บันทึกหน้า 4...ท.ศักดิ์


เพิ่มเพื่อน    

            เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับชีวิต “การทำงาน” ในปี 2561 ซึ่งต้องเรียกว่าเป็น “พระเอก” ประจำวันก็ว่าได้สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะไล่มาตั้งแต่เช้าในพิธีทำบุญตักบาตร “ลุงตู่” ก็ให้สัมภาษณ์สื่อแบบหลายครั้งหลายครา เหมือนกับอัดอั้นมาหลายเพลาในช่วงเทศกาลอย่างไรอย่างนั้น...๐ ที่สำคัญ “หัวหน้าคณะคืนความสุข” ตอบทุกประเด็นทุกเม็ด ที่เป็นข้อสงสัย ที่สำคัญยังเป็นครั้งแรกในวาระตั้งแต่การยึดอำนาจรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ที่ “ลุงตู่” ยอมรับแบบไม่เหนียมแล้วว่าเป็น “นักการเมือง” แม้จะมีสร้อยต่อก็ตามทีว่า “ผมเป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหาร และอีกหน่อยก็จะเป็นประชาชน ผมไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองสักวัน แต่ที่ต้องเป็น เพราะด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบที่เข้ามาทำงานให้กับประเทศ”...๐ นอกจาก “วลี” แบบยอมรับตรงๆ ของลุงตู่ในเรื่องนักการเมืองแล้ว ยังได้ตอกกลับทั้ง “ปู่พิชัย รัตตกุล” รวมถึง “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” อดีตรองนายกฯ แบบฟังแล้วได้แต่สะอึก เพราะลุงตู่สวนหมัดตรงกับข้อเสนอของ “หม่อมอุ๋ย” ในการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาเกษตรตกต่ำว่า “ม.ร.ว.ปรีดิยาธรน่าจะรู้ดี เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อน และสมัยที่ทำงานอยู่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้” โหเรียกว่าเข้าปลายคางเล่นเอาเกือบน็อกทีเดียว...๐ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง-เศรษฐกิจเท่านั้นที่ “ลุงตู่” ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี แม้แต่เรื่อง “หมาๆ” ลุงตู่ยังเตรียมบทไว้ด้วย หลังจาก “ศรีสุวรรณ จรรยา” ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกรณีนายกฯ ซื้อลูกหมาบางแก้ว 3 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงเอง 1 ตัว และจะให้ “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ" รองนายกฯ และ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย คนละตัว โดยลุงตู่บอกว่า “ยังไม่ได้ให้ใคร และยังไม่มีใครตอบรับจะนำไปเลี้ยง และเขารู้กฎหมายว่าจะรับเงินเกิน 3,000 บาทไม่ได้ ถ้าเขาจะรับสุนัขไปเลี้ยงก็ต้องจ่ายส่วนที่เกินให้กับผม” เรียกว่าเคลียร์เสร็จสรรพเลยทีเดียว...๐ เรื่อง “เทหมา” ในปีจอนั้น งานนี้อยากให้ไปฟัง “เสนอ จันทร์พุฒ” เจ้าของคอกหมาที่ลุงตู่ซื้อแล้วอาจได้สำเหนียกได้คิดกันบ้าง เพราะ “เสนอ” บอกชัดๆ ว่า “ผมไม่ได้สนใจ และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย เป็นสิทธิ์ของนายกฯ และผมก็ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายต่างๆ แค่นายกฯ มาเยี่ยมชมสุนัขที่นำไปแสดง และซื้อลูกสุนัข 3 ตัว ก็ดีใจมากแล้ว” แจ่มแจ้งไหมจ๊ะสำหรับขาการเมืองทั้งหลาย ที่เล่นทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องหมาๆ ฟังแล้วรู้สึกกันอย่างไร...๐ ยังอยู่ในช่วง “เทศกาลนับศพ 7 วันอันตราย” ไม่เอ่ยอ้างถึงจำนวนการด่าวดิ้นก็กระไรอยู่ เพราะล่าสุด “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ได้รายงานว่า ยอดรวม 6 วัน เกิดอุบัติเหตุ 3,456 ครั้ง เสียชีวิต 375 ราย และบาดเจ็บ 3,612 คน โดยมีเพียง 8 จังหวัดที่ไม่มีผู้ตาย คือ ยะลา, ระนอง, หนองบัวลำภู, นครนายก, ตรัง, ชัยนาท, นราธิวาส และน่านเท่านั้น...๐ ที่น่าสนใจคือ “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ่มสังกาศ” ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ที่ได้แจงตัวเลขตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หรือด่านจับ “เมาแล้วขับ” ว่า ในปี 2560 มีผู้กระทำผิด 168,399 ราย แต่ใน ปี 2561 จำนวน 216,895 ราย หรือเพิ่มขึ้นถึง 28.8% งานนี้คงต้องสะสางกันยาวทีเดียว เพราะงบประมาณและการรณรงค์นับหลายสิบถึงหลายร้อยล้าน แต่ตัวเลขกลับสวนทางอย่างน่าวิตกอย่างยิ่ง...๐ ไม่แปลกใจที่ “ลุงตู่” จะบอกว่าไม่พอใจกับตัวเลขผู้ตายและบาดเจ็บที่แม้จะลดลง ซึ่งนอกจากเรื่องผู้บาดเจ็บและตายแล้ว งานนี้ต้องขอฝากให้ “หัวหน้า คสช.” จัดการกับพวกเหลือบไรทั้งหลายที่ใช้โอกาสช่วงเทศกาลขูดรีดชาวบ้านชาวช่องด้วย โดยเฉพาะ “คลิป” ที่แพร่หลายออกมาถึง “มอ’ไซค์รับจ้าง” ที่อ้างว่าเป็นช่วงเทศกาล เลยคิดค่าโดยสารระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร ในราคา 400-500 บาทกันเลยทีเดียว อย่างนี้มันปล้นและกรรโชกทรัพย์มากกว่า จึงหวังว่าตำรวจผู้เกี่ยวข้องต้องดำเนินการจับกุม รวมทั้งวางกฎไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวดี สำหรับนักลงทุน และบรรดาแมลงเม่าทั้งหลาย เพราะวันทำการวันแรกของตลาดหุ้นไทย ทำสถิติใหม่ด้วยการ ปิดตลาดที่ 1,778.53 จุด เพิ่มขึ้น 24.82 จุด จากวันปิดตลาดเมื่อปี 2560 ซึ่งหุ้นที่กระฉุดเพิ่มขึ้นครั้งนี้เรียกว่าสูงสุดมาตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ 43 ปีกันเลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าในปีนี้จะมีนิวไฮแบบนี้อีกรอบหรือไม่ งานนี้คงต้องลุ้น “ลุงตู่” หากมีการเลือกตั้ง พ.ย.จริง ก็ไม่แน่ว่าสถิตินี้อาจถูกทำลายอีกครั้งในช่วงปลายปีก็เป็นได้...๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"