BEAUTY กางแผนธุรกิจลุยอินเตอร์ จ่อเปิดตลาด 15 ประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

4 ก.พ.63 : นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ อินเตอร์เนชั่นแนล บิวตี้ แอนด์ เฮลท์ บิซิเนส เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าภายใต้การจำหน่ายของบริษัท เข้าสู่การเป็นแบรนด์ด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ผ่านกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและแผนการดำเนินงานของบริษัทด้วยกันหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มความสามารถการทำกำไร มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไรจากช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศ และบริหารจัดการต้นทุนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกันบริษัทยังต้องการขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุกจำนวน 16 ประเทศ โดยมี 13 ประเทศที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในปี 2562 ซึ่งจะเน้นการทำการตลาดร่วมกันและเพิ่มจำนวนรายการสินค้า และมีอีก 5 ประเทศหลักที่เน้นการทำการตลาดเฉพาะในปี 2563 มีแผนจะพัฒนาช่องทางการตลาดและการขายเข้มข้น อาทิ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา อินเดีย ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายสินค้า, ช็อปอินช็อป , ช็อปไลเซ่นส์ และเคาท์เตอร์เครื่องสำอาง

พร้อมกันนี้ บริษัทยังเน้นการรุกตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนศึกษาการสร้างฐานธุรกิจในจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาด รวมถึงความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่และการบริหารจัดการ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีโอกาสทางธุรกิจสูง อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรด และช่องทางออนไลน์ ควบคู่ไปกับการจำนวนสินค้าใหม่ๆเข้าไปจำหน่ายในช่องทางครอสบอร์เดอร์ อีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 แพลตฟอร์ม และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มมากขึ้น

นายแพทย์สุวิน กล่าวว่า ตลาดในประเทศมุ่งเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าอุปโภค และสร้างความเข้มแข็งช่องทางร้านค้าปลีก และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆที่มีโอกาสเติบโตสูง สามารถถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ที่ไม่จำกัดเฉพาะร้านสาขา พร้อมขยายกลุ่มสินค้าอุปโภคและสินค้าสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะพัฒนาสินค้าด้านสุขภาพร่วมกับผู้ผลิตสินค้าชั้นนำด้านนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อเปิดช่องทางจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดี จากการดำเนินงานในปี 2562 ถือเป็นการปรับธุรกิจตามยุทธศาสตร์ใหม่ บริษัทได้พัฒนาตลาด วางรากฐานช่องทางในตลาดต่างประเทศ ,สินค้ากลุ่มอุปโภค รวมถึงการวางแนวทางอีคอมเมิร์ซชัดเจน เพื่อเป็นฐานการขยายตลาดในปี 2563

และสำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพและผิวพรรณ ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"