5 ก.พ. 63 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์เฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้
การก่อเกิดและชีวิตของขบวนการประชาชนทางการเมือง
โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อบรรลุภารกิจก็จะสลายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทย ซึ่งจะสลายตัวไปเมื่อมีการทำรัฐประหารสำเร็จ องค์กรจัดตั้งของมวลชนอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นเครื่องมือเบิกทางให้กับการทำรัฐประการก็ถือว่าบรรลุภาระหน้าที่ก็สลายตัวไป แต่ถ้ายังทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต่อก็อาจถูกจัดการโดยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้
ฝ่ายมวลชนที่ต่อต้านขบวนการจารีตนิยมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต่อต้านการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่แล้วมาในอดีตจะเป็นขบวนการ 14 ตุลาคม 2516 หรือ พฤษภา 2535 ก็มีอายุไม่นาน แม้จะประสบความสำเร็จในการขับไล่เผด็จการทหารบางช่วงเวลา มักมีปัญหาความขัดแย้งและหรือถูกทำให้สลายตัวไป
ตรงข้ามกับการก่อเกิด นปช. ขบวนการประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการของคนเสื้อแดงที่ต่อสู้มายาวนานตั้งแต่ 2549 จนปัจจุบัน 2563 มีความสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ ถูกจับกุมคุมขัง คดีความมีทุกประเภท ตั้งแต่หมิ่นประมาทไปจนถึงผู้ก่อการร้าย โทษจำคุกส่วนใหญ่ก็หนัก แม้จะเป็นข้อหาหมิ่นประมาทก็ตาม เมื่อพูดถึงคนในองค์กรนปช. ก็หมายถึงองค์กรสันติวิธีที่ไม่มีกองกำลังอาวุธ ไม่มีการยึดสถานที่ราชการ หรือยึดทำลายร้านค้า, ตึกรามบ้านช่อง ไม่ใช่ขบวนการเผาบ้านเผาเมืองและล้มเจ้าแต่ประการใด แต่การใส่ร้ายป้ายสี โจมตีด้วยความเท็จและมุ่งทำลายล้างจากฝ่ายจารีตนิยม เผด็จการทหาร ยังดำรงอยู่ สืบทอดมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาอำนาจเผด็จการทหารและชนชั้นนำจารีตนิยม
คำถามคือขณะนี้สถานการณ์ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและนปช. เป็นอย่างไร?
ดิฉันคิดว่าสถานการณ์ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ขยายตัว และมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งในส่วนพรรคการเมืองและประชาชนทั่วไป ในขณะที่แกนนำนปช.เดิม ก็ต้องสาละวนกับการต่อสู้คดี ทั้งทางอาญา, แพ่ง และเข้าคุกเป็นส่วนใหญ่ เราก็มีคนใหม่ ๆ แกนนำใหม่ ๆ พรรคการเมืองใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยภาพรวมดิฉันคิดว่าดีกว่าเมื่อก่อนนี้ แม้จะไม่มีการชุมนุมขนาดใหญ่ดังยุคก่อนก็ตาม เพราะเป็นต้นไม้ที่ผลัดใบเก่า ผลิตใบใหม่ แตกกิ่งก้านสาขามากขึ้น ไม่ใช่พุ่งชะลูดเป็นไผ่ลำเดียว แต่เป็นการแตกกอ ขยายตัว ด้านหนึ่งอาจคิดว่าไม่มีความเป็นเอกภาพ แต่ดิฉันพิจารณาว่าตราบเท่าที่ฝ่ายปฏิปักษ์อำนาจประชาชนเป็นหนึ่งเดียวชัดเจน การต่อสู้ของประชาชนก็จะมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ใหญ่ร่วมกัน นี่คือเอกภาพในเป้าหมายปัจจุบัน จังหวะก้าวในการต่อสู้น่าจะไม่ยากในการทำความเข้าใจ และปฏิบัติได้อย่างเป็นเอกภาพ และยังต้องใช้หลักแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตน, กลุ่มตน เหนือกว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
ส่วนแกนนำนปช. เดิม ๆ ส่วนมากก็เวียนกันเข้าคุกและต่อสู้คดียาวนานนับสิบ ๆ ปี ขาและแขนก็ถูกพันธนาการโดยโซ่ตรวนทางกฎหมาย (ที่ประชาชนไม่ได้เขียนและไม่ได้ใช้อำนาจ) และบ้างก็ไปสังกัดพรรคการเมืองต่าง ๆ กัน ทั้งที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยและพรรคฝ่ายเผด็จการ ถ้ายึดผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก หวังผลตอบแทนจนได้เข้าอยู่เป็นอำนาจรัฐ ภาวะนักต่อสู้ก็จะหมดไป บางคนไม่หมดก็จริง แต่ภาวะนักต่อสู้หรือนำการต่อสู้จะจางไปเรื่อย ๆ
นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลา (และเรื่องราว) พิสูจน์คน ว่าเป็นนักต่อสู้ประชาชนจริงหรือไม่ แต่ไม่ต้องวิตกไป เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ การต่อสู้ของประชาชนที่ก้าวหน้านั้นมีชีวิต ไม่ได้หยุดนิ่ง ยึดติดกับบุคคลหรือองค์กรใด ๆ
นี่เป็น 13 ปีของการต่อต้านเผด็จการที่ยาวนานกว่าการต่อสู้ของขบวนการประชาชนใด ๆ ที่เคยมีมาในอดีต เมื่อภารกิจยังไม่บรรลุ การต่อสู้ของประชาชนก็จะขับเคลื่อนต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |