หมูป่าคลั่งกัดยาย79ปีสาหัส เร่งตรวจหวั่นพิษสุนัขบ้า/ปศุสัตว์เมืองคอนแจงกำจัดหมาติดเชื้อเท่านั้น


เพิ่มเพื่อน    

    เกิดเหตุหมูป่าเพศเมียหลุดจากคอก คลุ้มคลั่งขึ้นบ้านกัดยายวัย 79 ปี อาการสาหัส ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องเข้าช่วยไล่ตีหมูตายคากองฟาง แจ้งปศุสัตว์ตรวจสอบ หวั่นพิษสุนัขบ้า สั่งห้ามชำแหละเนื้อไปบริโภคเด็ดขาด ด้านปศุสัตว์เมืองคอนแจงกำจัดสุนัขติดเชื้อพิษสุนัขบ้าเป็นไปตามหลักควบคุมโรคระบาดหลังถูกสังคมวิจารณ์หนัก
    เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ร.ต.อ.เสนอ สุภาษิต ร้อยเวร สอบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุหมูป่า 1 ตัว เพศเมีย สีดำ อายุประมาณ 3 ปี ได้หลุดออกจากคอกของชาวบ้านมาแล้ว 3-4 วัน เกิดอาการคลุ้มคลั่งกัดประชาชนที่บ้านโคกม้า หมู่ 7 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จึงประสานกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ (จุดประโคนชัย) รีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือ
    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูง พบนางเจือง ทวันเวช อายุ 79 ปี มีร่องรอยจากการถูกหมูป่ากัดเป็นแผลฉกรรจ์ตามลำตัว ใบหน้าและลำคอหลายแห่ง จึงรีบทำการปฐมพยาบาลรักษาเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลประโคนชัย ส่วนหมูป่าได้ถูกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พากันใช้ไม้ไล่ตีจนเสียชีวิตคาอยู่ในกองฟางใกล้บ้านที่เกิดเหตุ
    สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ได้ยินเสียงคนร้องโวยวายเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย จึงพากันเดินไปดู พบนางเจืองกำลังถูกหมูป่าขึ้นคร่อมอยู่บนร่างและกัดแทะร่างกายของนางเจืองอย่างโหดเหี้ยม ชาวบ้านจึงใช้ไม้และวัตถุต่างๆ ที่หาได้ใกล้ตัวไล่ตีหมูป่าตัวดังกล่าวเพื่อไล่ไม่ให้ทำร้ายนางเจือง จากนั้นหมูป่าได้วิ่งหนี ชาวบ้านจึงตามไล่ตี เพราะเกรงว่าหมูป่าอาจจะไปกัดเด็กหรือชาวบ้านในหมู่บ้านได้รับอันตรายเหมือนกับนางเจืองอีก ก่อนที่หมูป่าจะวิ่งไปซุกกองฟางใกล้บ้านที่เกิดเหตุ ชาวบ้านจึงได้รุมตีจนหมูป่าเสียชีวิตดังกล่าว
    ชาวบ้านบอกด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านพบว่าหมูป่าตัวดังกล่าวได้คลุ้มคลั่งอาละวาดไล่ชนรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 คัน ก่อนจะมาพบว่าก่อเหตุกัดยายเจืองจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
    ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเจ้าของหมูป่า ให้การว่า ได้เลี้ยงหมูป่าตัวนี้ประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หมูป่าได้หลุดออกจากคอกและตามจับไม่ได้ แต่หมูป่าก็เดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน หากเจอคนแปลกหน้าก็มักจะวิ่งชน จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
    อย่างไรก็ตาม ได้ประสานปศุสัตว์อำเภอประโคนชัยลงพื้นที่ตรวจสอบ และสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนนำซากหมูที่เสียชีวิตไปประกอบอาหารเพื่อรับประทานโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าหมูตัวดังกล่าวอาจติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งทางปศุสัตว์อำเภอประโคนชัยจะดำเนินการนำซากหมูไปส่งตรวจพิสูจน์หาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าต่อไป
    วันเดียวกัน ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสัตวแพทย์ศิริพงษ์ พลศิริ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์เมษยน ชีวะเสรีชล นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่ชาวฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวัดเขาปรีดี ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้บันทึกคลิปวิดีโอในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการกำจัดสุนัขภายในวัดดังกล่าว แล้วนำออกไปเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ทำให้เกิดกระแสความเข้าใจคลาดเคลื่อน และเป็นที่วิจารณ์อย่างหลากหลายถึงความเหมาะสมต่อการกระทำดังกล่าว
    เบื้องต้นนายสัตวแพทย์เมษยนชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่นั้น แท้จริงแล้วเป็นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการเข้าควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าด้วยการกำจัดสุนัขที่ติดเชื้อ อันสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการสืบสวนโรคแล้วพบว่า มีสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงได้ป่วยและตายด้วยสาเหตุจากการติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ซึ่งบริเวณบ้านหลังดังกล่าวมีอาณาเขตใกล้เคียงกับวัดเขาปรีดี อีกทั้งจากการสืบสวนโรคยังพบอีกว่า สุนัขตัวดังกล่าว ก่อนตายได้เข้าไปสัมผัสกับสุนัขภายในวัด ซึ่งแง่ของการระบาดวิทยาแล้ว การแพร่ระบาดของโรคสามารถเกิดได้จากการติดต่อ การสัมผัสเลือด น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งจากสัตว์ที่ติดเชื้อ และยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด
    ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ออกประกาศให้เขต ต.ปากแพรก เทศบาลเมืองทุ่งสง เป็นเขตโรคระบาดชั่วคราวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า และจำเป็นต้องเข้าไปปฏิบัติการตามหลักวิชาการ ภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ซึ่งหากไม่ดำเนินการแล้วภายหลังสุนัขที่เหลือได้ปรากฏอาการ จะส่งผลที่เป็นอันตรายยิ่งกว่าหลายเท่าตัว
    นายสัตวแพทย์ศิริพงษ์กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังอยู่ในการควบคุมและมีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนข้อมูลล่าสุดพบมีการระบาดของโรคแล้ว 7 จุดในพื้นที่ 5 อำเภอจาก 23 อำเภอของจังหวัด คือ พื้นที่ อ.ทุ่งสง จำนวน 2 จุด อ.ชะอวด 2 จุด และ อ.ทุ่งใหญ่ อ.จุฬาภรณ์ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ อำเภอละ 1 จุด โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งได้เข้าทำการสืบสวนโรคอย่างละเอียด เพื่อป้องกันและควบคุมโรค สร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนและสัตว์เลี้ยง
    “ในกรณีของสุนัขภายในบริเวณวัดเขาปรีดี การสืบสวนสอบสวนโรคพบว่ามีการติดเชื้ออย่างแน่นอน และหากปล่อยไว้จะเกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อมนุษย์และสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดภายในบริเวณดังกล่าว จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจและเห็นใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่ได้ทุ่มเทเพื่อสร้างความปลอดภัยและความพยายามในการควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าด้วย”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"