สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่น่าจะอยู่ในช่วงกำลังพีกสุด

                ในอู่ฮั่นคงจะปิดเมืองไปอีกสักพัก  

                ส่วนในไทย หลังการกลับบ้านของ ๑๓๘ ชีวิต นำความโล่งใจมาสู่พี่น้องทั้งประเทศ

                และโชคดีไม่มีใครติดเชื้อ

                ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอยู่เดิม ทยอยหาย และกลับบ้าน

                น่าภาคภูมิใจ หมอไทยเก่ง จึงยังไม่มีผู้เสียชีวิตในไทยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

                อีกฟากหนึ่งสถานการณ์การเมืองเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง

                ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาล     

                เคาะวันอภิปรายลงตัวแล้ว วันที่ ๒๔-๒๖ กุมภาพันธ์ ลงมติวันรุ่งขึ้น

                อาจขยายเวลาซักฟอกไปถึง ๒๗ กุมภาพันธ์ ลงมติวันถัดไป

                แต่ตงิดๆ กับเพื่อไทย โดยเฉพาะ "อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" เลขาธิการพรรค ที่บอกว่า.....

                .......สุดท้ายจุดจบของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงจะไม่แตกต่างจากผู้นำกองทัพคนอื่นๆ ที่เริ่มต้นด้วยการยึดอำนาจอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายอาจจบลงด้วยการถูกโห่ไล่จากประชาชนอย่างอนาถ......

                พล.อ.ประยุทธ์ อาจพบจุดจบด้วยการถูกประชาชนรุมกระทืบก็ได้ ใครจะไปรู้

                แต่...ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ "อนุดิษฐ์" เองต่างหาก

                พูดแบบนี้ ศึกษาบทเรียนจากประวัติศาสตร์หรือยัง

                การยึดอำนาจที่จบลงด้วยการถูกประชาชนโห่ไล่อย่างอนาถหลังสุดคือใคร

                ใครคือผู้ก่อเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

                จำชื่อ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ได้หรือเปล่า

                ถ้าจำได้  "อนุดิษฐ์" ต้องจำได้ด้วยว่าใครคือผู้สนับสนุน พล.อ.สุจินดา

                จำพรรคสามัคคีธรรมได้หรือเปล่า 

                พรรคที่มีเลขาธิการพรรคชื่อ นาวาอากาศตรี ฐิติ นาครทรรพ

                แล้ว ฐิติ นาครทรรพ เป็นใคร ใช่คุณพ่อของ "อนุดิษฐ์" หรือเปล่า

                พรรคสามัคคีธรรมคือ "พรรคมาร" ที่มีส่วนสังหารประชาชนไป ๔๔ คน สูญหายอีก ๔๘ ราย แต่ตัวเลขจริงอาจมากกว่านี้

                ถ้าบอกว่า พ่อ ลูก เป็นคนละคนกัน แนวความคิดทางการเมืองต่างกัน ก็ไม่เป็นไร

                ในวันที่ ฐิติ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรคสามัคคีธรรม

                วันนั้นมีรองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรมคนหนึ่งชื่อ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์"

                คนเดียวกับ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในวันนี้

                ในอดีตพรรคสามัคคีธรรม พรรคมาร หนุนคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ทำรัฐประหารรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อปี ๒๕๓๔

                และพบจุดจบในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

                วันนี้คนที่เคยอยู่ในพรรคมาร อยู่ร่วมในรัฐบาลเผด็จการทหาร มีการสังหารประชาชน จะมาอวดอ้างตัวว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยได้อย่างไร

                น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ.