรัสเซียกำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจด้วยว่าจะต่ออายุสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ปี 2553 หรือไม่ด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"