นายกฯ ระบุไม่มีประเทศไหนแก้ PM 2.5 ได้ 100% แต่แก้ไขให้ลดลง 70-80% ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศภายนอก ขอประชาชนช่วยเหลือตัวเองกันบ้าง จวกยับพวกเล่นการเมือง เลวบิดเบือน ทำให้เกิดปัญหา ขณะที่ "ป้อม-ป๊อก" เผยรัฐมนตรี-ผวจ. กระตือรือร้นหลังถูกคาดโทษปรับออกจากตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหา PM 2.5 ว่าการที่จะให้รัฐบาลทำโน่นนี่ให้เต็มที่ ประชาชนจะมั่นใจหรือไม่ ถ้ารัฐบาลทำไป 100% แล้วจะแก้ได้ 100% ตนไม่เห็นประเทศไหนแก้ได้ 100% มีแต่แก้ไขให้ลดลง 70-80% ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศภายนอกด้วย ขอให้เข้าใจตรงนี้ อากาศจากภายนอกเพื่อนบ้านเข้ามาครอบมันก็สะสมฝุ่นละออง เราก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าไม่ให้ความสำคัญ รัฐบาลให้ความสำคัญทุกอย่าง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า แต่ต้องเข้าใจว่าการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ หากเกิดผลกระทบกับคนจำนวนมากจะต้องทำอย่างไรในมาตรการที่เหมาะสม ใครที่ช่วยเหลือตัวเองได้ก็ช่วยเหลือตัวเองบ้าง ถ้ามีสตางค์ก็ช่วยซื้อกันเองบ้าง ข้อสำคัญ หน้ากากที่ใช้อย่าทิ้งส่งเดช เพราะมันเป็นขยะติดเชื้อ ไม่รู้ว่าเชื้ออะไรบ้าง ต้องถูกทำลาย ต้องเข้าใจและคิดให้รอบคอบ
“การให้ความรู้ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลทำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนเลวๆ ชอบไปบิดเบือน ชอบทำให้เกิดปัญหา ผมคิดว่าต้องทำงานสร้างสรรค์ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลอะไรก็แล้วแต่ วันนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาอยู่ ท่านก็จะเล่นการเมืองกันอยู่แบบเดียว ผมว่ามันไม่ถูก เพราะนี่คือประเทศของท่านด้วยหรือไม่ใช่ประเทศของฝ่ายค้าน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ขู่จะปรับรองนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดออก หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ ว่าให้ทำไม่ได้เสียก่อน ตอนนี้เราก็ทำไปตามขั้นตอน ส่วนที่ปริมาณฝุ่นเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่นั้น เกิดจากความกดอากาศต่ำ ทำให้ฝุ่นไม่กระจาย เมื่อถามว่านายกฯ คาดโทษเช่นนี้จะทำให้ทุกคนกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทุกคนมีความตั้งใจทำงานและมีความกระตือรือร้นอยู่แล้ว เพราะเราทำให้ประชาชน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหา PM.2.5 ว่านัยของ พล.อ.ประยุทธ์คือการกำชับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. และสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติงานที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบด้านอื่นตามมา จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ บังคับใช้กฎหมายให้มากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ที่สุดของพื้นที่ต่างจังหวัด คือการเผาในที่โล่งแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ต้องสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ซึ่งที่กำลังประสบปัญหาคือ การเผาทางการเกษตร เช่น การเผาอ้อย เพราะไม่สามารถเข้าไปตัดอ้อยโดยใช้เครื่องมือได้ จึงใช้วิธีการเผาแทน โดยในปีต่อไปเกษตรจะต้องวิธีการปลูกอ้อยให้รถตัดสามารถเข้าไปตัดอ้อยได้ เมื่อถามว่านายกฯ มีการคาดโทษ ใครปล่อยให้มีปัญหาฝุ่นจะพิจารณาการทำหน้าที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องตั้งใจทำงาน หากตั้งใจแล้วคงจะไม่มีปัญหาอะไร
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการเผาทางการเกษตร จนทำให้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในหลายพื้นที่ว่า หัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาขณะนี้คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่ที่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าวต้องมีความเข้มงวด แม้ช่วงเวลาที่มีการเผาอ้อยสิ้นสุดแล้ว ส่วนเรื่องการเผาหญ้าและซังข้าว ทางผู้ว่าฯ จะต้องประสานกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอ ต้องเข้มงวดการเผาพืชผลทางการเกษตร จังหวัด ต้องพูดคุยกับเกษตรกรเพื่อทำความเข้าใจเรื่องกระจายการเผา ไม่ให้เผาพร้อมกันในทุกพื้นที่ หรือในจังหวัดเดียวเผาพร้อมกัน
สำหรับพื้นที่ กทม. ทางผู้ว่าฯ กทม.จะต้องพิจารณามาตรการให้เข้มงวดในช่วงที่มีปัญหาค่าฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้น ทางกระทรวง ทส.พร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลให้กับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาหมอกควันยังมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ คือหมอกควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่พัดมาตามลม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ระบุว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องใดไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจถูกพิจารณาการทำงานและปรับออกจากตำแหน่ง นายวราวุธกล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ ถ้าใครทำงานไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกฯ เราไม่ควรคิดว่าจะอยู่ในตำแหน่งได้นานแค่ไหน แต่ควรคิดว่าจะแก้ปัญหาที่มีได้อย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |