ฆ่าสยอง สวป.ร่องคำ คนร้ายบุกบ้านจับเชือดคอ กระหน่ำแทงจนไส้ทะลัก ไม่หนำใจ ปาดพวงสวรรค์ไปทั้งพวง ทิ้งเบาะแสให้รู้ว่าเป็นเหตุชู้สาว ตำรวจใช้เวลาไม่นานจับฆาตกรได้ทันควัน แค้นผู้ตายมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเมียที่เป็นหมอดู เผยตั้งใจฆ่าทั้งคู่ แต่ลูกชายโทร.บอกแม่หนีได้ทัน
    ใกล้เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.มณี สาระขันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในบ้านไม่มีเลขที่ ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์-กุดหว้ากาฬสินธุ์ แพทย์ รพ.กมลาไสย ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านน็อกดาวน์ 2 ชั้นยกสูง ด้านหลังบ้านต่อออกมาเป็นห้องน้ำ พบศพ พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ อายุ 57 ปี สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกีฬา สภาพศีรษะแตก มีแผลถูกปาดคอ ถูกแทงที่หน้าท้อง ลำตัว ข้างเอว จนไส้ทะลัก และที่อวัยวะเพศยังถูกตัดขาดหายไปทั้งพวง
    ต่อมา พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้เข้ามาตรวจสอบ พบขวดแก้วบรรจุน้ำมันวางไว้บริเวณรอบบ้าน รวมไปถึงรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กจ 8218 กาฬสินธุ์ ของผู้ตาย มีร่องรอยของการถูกเผา โดยมีขวดแก้วบรรจุน้ำมันตกอยู่
    พล.ต.ต.สมนึกกล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีตำรวจระดับ สวป.ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม จึงได้มาดู พบว่าลักษณะการเสียชีวิตคงเป็นเรื่องชู้สาว เพราะเท่าที่ดูจุดที่พบศพเป็นด้านหน้าบ้านที่ต่อห้องน้ำออกมา ผู้ตายน่าจะเพิ่งออกจากห้องน้ำ แต่ไม่ทันระวังจึงถูกฆาตกรแทง หลังจากที่ฆ่าแล้วยังได้ตัดเจ้าโลกออกไปด้วย รวมทั้งพยายามจะวางเพลิงเผาบ้านด้วย แต่กลัวคนมาเห็นเข้าเลยตัดสินใจหนีไปก่อน ขณะนี้ได้สั่งชุดสืบสวนเร่งแกะรอยคนร้ายและได้เบาะแสบ้างแล้ว
    ขณะที่ นางพูลศรี ดลเจือ อายุ 57 ปี ภรรยา พ.ต.ท.จำรัส ผู้ตาย กล่าวว่า ไม่คิดว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับสามี และที่สำคัญเมื่อมาดูสภาพศพแล้วยิ่งรับไม่ได้ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายนั้นโหดร้ายเกินไป หากเจ้าหน้าที่จับตัวได้ก็ให้ดำเนินคดีถึงที่สุดและให้ได้รับโทษประหารไปเลย ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครมาก่อน เป็นคนนิสัยและอัธยาศัยดี ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่ สภ.กมลาไสย  ก่อนจะย้ายไปที่ จ.มหาสารคาม และล่าสุดได้ย้ายมาดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประมาณ 2 เดือน 
    นางพูลศรีเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับสามีรับประทานอาหารอยู่ด้วยกัน จากนั้นสามีก็มาที่บ้านเรือนไทยซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยเช่าที่ดินไว้รับซื้อไม้บ้านเก่าขาย ต่อมาลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อถูกคนฆ่าตายแล้ว ส่วนสาเหตุการถูกฆ่าจะมาจากเรื่องชู้สาวหรือเรื่องไหนนั้นตนไม่ขอพูด เนื่องจากไม่รู้รายละเอียดมาก่อน ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงคดีนี้ว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าคนร้ายคือ นายอมรสัก จิตรเกาะ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้หลบหนีไป ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนายอมรสัก ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจากการสอบปากคำพยานในเบื้องต้นทราบว่ามูลเหตุเกิดจากปมชู้สาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป
    "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอแสดงความเสียใจไปยังญาติของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต อีกทั้งได้สั่งการให้เร่งสืบสวน ไล่ล่า กดดัน และจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ประชาชนให้ความสนใจ"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้จัดชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด และชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย แกะรอยติดตามคนร้ายตั้งแต่กลางดึกหลังก่อเหตุ กระทั่งสามารถจับกุมได้แล้วขณะที่นายอมรสักหลบหนีเข้าไปในป่าเขตอำเภอสีดา จ.นครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ได้กดดันทุกทางจนคนร้ายต้องยอมเข้ามอบตัว สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายอมรสักมีอาชีพขับรถรับจ้างส่งของในกาฬสินธุ์ จากการตรวจหลักฐานทางโทรศัพท์พบว่าผู้เสียชีวิตมีการแช้ตคุยกับสาวใหญ่อายุประมาณ 40 ปี มีอาชีพเป็นหมอดูในเขต อ.กมลาไสย แบบลึกซึ้ง จึงได้ทำการสืบสวนและพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายอมรสัก สามีของหมอดูสาว จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดกาฬสินธุ์อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.18/2563 ให้จับกุมนายอมรสัก จิตเกาะ อายุ 45 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่น 
    นายอมรสักกล่าวว่า ที่ก่อเหตุฆ่าสยอง พ.ต.ท.จำรัส เพราะรับไม่ได้ที่เมียรักปันใจให้กับตำรวจนายนี้ ที่ผ่านมาตามตรวจสอบข้อมูลจากเฟซบุ๊กจึงรู้ความเคลื่อนไหวของภรรยา ซึ่งก็ตั้งใจจะฆ่าให้ตายทั้ง 2 คน และได้บอกให้ลูกรู้ ลูกจึงแอบโทรศัพท์ไปบอกภรรยาให้รู้ตัวก่อนจึงรอดไปได้ หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะรับกรรมที่ก่อไว้.