"กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ดูเหมือนสภาพการเมืองไทยในบรรยากาศที่คลุ้งไปด้วย “ฝุ่นพิษ PM 2.5” รวมทั้งเชื้อไวรัสโคโรนาจากแดนมังกรก็เอาไม่อยู่ โดยใน วันพฤหัสบดี 6 ก.พ.นี้ ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำเลขที่ 3531/2552 ในคดีแกนนำ นปช.ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเมื่อปี 2550 ภายหลังจากเลื่อนการอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 23 ก.ย.2562 เนื่องจากจำเลยทั้ง 4 รายคือ “วีระกานต์ มุสิกพงศ์” “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” “เหวง โตจิราการ” และ “วิภูแถลง พัฒนภูมิไท” กลับคำให้การใหม่เป็นรับสารภาพ ...๐ ไม่รู้ว่าการรับสารภาพหรือจำนนต่อหลักฐานจะทำให้ศาลฎีกาปรานีหรือไม่อย่างไร ซึ่งคงต้องรอลุ้นติดตามกันต่อไป ซึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นได้จำคุกทั้ง 4 ราย 4 ปี 4 เดือน แต่ในชั้นอุทธรณ์ได้ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ...๐

นั่นคือกรรมของคนเสื้อแดงที่ได้สร้างไว้ ส่วน กรรมที่ “ทั่นผู้ทรงเกียรติ” ทั้งหลายได้กระทำไว้ในการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในการเสียบบัตรแทนกันนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็ทำงานรวดเร็วปาน “กามนิตหนุ่ม” ได้นัดวินิจฉัยในคดีดังกล่าวโดยไม่ต้องไต่สวนในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. เวลา 13.30 น.แล้ว ...๐ ที่น่าสนใจคือ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมไปยังศาลในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยและคณะรวม 82 คนได้ยื่นมา พร้อมทั้งยังแถมกรณีเสียบบัตรทุกกรณีเพิ่มไปด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ต้องลุ้นระทึกกันทีเดียว ทั้งในตัวของ “ร่างกฎหมาย” และ “ทั่นผู้ทรงเกียรติ” เพราะไม่ว่าเหรียญจะออกหน้าไหนก็เชื่อว่าจะมีฟีดแบ็กออกมา แน่นอน ...๐

“กรรม” ยังไม่หมด เพราะในวันที่ 21 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญก็นัดอ่านคำวินิจฉัย “ดาบสอง” ของพรรคอนาคตใหม่ ว่าด้วย การกู้ยืมเงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191 ล้านบาท โดยศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. เวลา 15.00 น. ซึ่งบรรดา หมอดูหมอเดาจับยามสามตาจากวันและเพลาที่องค์คณะตุลาการนัดแถลงแล้ง ฟันธงได้อย่างเดียวว่า “อนาคตหมด” แน่นวล ...๐

แล้วผลกระทบก็ส่งตรงไปยังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ซึ่งอาจถึงขั้นต้องมีการตีความกันใหญ่โตว่าญัตติจะมีอยู่หรือไม่อย่างไร เพราะขนาด “ญัตติ” ที่ผ่านไปแล้วยังมีการขอให้ “ประธานสภา” วินิจฉัยเนื้อหาอันเป็นเท็จและรุนแรงเกินกว่าเหตุกันเลยทีเดียว ...๐

ที่น่าสนใจเข้าไปอีก การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจเป็นครั้งท้ายๆ ของ “ตุลาการ 5 ท่าน” ที่จะต้องหมดวาระลง ทั้ง “นุรักษ์ มาประณีต” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ “จรัญ ภักดีธนากุล” “ชัช ชลวร” “บุญส่ง กุลบุปผา” และ “อุดมศักดิ์ นิติมนตรี” ซึ่งล่าสุดอยู่ในขั้นตอนของการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในชั้นสภาสูง ก็ได้กำหนดวาระประชุมใน วันที่ 11 ก.พ. ที่จะลงมติแล้วทั้ง 5 รายชื่อ จะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 125 คะแนน ซึ่งรายชื่อทั้ง 5 คือ “อุดม สิทธิวิรัชธรรม” “วิรุฬห์ แสงเทียน” “จิรนิติ หะวานนท์” “ชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์” และ  “นภดล เทพพิทักษ์”...๐

หันกลับมาส่อง “กมธ.คาเฟ่” กันบ้าง เพราะประชุมคราใดก็เปิดรอบเรียกแขกเสมอๆ ล่าสุดก็เอาอีกแล้ว เมื่อ “สิระ เจนจาคะ" ยื่นหนังสือให้ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ประธาน กมธ.สอบที่ตัวเองรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก็ไม่รับ โดยอ้างว่าแทรกแซงการประชุม ทำให้ลูกคู่อย่าง “ปารีณา ไกรคุปต์" ใช้มาดนิ่มๆ ของสาวสวยระบุว่า “สองมาตรฐาน” งานนี้ชาวบ้านชาวช่องมองแล้วบอกได้คำเดียวว่า “เบื่อ” และ “เซ็งโคตร” เพราะดูแรกๆ อาจฮาและมันส์ แต่หากมันฉายซ้ำฉายซ้อนก็ทำให้เอียน จนถึงขั้นว่าน่าจะยุบ กมธ. ไล่ตั้งแต่ประธานยันสมาชิกทั้งชุดกันเลยทีเดียว ...๐

ทิ้งท้ายด้วยข่าวต่างประเทศที่ดุเด็ดไม่แพ้กัน โดยเป็นแวดวงการเมืองของแดนมะกัน ในการแถลงนโยบายประจำปีคองเกรส เพราะเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาสหรัฐ (State of the Union) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง “นางแนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครต ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทรัมป์ ได้ฉีกสำเนาคำแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในทันที ทั้งที่ “ทรัมป์” กำลังลงจากโพเดียมแถลง เรียกว่าขิงก็ราข่าก็แรงกันไม่แพ้พี่ไทยจริงๆ ...๐

...ท.ศักดิ์