คลังชง ครม.คลอดแพ็กเกจกระตุ้นท่องเที่ยว เยียวยาผลพวง "ไวรัสโคโรนา" จ่อหั่นภาษีน้ำมันเครื่องบิน 20 สตางค์ต่อลิตรถึงสิ้นเดือน ก.ย. ฟุ้ง "ชิมช้อปใช้" บรรลุเป้าคุ้มค่างบ 1.9 หมื่นล้านบาท กั๊กดันเฟส 4 รอสรุปรูปแบบเหมาะสม
ที่กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาชุดมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในช่วงที่ผ่านมา โดยได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเห็นตรงกันว่ามาตรการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการดูแลภาคการท่องเที่ยวของไทยในขณะนี้ และจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะการจ้างงาน
โดยชุดมาตรการดังกล่าวจะเน้นดูแลและกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ซึ่งเป็นการกระตุ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานในภาคการท่องเที่ยว เช่นหากบริษัท ห้างร้าน โรงแรม รีสอร์ต หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีการปรับปรุงสถานที่ให้ดีขึ้น สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ และจะมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินให้กู้เพื่อปรับปรุงเพิ่มเติมด้วย โดยรายละเอียดต้องรอให้ผ่านการพิจารณาของ ครม. ก่อน
นอกจากนี้อาจจะมีการเสนอให้ ครม.พิจารณาปรับลดอัตราภาษีน้ำมันเครื่องบินด้วย เพราะทราบว่าที่ผ่านมามีข้อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังดูอยู่ แต่จากปัจจัยเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่กำลังส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องพิจารณาในส่วนนี้
สำหรับกรณีที่มีการประเมินว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตที่ถดถอยนั้น รมว.การคลังระบุว่า เรื่องผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวรัฐบาลมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนการประเมินของสำนักต่างๆ ก็เป็นเรื่องของแต่ละองค์กร แต่ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลดำเนินมาตรการต่างๆ ในการรับมือปัจจัยเสี่ยงได้ทันการณ์ มีการพิจารณาถึงช่วงจังหวะที่เหมาะสมและมีการออกมาตรการดูแลออกมา พร้อมทั้งมีการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เอกชน ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน และมีการติดตามประเมินผลมาโดยตลอด และดูว่าอะไรที่ควรดำเนินการก็เร่งทำทันที โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ไว้วางใจอยู่แล้ว แต่ไม่ประมาท
ส่วนกรณีที่มีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนนั้น คงต้องไปถามไถ่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารวมถึงผู้เกี่ยวข้อง แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
นายอุตตมยังกล่าวถึงมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 4 ว่า ยังไม่มีแผนและยังไม่ได้กำหนดว่าจะเสนอ ครม.เมื่อไหร่ และจะเสนออย่างไร โดยขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาถึงรูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสม
"ถามว่าทำไมต้องมีชิมช้อปใช้ เฟส 4 ก็เพราะหลังจากที่ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและของไทย จะเห็นว่าแม้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น แต่การค้าขายของโลกก็ยังวางใจไม่ได้ ยังต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าความต้องการในระดับโลกจะกลับมา อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ คือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 ทั้งหมดนี้ชี้ถึงความจำเป็นของรัฐบาลที่จะต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสมออกมาเพิ่มเติม โดยเรื่องชิมช้อปใช้ เฟส 4 ก็กำลังพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมอยู่" นายอุตตมกล่าว
ทั้งนี้จากการประเมินผลของมาตรการชิมช้อปใช้ ถือว่าบรรลุเป้าหมายในการใช้งบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท เพราะสามารถช่วยดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้หมุนเวียนได้ผ่านการกระตุ้นการใช้จ่าย ผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศสามารถเดินได้ และยังเป็นผลดีกับภาคการท่องเที่ยวด้วย อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการด้วยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหาและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น รัฐบาลได้มีมาตรการที่เหมาะสมออกมาดูแล
นอกจากจะบรรลุเป้าหมายในการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศแล้ว มาตรการชิมช้อปใช้ยังเป็นการพัฒนาและต่อยอดโครงข่ายดิจิทัลทางการเงินของประเทศ ผ่านระบบพร้อมเพย์ให้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลยังได้ข้อมูลจากผู้ที่เข้าร่วมมาตรการกว่า 12 ล้านคน ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ที่จะใช้ในการพิจารณาออกนโยบาย และมาตรการที่ตอบโจทย์ประชาชนและผู้ประกอบการในระยะต่อไปได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ากระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเสนอให้มีการขยายการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2562 จากเดิมที่ต้องยื่นภาษีดังกล่าวภายในเดือน มี.ค.63 ให้ขยายเวลาออกไปอีก 3 เดือน โดยสามารถชำระและยื่นแบบภาษีไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.63 เพื่อเป็นการบรรเทาให้ผู้มีรายได้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และในช่วงนี้จะได้มีเงินเหลือในการใช้จ่ายเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาปรับลดอัตราภาษีน้ำมันเครื่องบินลง เหลืออัตรา 0.20 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเก็บอยู่ที่อัตรา 4.726 บาทต่อลิตร โดยมาตรการดังกล่าวจะให้มีผลถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 (วันที่ 30 ก.ย.63) ส่วนมาตรการเกี่ยวกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ การนำค่าใช้จ่ายจากการปรับปรุงสถานที่ โรงแรม รีสอร์ต เป็นต้นมาหักลดหย่อนภาษี จะให้มีผลถึงสิ้นปี 2563.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |