'สุทิน'ถามกลับคำว่าล้มล้างกับคำว่าฉีกรัฐธรรมนูญคำไหนแรงกว่ากัน


เพิ่มเพื่อน    


4 ก.พ.63-นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลยื่นเรื่องขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรแก้ญัตติของฝ่ายค้าน ที่ขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยอ้างว่ามีการใช้ถ้อยคำอันเป็นเท็จ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยของฝ่ายรัฐบาลว่าเป็นเท็จ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นอำนาจการวินิจฉัยของประธานสภา ส่วนตัวไม่เห็นว่าญัตติดังกล่าวเป็นเท็จอย่างไร เพราะถ้าคิดว่าเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฉีกรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเท็จ ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นคนบอกมาว่าใครเป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญ จะเป็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หรือใคร ซึ่งตนเห็นว่าเป็นความจริง แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ตนคิดว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม ควรเอาความจริงมาเป็นที่ตั้ง ถ้าเราไม่บอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนล้มล้างรัฐธรรมนูญ เราก็ไม่รู้จะไปกล่าวหาใคร หรือจะเอานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แทน ดังนั้น เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นสาระ และเราต้องฟังประธานสภาฯวินิจฉัยมากกว่ารัฐบาล

เมื่อถามว่าการใช้คำว่าล้มล้างกับคำว่าฉีกรัฐธรรมนูญ คำไหนแรงกว่ากัน นายสุทิน กล่าวว่า คำว่าล้มล้างกับฉีกไม่ต่างกัน เพียงแต่คำว่าการฉีกรัฐธรรมนูญเป็นภาษาพูด แต่ล้มล้างเป็นภาษาเขียนซึ่งความรุนแรงเท่ากัน  แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ทั้งนี้ ไม่อยากคิดว่าเป็นการตีรวนและไม่ต้องการให้เรื่องนี้มาเป็นประเด็น

ถามต่อว่าวิปรัฐบาลระบุว่ายอมไม่ได้ หากมีการอภิปรายย้อนหลังไปรัฐบาลคสช. อาจจะมีการป่วนตั้งแต่เริ่มต้น นายสุทิน กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจใช้ประเด็นนี้อยู่แล้ว เพื่อขัดจังหวะการทำงานของฝ่ายค้าน ซึ่งอยู่ที่การวินิจฉัยของประธานสภาฯ ที่นัดประชุมวันที่ 5 ก.พ. ว่าจะสามารถเท้าความไปได้แค่ไหน ยืนยันว่าเราจะทำตามข้อบังคับและกฎหมาย อย่างไรก็ตามต้องดูที่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่าเกิดขึ้นจากจุดไหน แล้วต้องมาพิจารณาดูว่าอภิปรายย้อนหลังหรือไปข้างหน้า แต่ถ้าจะให้อภิปรายแต่ข้างหน้าก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ทำให้ต้องมีการอภิปรายย้อนหลังไปถึงช่วง คสช. บ้าง เพราะหลายเรื่องเกิดจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องโยงไปถึงจุดตั้งต้นของปัญหา 

ถามถึงวิปรัฐบาลเห็นตรงกันกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่ 25-27 ก.พ. และให้ลงมติวันที่ 28 ก.พ. นายสุทิน กล่าวว่า เป็นความพยายามของฝ่ายรัฐบาลที่จะบล็อควันอภิปรายให้ชนกับวันปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 28 ก.พ.นี้  เป็นการบังคับทางอ้อม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะกดดันทำให้ผิดข้อบังคับและเจตนารมณ์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ  เพราะตามรัฐธรรมนูญต้องให้ฝ่ายค้านอภิปรายจนครบถ้วน หากอภิปรายตรงกับที่ฝ่ายรัฐบาลกำหนด แล้ววันที่ 28 ก.พ.อภิปรายไม่จบจะทำอย่างไร ต้องเปิดการประชุมวิสามัญหรือไม่ เพราะถ้าอภิปรายไม่จบก็ปิดไม่ได้  ซึ่งไม่น่าจะต้องใช้วิธีนี้ ดังนั้น ส่วนตัวยังเห็นว่าวันที่เหมาะสมควรจะเริ่มต้นเป็นวันที่ 19 ก.พ. เรื่อยไปจบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น หรือจะเร็วกว่านั้นก็ได้ฝ่ายค้านพร้อมตลอด  จะเอาวันที่ 10 ก.พ.ก็ได้ ไม่ได้มีปัญหา.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"