ตร.ระดมกำลังลงพื้นที่จังหวัดอุดรฯ เพื่อเชื่อมโยงหาตัวคนร้าย หลังพบจักรยานยนต์คนร้ายที่ก่อเหตุยิงโหดกำนันหญิง ถูกนำไปทิ้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 21 กม. เบื้องต้นรู้ผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์คนแรกแล้ว เชื่อมโยงหาตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนสามีกำนันหญิงดีใจเจอหลักฐานจุดธูปเคาะโลงบอกตำรวจให้ช่วยจับคนร้าย

4 ก.พ.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญยิงโหดนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี กำนันตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ทำทีมาซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนจะใช้ปืนยิงในระยะประชิดตัวเสียชีวิตคาบ้าน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.63) ได้พบจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกนำไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ท้ายหมู่บ้านสระคลอง หมู่ 3 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดมาไว้ที่ สภ.สังคม และจะมีการระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามหาคนที่ครอบครองรถเป็นคนสุดท้าย เพื่อจะเชื่อมโยงหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวเจ้าของรถจักรยานยนต์คนแรกแล้ว ส่วนเป้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3 – 4 เป้าก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประกบติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนการจัดงานศพที่บ้านของกำนันเตี้ย โลงศพของกำนันก็ยังคงตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่กลางบ้าน เมื่อมีข่าวพบหลักฐานสำคัญของคดีอย่างรถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อค ชาวบ้านต่างพากันตื่นเต้นยินดี โดยนายพิเดช วงค์ศิริ สามีของกำนันเตี้ย ได้จุดธูปและเคาะโลงศพกำนันเตี้ยบอกกล่าวข่าวดีนี้ให้กำนันเตี้ยรับรู้ พร้อมขอให้กำนันเตี้ยช่วยตำรวจจับผู้ร้ายที่ก่อเหตุได้เร็ว ๆ นี้ด้วย

นายพิเดช กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทราบข่าว โดยตัวรถจักรยานยนต์ยังข้องใจอยู่ว่าจะเป็นคันเดียวกันหรือไม่ แต่ส่วนหมวกกันน็อคค่อนข้างมั่นใจว่าใช่ของคนร้าย อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะขณะนี้ตนยังไม่สบายใจ มีความกระวนกระวายและไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง กลัวว่าคนร้ายเมื่อฆ่าภรรยาแล้วจะมาฆ่าตัวเองด้วย ตอนนี้ได้ขอกำลัง ชรบ.6 นาย มาช่วยดูแลความปลอดภัย มากินนอนอยู่ที่บ้านด้วย หากเจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ ตนอยากขอให้มาขอขมาภรรยาตนก่อน และขอให้ได้รับโทษประหารชีวิต การทำรุนแรงกับผู้หญิงแบบนี้ถือว่าโหดร้ายมาก หากไม่พอใจอะไรอยากตบตีสั่งสอนตนก็ไม่ว่าอะไร แต่ทำไมต้องทำทารุณถึงขั้นฆ่ากันตายด้วย

ด้าน น.ส.ศศิภา วงค์ศิริ ลูกสาวกำนันเตี้ย กล่าวว่า ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายคนหนึ่งสวมหมวกไอ้โม่งแล้วทับด้วยหมวกกันน็อคขี่รถจักรยานยนต์ มาสอบถามเส้นทางว่าถนนเส้นนี้ไปไหนได้บ้าง สอบถามว่าในละแวกนี้มีบ่อน้ำตกปลาที่เจ้าของที่ไม่หวงหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านบอกว่ามีลักษณะตรงกันหรือใกล้เคียงกับคนร้ายที่อยู่ในกล้องวงจรปิด แต่ไม่เห็นหน้า พูดภาษากลาง พูดไทยชัด ส่วนรถจักรยานยนต์ก็คุ้นตาเหมือนเคยเห็นคนแถวบ้านขับ และเคยเห็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียงเคยขี่มาซื้อของที่บ้าน อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ ขณะนี้รู้สึกดีใจที่เรื่องราวเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว อยากเจอคนร้ายอยากถามถึงสาเหตุที่ทำกับแม่ของตนเช่นนี้ และจะยังไม่เผาศพแม่จนกว่าจะจับคนร้ายได้