เมียพาผัวไปปล้นแบงก์ในโลตัสจนมุมทั้งคู่


เพิ่มเพื่อน    


    จับแล้ว ผัวเมียบุกชิงเงินแบงก์กรุงเทพในห้างโลตัสประชาอุทิศ พบประวัติเคยก่ออาชญากรรมมาแล้วทั้งคู่ ตามยึดเงินคืนได้ 4 แสน ส่วนอีกครึ่งใช้จ่ายหมด บิ๊กแป๊ะรุดสอบปากคำ
    เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลการจับกุมนายชัยวัฒน์ มีชะคะ อายุ 32 ปี และ น.ส.ผกามาศ ประดับวงศ์ อายุ 29 ปี 2 ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุปล้นธนาคารกรุงเทพ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ประชาอุทิศ 58 ย่านทุ่งครุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยท่าเรือแดง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดรวม 401,000 บาท ซึ่งหลังก่อเหตุนายชัยวัฒน์นําไปฝากไว้กับพ่อและแม่ นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนพกสั้น  ขนาด .38 จํานวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จํานวน 4 นัด และอื่นๆ อีกหลายรายการ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ภายในธนาคารกรุงเทพที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะเดินทางกลับ และมอบหมายให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดแก่สื่อมวลชวนแทน
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ร่วมกันก่อเหตุและมีการวางแผนพากันหลบหนี จำนวนเงินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 8 แสนบาท ได้คืนมาเป็นเงินสดประมาณ 4 แสนบาท บางส่วนคนร้ายนำไปซื้อทองคำ ส่วนเหตุจูงใจ ผู้ต้องหารับสารภาพว่านำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า นายชัยวัฒน์เคยมีประวัติคดีโทรมหญิงตั้งแต่ปี 2547, มีประวัติการกระทําผิดขับรถขณะเมาสุรา ประวัติการครอบครองยาบ้า เมื่อปี 2552 ส่วน น.ส.ผกามาศ มีหมายจับข้อหา รับของโจร และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับของศาลอาญาธนบุรีตั้งแต่ปี 2560
    สำหรับเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้นํารถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า และหมวกน็อกที่สวมใส่ขณะก่อเหตุไปทิ้งไว้ที่คูน้ำข้างทาง ภายในซอยโปร่งอารมณ์ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ น.ส.ผกามาศ โดยทําหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์มาส่งคนร้ายเพื่อมาก่อเหตุ และพาหลบหนี เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ดําเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานที่ได้จากทางนิติวิทยาศาสตร์ จนนําไปสู่การออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ มีชะคะ ผู้ลงมือก่อเหตุ และ น.ส.ผกามาศ ประดับวงศ์ ผู้ร่วมก่อเหตุ 
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งได้ข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ผ้าคลุมศีรษะและใบหน้าเพื่อเพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม” 
    ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายชัยวัฒน์ไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่จอดรถจักรยานยนต์ไว้ด้านข้างของห้าง ก่อนจะเดินเข้าธนาคารเป็นจุดที่สอง แล้วนำปืนไปจี้ รปภ.เพื่อชิงปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่ ก่อนกระโดดขึ้นเคาน์เตอร์พนักงานเพื่อชิงเงิน แล้วกลับออกทางเดิมที่เข้ามา ก่อนจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าถนนประชาอุทิศขาเข้า
    หลังการชี้จุดเกิดเหตุ ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญาธนบุรี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"